Title: กลับตาลปัตร .....Upside down
Author:
bluesletterbox Fandom: 2PM
Pairing: Ok Taecyeon/Hwang Chansung
Rating: PG
Genre: dedicated, alternate universe, short, theme, thai language
Prompt: Conquer
Summary: การเข้ายึดครองนครแห่งหนึ่งโดยกลุ่มโจรเลื่องชื่อมาถึงจุดสิ้นสุด
Word Count: 1819
Notes: ฟิคนี้เพื่อน้องนุช(@ThE_1074)โดยเฉพาะ ถือเป็นของขวัญวันเกิดนะจ๊ะ ^^
“หัวหน้า รัชทายาทขึ้นม้าเตลิดหนีไปแล้ว”
บรรดาโจรส่งเสียงอื้ออึงรับกับข่าวน่ายินดี หัวหน้าของพวกมันคิดไม่ผิดจริงๆ ที่บุกเข้าปล้นนครเล็กๆ แต่สมบูรณ์นี้
“ทีนี้ก็เหลือแค่แต่งงานกับเจ้าหญิง แล้วหัวหน้าก็จะได้ครองนครนี้อย่างสมบูรณ์แบบ” มือขวาของหัวหน้าใหญ่กล่าวขึ้น
หัวหน้าโจรหนุ่มที่นั่งจิบเหล้าชั้นดีอยู่บนเก้าอี้ที่บุด้วยขนสัตว์อ่อนนุ่มหัวเราะเสียงดังลั่นท้องพระโรงหินอ่อนด้วยความรู้สึกพึงพอใจเป็นที่สุด เช่นเดียวกันกับลูกน้องของเขาที่ต่างพากันฝันหวานถึงการใช้ชีวิตอย่างสุขสบายที่นี่ หัวหน้าใหญ่พยักหน้าเรียกให้เสนาบดีที่ยอมสวามิภักดิ์ต่อเขาเข้ามาใกล้ พร้อมกับลูกน้องคนสนิท
“รัชทายาทของพวกแกมีแค่เจ้าขี้ขลาดที่เปิดหนีไปแล้วนั่นใช่ไหม” เมื่อเสนาบดีรับคำด้วยความขลาดกลัวเขาก็ยิ้มกริ่ม “ดี แล้วกฎของที่นี่ ถ้าไม่มีรัชทายาท ชายที่ได้ครองคู่กับเจ้าหญิงเป็นลำดับแรกจะได้ครองบัลลังก์ ถูกต้องไหม” เสนาบดีถึงจะหน้าซีดสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวก็ยังพยักหน้ารับแต่โดยดี
“ดี ดีอะไรอย่างนี้” ใบหน้าคมคร้ามของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความยินดี “ไปพาตัวเจ้าหญิงทั้งหมดมาที่นี่ เดี๋ยวนี้ ข้าจะทำการคัดเลือกเจ้าสาว วะฮ่าฮ่าฮ่า”
ลูกน้องของเขาส่วนหนึ่งพากันเดินออกจากที่ของตนเพื่อไปจัดการตามคำสั่ง เพียงครู่เดียว เจ้าหญิงทุกองค์ก็มารวมตัวกันอยู่ที่ด้านหนึ่งของท้องพระโรง สายตาเฉียบคมของแทคยอนกวาดตาไล่มองเจ้าหญิงทุกองค์อย่างช้าๆ ทุกองค์แต่งกายมิดชิดเท่าที่ทำได้ รวมไปถึงนางกำนัลส่วนองค์ที่ยืนเยื้องไปทางด้านหลังด้วย
สายตาของเขาสะดุดเข้ากับเจ้าหญิงองค์หนึ่งที่ยืนอยู่เกือบปลายแถว มีนางเพียงคนเดียวที่ไม่มีนางกำนัลคอยรับใช้ เขานึกแปลกใจอยู่เนืองๆ ยิ่งเมื่อยามที่ได้สบสายตากันนั้น ความแข็งกร้าวในดวงตาคู่นั้น ไม่อาจทำให้เขาเชื่อได้ว่านั่นคือหญิงสาวเป็นแน่แท้ รวมกับลักษณะภายนอกที่ดูสูงโปร่งกว่าเจ้าหญิงที่เหลือทุกองค์เกือบหนึ่งฝ่ามือ
มุมปากของจอมโจรหนุ่มยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
เขากระโดดลงจากบัลลังก์ที่นั่ง ก้าวเดินไปหาเจ้าหญิงที่ปลายแถวอย่างมั่นคง ถึงจะมีศักดิ์เป็นโจร แต่แทคยอนก็มีความสง่างามในแบบที่ชายชาตรีพึงมี เขาประสานสายตากับเจ้าหญิงที่ดูน่าสงสัย ก่อนจะหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าเจ้าหญิงองค์ถัดมา
“ไม่ทราบเจ้าหญิงมีนามว่ากระไรรึ” แทคยอนอมยิ้มส่งให้
“พระนามว่าเจ้าหญิงเฟราเจ้าค่ะ” นางกำนัลด้านหลังเจ้าหญิงเป็นผู้ตอบแทนองค์ ด้วยความเป็นหญิงสูงศักดิ์ เธอจึงไม่ได้รับอนุญาตให้มองหน้า สบตา หรือปฎิสัมพันธ์กับบุรุษเพศใดที่มิใช่เครือญาติ และหากจำเป็นจะทำได้ต่อเมื่อมีนางกำนัลคอยสื่อสารแทนเท่านั้น และแทคยอนรู้ถึงเรื่องนี้ดี
“เจ้าหญิงเฟรา ข้ารู้สึกถูกชะตากับท่านเหลือเกิน เป็นไปได้ไหมที่ท่าน...” มือใหญ่แสดงท่าทางคล้ายการเปิดผ้าคลุมหน้าออก นางกำนัลน้อยตกใจลนลาน เธอกระซิบบอกนายหญิงเหนือหัวเสียงสั่น
“จะ เจ้าหญิงต้องขออภัยท่านด้วย ตามกฎของเรา เจ้าหญิงไม่อาจปฎิสัมพันธ์กับบุรุษเพศอื่นใดนอกจากเครือญาติได้ นอกเสียจาก..” นางกัดปากตัวเองด้วยรู้ว่าพูดมากไปเสียแล้ว แทคยอนอมยิ้มอบอุ่นส่งให้เป็นกำลังใจ “นอกเสียจาก?” นางกำนัลน้อยที่น่าสงสาร ใบหน้าเหยเกเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ “บุรุษเดียวที่จะได้เปิดผ้าคลุมหน้านี้ออก คือ สวามีของเจ้าหญิงเท่านั้นเจ้าค่ะ”
“งั้นหรือ อา ข้า...อยากแต่งงานกับนางเสียแล้ว” เขาเอื้อมมือไปเพื่อสัมผัสผ้าคลุมหน้าของเจ้าหญิงเฟราที่ตื่นตระหนก แต่ไม่ทันได้สัมผัสชายผ้า เจ้าหญิงปลายแถวก็เผ่นแผล่วเข้าประชิดตัวเขาพร้อมกับมีดสั้นในมือเสียก่อน ทั้งท้องพระโรงเงียบสงัดด้วยความตกตะลึง
“เจ้าจงหยุดการกระทำของเจ้าลงเดี๋ยวนี้! เจ้าโจรหยาบช้า หากว่าเรายังมีลมหายใจ เจ้ามิมีวันได้แตะต้องท่านพี่ของเราแม้เพียงชายผ้า!”
“เห?”
จอมโจรแทคยอนเลิ่กคิ้วอย่างสงสัย สีหน้าสบายๆ บอกได้ชัดว่าเขาไม่ได้กลัวการข่มขู่นี้แม้แต่น้อย เขาออกจะปลาบปลื้มไม่เสร็จกับตัวเองที่คาดเดาไว้อย่างถูกต้อง พระราชาจะต้องไม่มีรัชทายาทเพียงองค์เดียวแน่ๆ แถมเจ้าชายรัชทายาทองค์นี้ก็บ้าบิ่นเสียจนเขาถูกใจอย่างบอกไม่ถูก
“พวกเจ้าอย่าขยับ! ไม่เช่นนั้นเราจะปาดคอหัวหน้าของพวกเจ้าเสีย” หนุ่มน้อยภายใต้อาภรณ์มิดชิดของผู้หญิงตวาดเสียงดังก้อง น้ำเสียงมีอำนาจแม้จะยังไม่แตกหนุ่มดีก็ตาม ใจจริงเขาอยากจะวิเคราะห์พิจารณ์รัชทายาทน้อยองค์นี้อีกสักหน่อย แต่นิสัยโจรของแทคยอนก็มีข้อขีดความอดทนต่ำรวมอยู่ด้วย
“ส่วนเจ้า อย่า....เอ้ย! เจ้า!” แทคยอนตวัดเอารัชทายาทหนุ่มเข้าไว้ในอ้อมกอด
“ขอเชิญเจ้าหญิงทุกองค์กลับไปพักผ่อนได้ ส่วนพวกเจ้าที่เหลือ...ใครอยากไปพักก็ไปพักเสีย”
เพียงอึดใจ ท้องพระโรงที่เต็มไปด้วยผู้คนก็ว่างเปล่า เหลือเพียงลูกน้องคนสนิทของแทคยอนเพียงห้าคนเท่านั้นที่ยังอยู่
ร่างกายของเด็กหนุ่มที่กำลังเติบโตที่ถึงจะสูงโปร่งแต่ก็ยังถือว่าตัวเล็กกว่าเขาราวเกือบครึ่งฝ่ามือนั้นมีกล้ามเนื้อกำยำไม่ใช่เล่น แรงขัดขืนต่อสู้ของอีกฝ่ายมีไม่สิ้นสุด ติดแต่เพียงเสื้อผ้าอาภรณ์รุ่มร่ามที่เจ้าตัวสวมใส่มาเพื่ออำพรางที่ขัดขวางไม่ให้ทำการได้สะดวก แถมยังถูกโจรเจ้าเล่ห์เหยียบส่วนปลายตรึงไว้กับพื้นอีกต่างหาก ไม่ถึงอึดใจมีดสั้นโค้งก็ตกลงสู้พื้นหินอ่อนสีขาวสะอาดตาในส่วนที่ไกลออกไป ส่วนรัชทายาทก็ถูกอีกฝ่ายจับตัวไว้อย่างแน่นหนา
“แผนดีนะเจ้าหญิง แต่ข้าน่ะมันเป็นโจร อะไรที่มันแปลกไปนิดๆ หน่อยๆ ก็รู้ไปหมดนั่นล่ะ ต้องขออภัยด้วย” แทคยอนก้มหัวให้อย่างล้อเลียน “เจ้าชื่ออะไรรึ”
“เรามีนามว่าชานซอง เป็นรัชทายาทอันดับสองของนครแห่งนี้” ด้วยขัตติยะมานะ เจ้าชายน้อยไม่ยอมละสายตาไปจากอีกฝ่าย แม้จะไม่อยากสนทนาด้วยในยามที่เสียเปรียบเช่นนี้ก็ตาม
อา ดวงตากลมโตนี่ช่างดึงดูดเหลือเกิน ทั้งความแข็งกร้าวและความมุ่งมั่น ชักอยาก...อยากเห็นหน้าภายใต้ผ้าบ้าๆ นี่สักทีแล้ว
ไวเท่าความคิด มือของแทคยอนจับปลายผ้าคลุมหน้าแล้วเลิ่กขึ้น ท่ามกลางความตกใจของทุกฝ่าย สายตาของแทคยอนจับจ้องอยู่กับใบหน้าที่ตรึงตาที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา ริมฝีปากอิ่มแดง มีรอยหยักดูคล้ายยิ้มยั่วอยู่ตลอดเวลา จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตากลมโตใสแจ๋วที่มีแววดุดันแข็งกร้าวอยู่ภายใน คิ้วเข้มได้รูป แก้มเป็นพวงน้อยๆ ผิวขาวละเอียด ดูสะอาดสะอ้านสมกับเป็นรัชทายาท
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่หัวใจของหัวหน้าโจรหนุ่มถูกขโมยไปเสียเอง
เขาดีดนิ้วเรียกลูกน้องคนสนิท “ไหน ลองว่ากฎการแต่งงานของเจ้าหญิงที่นี่มาอีกทีซิ”
“เอ่อ เจ้าหญิงมิอาจพูดคุย สัมผัส มองหน้าหรือปฎิสัมพันธ์กับบุรุษเพศอื่นใดนอกจาเครือญาติและครอบครัว จะมีเพียงบุคคลนอกเครือญาติเพียงผู้เดียวที่จะได้ยลโฉมเจ้าหญิงเป็นคนแรก บุคคลนั้นคือพระสวามีในอนาคตของนาง ที่จะได้รับเกียรติสูงสุดในการเปิดผ้าคลุมหน้าในวันอภิเษก”
แทคยอนขมวดคิ้วมุ่น “งั้นรึ” เขาเงียบนิ่งไป “งั้น...ก็จัดงานอภิเษกอะไรนี่กันเถอะ”
เสียงอุทานทั้งประหลาดใจและตกใจดังก้อง แต่พอแทคยอนยืนยันคำสั่งเดิม ความชุลมุนชุลเกน้อยๆ จึงวิบัติขึ้น เจ้าชายน้อยชานซองที่ยังขึงตามองโจรหนุ่มอยู่พยายามส่งเสียงเรียกร้องความสนใจอยู่หลายรอบกว่าแทคยอนจะหลุดออกจากภวังค์ เขาตอบรัชทายาทหนุ่มไปเบาๆ ว่า หืม? จึงโดนอีกฝ่ายตวาดกลับมาอย่างไม่ต้องสงสัย
“เจ้านี่บ้าหรือไร เราถามเจ้าว่า เจ้าหูหนวกรึที่ไม่เข้าใจว่าเราจะมิยอมให้เจ้าแตะต้องท่านพี่ของเราแม้เพียงปลายผ้า”
“ข้าได้ยินเจ้าดี เสียงเจ้าที่พูดอยู่ข้างหูข้าฟังเพลินเสียยิ่งกว่าเสียงนับเงินเสียอีก” เจ้าชายชานซองทั้งโกรธาทั้งสับสน เจ้าโจรเถื่อนนี้พูดจาวกวนไม่เข้าใจ แถมสายตาหวานเชื่อมนั่นยังชวนขนลุกบอกไม่ถูกอีกด้วย
“แล้วเจ้าเล่นตลกอะไรเรื่องอภิเษก เจ้าต้องมีแผนชั่วร้ายอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่ๆ”
โจรหนุ่มลอบกวาดสายตาสำรวจคะเนเนื้อหนังภายใต้อาภรณ์หญิงสาวก่อนเอ่ยคอบ “แผนข้าก็เหมือนเช่นเดิม จัดงานอภิเษก แล้วก็ขึ้นครองบัลลังก์เก่าของบิดาเจ้า เท่านั้นเอง”
“อย่ามายอกย้อนเรานะ”
“ข้าไม่ได้ยอกย้อน ข้าเพียงทำตามกฎบ้านเมืองของเจ้าเท่านั้น เจ้าชายน้อย”
“เจ้านี่พูดจาไม่รู้ฟัง รึไม่เข้าใจที่เราพูดว่าเราจะมิยอมให้เจ้า..” - “แล้วใครว่าข้าจะแตะต้องบรรดาพี่สาวของเจ้ากันล่ะ”
ดวงตาโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ ใบหน้าอ่อนเยาว์คร่ำเคร่งพยายามคิดหาคำตอบเอากับคำพูดของหัวหน้าโจร แทคยอนจึงฉวยโอกาสนี้ทำสิ่งที่เขาถนัด คือขโมยหอมแก้มรัชทายาทหนุ่มที่ยั่วตายั่วใจอยู่ตรงหน้า แม้จะต้องแลกกับหมัดที่แม้ไม่ถนัดแต่ก็หนักพอใช้ของเจ้าชายน้อยก็ตาม
“ก็เจ้าน่ารักจับใจข้าจริงๆ หากข้าจะแต่งกับใครเพื่อบัลลังก์ ก็ต้องเป็นเจ้านี่ล่ะ” รัชทายาทได้แต่อ้าปากค้าง ต่างกับหัวหน้าโจรเจ้าเล่ห์ที่ยิ้มกว้างจบเกือบเห็นฟันครบทั้งปาก “แล้วถ้าหากเป็นเจ้า ต่อให้ไม่มีบัลลังก์ ข้าก็ยังยอมร่วมหอลงเตียงฟัดกับเจ้าปากต่อปากดูสักหลายๆ ตั้งอยู่ดี เจ้าชายชานซอง”