(SF) GDYB Series 17-2: ตลอดไป (PG 13)

Apr 17, 2010 16:20

ตลอดไป


“ความจำเสื่อม!” สมาชิกวงบิ๊กแบงทั้ง 4 คน ฮยอนแบ และยางฮยอนซอก อุทานพร้อมกัน ภายในห้องพักหมอที่ตรวจยองแบ โดยให้พ่อแม่ของยองแบคอยดูร่างหนาอยู่ในห้องผู้ป่วย

“แย่แค่ไหนครับหมอ” ยางฮยอนซอกเอ่ยถามอย่างกังวล

“ตอนนี้คุณยองแบ จำอะไรไม่ได้เลยนะครับ แต่เรายังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นถาวร หรือชั่วคราว” คำตอบของหมอทำให้ทุกคนวิตกมากขึ้นไปอีก

“มีทางรักษามั้ยครับ ถ้าเราเอาหัวหมอนี่ไปโขกกำแพง เขาจะจำได้หรือเปล่าครับหมอ” จียงเอ่ยจริงจัง เล่นเอาทุกคนหันมามองที่ลีดเดอร์เป็นตาเดียวกัน

จียงไม่ได้ถามเพื่อก่อกวน หรือล้อเล่น ร่างบางเม้มปากแน่น ภายในหัวของเขาตอนนี้มันหมุนติ้วไปหมด ถ้าหมอนั่นลืมจริงๆ จะเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวง และเรื่องของพวกเขาทั้งสองคน ถ้ายองแบลืมจริงๆ เขาจะทำอย่างไร

“ไม่รองรับครับ แต่ถ้าทำอย่างนั้นผมการันตีได้ว่าคุณยองแบอาจจะมีความเสียหายที่สมองอย่างถาวรได้นะครับ”

“ถ้าอย่างนั้น เราทำยังไงได้บ้างครับ” ฮยอนแบที่ดูใจเย็นที่สุดเอ่ยหาทางออกกับหมอ

“คงต้องใช้เวลา ผมขอตรวจอีกหน่อย อย่างน้อยถ้าสมองไม่เป็นอะไรจริงๆ อาการความจำเสื่อมนี้ น่าจะเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น” ทุกคนเป่าปากโล่งอก จียงเงยหน้าสบตากับสมาชิกของวงคนอื่นๆ แววตาใสขึ้น อย่างน้อย ก็ยังมีความหวัง

“ชั่วคราวเหรอครับ” ท่านประธานถามหมอเพื่อให้อธิบายรายละเอียด

“คุณยองแบอาจจะจำได้ภายใน 1 วัน 1 สัปดาห์ 1 เดือน หรือ อาจจะนานกว่านั้น” ทุกคนกลับเข้าสู่ภาวะวิตกกังวลอีกครั้ง เพราะคำว่าชั่วคราวของหมอ ไม่ได้แน่นอนเลยสักนิด

“นอกจากรอแล้ว เราช่วยทำอะไรได้อีกครับ”

“พวกคุณอาจช่วยกระตุ้นความทรงจำ ด้วยภาพเก่าๆ กิจกรรมที่ทำเป็นประจำ สถานที่ที่ไปบ่อยๆ พวกนี้ก็ช่วยได้นะครับ ยังไงผมขอตัวไปนัดพยาบาลเพื่อลงตารางเวลาตรวจคุณยองแบอย่างละเอียดก่อนนะครับ

......

อาการความจำเสื่อมทำให้ยองแบต้องอยู่โรงพยาบาลต่ออีกหนึ่งสัปดาห์ งานเดี่ยวถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด ทุกคนหวังว่าร่างหนาจะจำได้ในเร็ววัน เพราะผลการตรวจอย่างละเอียดบอกว่าสมองของเขาปลอดภัย

“นายหัวแข็งชะมัด แต่ทำไมถึงลืมพวกเราได้นะ” ควอนจียง ที่ตอนนี้แทบจะย้ายเข้ามากินนอนในโรงพยาบาลกับยองแบ แอบกัดร่างหนาหลังฟังผลจากหมอ

“ฉันไม่ได้อยากลืมนะ ควอนจียง และหัวฉันก็ปูดหน่อยๆ ด้วย ไม่ได้ไม่เป็นอะไรเลยซักหน่อย” ร่างหนาเถียง เขาพยายามจำชื่อทุกคน โดยการเรียกชื่อเต็ม ที่สำหรับร่างบางแล้ว มันยิ่งกว่าการกลับไปเริ่มต้นที่ศูนย์เสียอีก ถ้าไม่นับที่โมโหกัน ยองแบเรียกชื่อเต็มของเขาเพียงครั้งเดียวตอนเจอกันครั้งแรกเท่านั้น

RRR……

“โทษที ฉันต้องไปทำงานก่อน แล้วตอนเย็นๆ จะแวะมาใหม่พร้อมพวกนั้นนะ” ร่างบางลุกขึ้นเตรียมตัวไปทำงานต่อ วันนี้พี่ใหญ่จะกลับมาจากถ่ายละครที่ต่างจังหวัด พร้อมกับที่น้องเล็กทั้งสองคนกลับจากเกาะที่ไปถ่ายรายการแฟมิลี่มาด้วยกัน

ร่างบางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ด้วยความคุ้นเคย ตามปกติ ถ้าพวกเขาสองคนไม่ได้ออกไปพร้อมกัน ฝ่ายที่ออกก่อนจะเข้ามากอดและมาจุ๊บเสมอ แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายผงะถอยหลัง แม้จะเพียงแค่เสี้ยววินาที ทำให้ร่างบางจำได้ว่า ตอนนี้อีกฝ่ายยังนึกเรื่องของพวกเขาไม่ออก

จียงเปลี่ยนท่าทางเป็นยกมือตบปุเบาๆ ที่ไหล่หนา และยกยิ้มให้ก่อนหันไปบอกลาฮยอนแบที่เดินมาส่งเขาที่หน้าประตู

ฮยอนแบโอบกระชับไหล่บางเบาๆ เชิงให้กำลังใจ ทำไมเขาจะไม่สังเกตว่า ความหวังในดวงตาใสคู่นี้มันน้อยลงทุกวันๆ

“ไม่ต้องห่วงนะ ไปทำงานเถอะ เดี๋ยวหมอนั่นก็จำได้”

“ผมไปก่อนนะฮยอง ตอนเย็นๆ จะมาใหม่ครับ”

เมื่อร่างบางออกจากห้องไป ฮยอนแบหันมาเห็นน้องชายนั่งขมวดคิ้ว เหม่ออยู่บนเตียง

“ยองแบ”

“ยองแบ”

“ครับ ฮยอง” ร่างหนาสะดุ้งหันมาตามเสียงพี่ชาย

“เป็นอะไรไป” ฮยอนแบนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง

“ควอนจียง เมื่อกี้ หมอนั่น ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้”

“หือ”

“ไม่ ไม่มีอะไรครับฮยอง ควอนจียงหมอนั่นคงเหนื่อย วิ่งไปวิ่งมาที่ทำงานกับที่โรงพยาบาลทุกวัน”

“ไม่หรอก ถ้าไม่ให้หมอนั่นมา มีหวังคนอื่นไม่เป็นอันทำงานทำการพอดี ไม่ต้องคิดมากหรอก”

ร่างหนาก็ขอให้ตนเองคิดมากเกินไป เพราะเขาเองก็ไม่ค่อยเข้าใจและสับสนไม่น้อย เพื่อนรักของเขาคนนี้คงเป็นห่วงเขามากจริงๆ หากแต่ดวงตาใสที่เอ่อคลอน้ำตาที่เห็นเมื่อครู่ ทำไมถึงทำให้ดงยองแบเสียใจและเป็นห่วงได้ขนาดนี้กันนะ

.....

ช่วงที่อยู่โรงพยาบาล ฮยอนแบ ที่เป็นคนเฝ้าน้องชาย คอยตอบคำถามและบอกรายละเอียดของคนที่มาเยี่ยมร่างหนา ทำให้ยองแบพอรู้ว่าใครเป็นใคร

ควอนจียงเกิดปีเดียวกับเขา อ่อนกว่าเขา 3 เดือน เป็นคนแรกที่เขาเห็นตอนฟื้นขึ้นมาและคอยป้วนเปี้ยน แหย่เขาต่างๆ นา เพื่อนรักที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก หมอนี่เป็นคนร่าเริงและเปิดเผย ทำให้เขารู้สึกได้จริงๆ ว่า พวกเขารู้จักกันมานานและสนิทกันมาก แม้จะมีบางครั้ง แค่เพียงบางครั้งเท่านั้นที่พอได้สบตากันตรงๆ เขารู้สึกถึงความเหงา ความเศร้า และความหวั่นไหว ในแววตาใสนั้น

เชวซึงฮยอน พี่ใหญ่ของวงบิ๊กแบง ที่ตอนแรกยองแบเองยังไม่อยากเชื่อเลยว่า เขาเป็นนักร้อง แถมดังซะด้วย ซึงฮยอนฮยองแก่กว่าเขาปีนึง เป็นคนตลกๆ ทุกครั้งที่ได้สบตาคมๆ นั้น เขารู้สึกว่าพี่ชายคนนี้อยากจะพูดบางอย่างกับเขา ซึ่งยองแบเคยลองถามดู แต่ซึงฮยอนกลับบอกว่า “เรื่องบางเรื่องถ้าไม่จำได้ด้วยตนเอง ก็ไม่มีความหมายนะยองแบ”

คังแดซอง และลีซึงฮยอน น้องเล็กทั้งสองคนของบิ๊กแบง ที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนมีน้องจริงๆ แถมยังขี้อ้อน ไม่รู้ว่าตอนก่อนเขาจะความจำเสื่อม ได้ไปตามใจเจ้าสองคนนี้แค่ไหน แต่พอพูดความคิดนี้ออกไป คำตอบที่เจ้าเด็กแสบสองคนสวนกลับมาคือ “ฮยองตามใจพวกผมที่ไหน เห็นตามใจจียงฮยองอยู่คนเดียว”

นอกจากสมาชิกวงบิ๊กแบงแล้ว ยังมีพี่ๆ น้องๆ ใน YG Family ที่คอยมาเยี่ยมเยียนตลอด โดยเฉพาะสาวๆ 2NE1 ที่พี่ใหญ่ของวงเป็นแฟนกับฮยอนแบฮยองของเขา

วันนี้เห็นว่าจะเข้ามาหาที่โรงพยาบาล แล้วก็จะพาแชรินมาด้วย ยองแบรู้สึกติดใจ สาวน้อยตัวเล็กเป็นพิเศษ เขารู้สึกว่าเธอมีบางอย่างที่ดึงดูดเขาอยู่ จนต้องถามพวกบิ๊กแบงว่า เขากับแชรินคบกันอยู่หรือเปล่า

“นาย กับ ซีแอล อะนะ ทำไมล่ะ”

“ก็ไม่ทำไมหรอกฮยอง แต่รู้สึกว่าสนใจน้องเขา เลยถามดู เพราะถ้าเป็นแฟนกันแล้วถูกลืมคงเสียใจน่าดู” ถ้าไม่ใช่แฟน งั้นแชรินอาจจะเป็นคนที่เขาแอบชอบก็ได้

“ใช่” ทั้ง 4 คน ขานรับพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

“หือ พวกนายพูดเหมือนมีคนถูกลืม”

ทั้ง 3 คน หันมามองลีดเดอร์เป็นตาเดียวอีกครั้ง

“อย่าคิดมากน่า ว่าแต่เมื่อไรจะจำได้เนี่ย จะได้มาช่วยกันทำงานนะยองแบ” เป็นอีกเสี้ยววินาที ที่ควอนจียงเผยแววตาเศร้า

“อะไรกัน นายจะให้ฉันรีบจำได้ เพราะเรื่องงานเท่านั้นเหรอเนี่ย”

ยังไม่ทันที่ทั้งสองคนจะได้โต้คารมกันเล่นๆ สาวน้อยตัวเล็กก็มาถึง

“ยองแบโอป้า เป็นยังไงบ้าง” เสียงใสๆ ของสาวน้อยหัวหน้าวง 2NE1 ดังขึ้น “อ้าวบิ๊กแบงโอป้า สวัสดีค่ะ”

“บอมมี่นูน่าล่ะ มาคนเดียวเหรอ”

“ออนนี่แวะซื้อขนมให้ฮยอนแบโอป้าน่ะค่ะ เลยขึ้นมาก่อน” ช่วงนี้สาวๆ กำลังเตรียมทำตัวอัลบั้มชุดใหม่ จึงพากันคุยเรื่องงานซะเป็นส่วนใหญ่ เพราะมีโค-โปรดิวเซอร์อยู่แถวนั้นด้วย 1 คน

จนได้เวลาบิ๊กแบงต้องขอตัวกลับ และเป็นครั้งแรก ตั้งแต่อุบัติเหตุที่จียงไม่นอนค้างที่โรงพยาบาล

.....

ฮยอนแบกลับเข้ามาพร้อมกับปาร์คบอม เห็นแชรินคุยกับยองแบตามลำพังก็แปลกใจ

“ไปไหนกันหมดแล้วล่ะเนี่ย”

“กลับไปแล้วค่ะ” สาวน้อยหันมาตอบแทน

“แล้วจะกลับมาอีกมั้ย” ฮยอนแบรู้สึกแปลกๆ เขาไม่คิดว่าจียงจะไม่มาอยู่กับน้องชายของเขาถ้าไม่ติดงาน

“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ อาจจะมีงานด่วนนะคะ” แม้ต้องสบกับสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของฮยอนแบ แต่แชรินก็ยังยิ้มให้ตามปกติ เธอรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพี่ชายทั้งสอง แต่แค่ตอนนี้เท่านั้น ที่ยองแบยังจำควอนจียงไม่ได้ ขอให้เธอได้อยู่กับเขา แค่ตอนนี้เท่านั้นที่ยองแบยังไม่กลับไปเป็นพระอาทิตย์ของควอนจียง ขอให้พระอาทิตย์ดวงนี้เป็นของเธอ

.....

“ฮยอง จะกลับไปที่โรงพยาบาลกี่โมง” แดซองถามพี่ชายที่นั่งมองออกไปยังถนนด้านนอก

“อีกสักพัก” ร่างบางตอบโดยที่ไม่หันกลับมา

“เมื่อไรจะบอกยองแบ เรื่องของพวกนายสองคน” พี่ใหญ่ถามเสียงจริงจัง นี่คือสิ่งที่พวกเขาอยากบอกยองแบ แต่เพราะร่างบางตรงหน้าขอไว้

“ฉันไม่รู้ว่ายองแบจะจำได้อีกเมื่อไร แล้วตอนนี้ระหว่างที่บอกหมอนั่นแล้วถูกเมิน กับไม่บอกหมอนั่นแล้วถูกเมิน อย่างไหนมันจะทรมานน้อยกว่ากัน” จียงพึมพำกับกระจกรถ ให้สมาชิกอีก 3 คน ได้ยินเพียงแผ่วเบา

“ฮยอง” มักเน่ที่นั่งใกล้ที่สุด เอื้อมมือมาบีบเข่าให้กำลังใจพี่ชายคนเก่ง

ร่างบางหลับตาลง แต่ภาพที่เขาเห็นกลับเห็นภาพของยองแบที่คอยมองตามแชริน และเสียงหัวเราะสดใส ทุกครั้งที่เธอมาเยี่ยมเขา

“บางที ยองแบในตอนนี้อาจจะชอบแชริน ก็ได้นะ

TBC

^^


always forever, gdyb

Previous post Next post
Up