(SF) GDYB Series 17-6: ตลอดไป (PG 13)

Apr 17, 2010 16:36

ตลอดไป


ระหว่างที่นั่งรถตู้กลับมาที่บริษัท สาวๆ นั่งกลับมาคันเดียวกับยองแบ

บรรยากาศในรถเงียบกริบ โดยมีแชรินพยายามชวนร่างหนาคุยนู่นนี่ สามสาวที่เหลือมีตอบรับบ้าง แต่ยองแบคิดว่าทุกคนคงจะเหนื่อยกันเลยดูเงียบๆ ไป

เมื่อมาถึงที่จอดรถ ผู้จัดการวงของสาวๆ เห็นรถที่คุ้นตา มีศิลปินใน YG Family แค่คนเดียวที่ใช้รถของบริษัทคนนี้

“อ้าว เซเว่นกลับมาจากอเมริกาเมื่อไหร่กันนี่” ผู้จัดการเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น

“เซเว่น เซเว่นฮยองคนนั้นน่ะเหรอครับ” ยองแบที่เคยได้คุยโทรศัพท์กับพี่ชายคนนี้แค่ครั้งเดียวนับตั้งแต่ความจำเสื่อม ก็ตื่นเต้นไม่น้อย เพราะจากที่หลายๆ คนบอกมา พี่ชายคนนี้เป็นเหมือนพี่ชายแท้ๆ ของเขาเลยทีเดียว

“ใช่แล้วยองแบ แต่ถ้าไปเรียกแบบนั้นที่นี่ มีหวังถูกแกล้งแย่เลย” ผู้จัดการสาวร่างอวบบอก

“ก็ผมความจำเสื่อมนี่ครับ แล้วผมต้องเรียกว่ายังไงครับ” ยองแบถาม เขาเคยได้ยินกิตติศัพท์ความแสบของพี่ชายคนนี้มาบ้าง เขาไม่อยากถูกแกล้งนี่นา

“หึหึ ฉันไม่บอกหรอก เดี๋ยวนายก็รู้ยองแบ”

ทุกคนพากันลงจากรถตู้ เข้าบริษัท สาวๆ ที่เงียบๆ อยู่ก็พากันดีใจที่จะได้เจอเพื่อนและพี่ชายคนนี้ แต่มีคนนึงที่จู่ๆ ก็เงียบไป

“ซีแอล เป็นอะไรหรือเปล่า” ยองแบแปลกใจที่ท่าทีของหญิงสาวแปลกไป

“เปล่าค่ะ ฉันคงเหนื่อยไปหน่อยน่ะค่ะ เราเข้าไปกันเถอะ” เป็นอีกครั้งที่เธอจูงมือเขา เดินเข้าบริษัทไป

ถ้ามีใครซักคนที่น่ากลัวที่สุด นอกจาก ยางฮยอนซอก สำหรับแชริน คนนั้นคือ เซเว่น หรือ เชวดงอุค เพราะต่อหน้าพี่ชายคนนี้ เธอไม่สามารถปิดบังหรือหลอกลวงอะไรได้เลย และดูเหมือนว่าเขาจะรักน้องชายสองคนที่ฝ่าฝันอุปสรรคร่วมกันมาเอามากๆ เสียด้วย

....

สาวๆ เปลี่ยนจากพากันไปทักทายพี่ชายเลขเจ็ด ไปซ้อมเต้นตามเดิมแทน เพราะดงอุคพูดคุยกันยางฮยอนซอกในห้อง ยองจึงมาดูสาวๆ และซ้อมร่วมกับพวกเธอแทน

“อ้าว ยองแบฮยอง กลับมาแล้วเหรอครับ” อีซึงฮยอน ที่เพิ่งกลับมาจากซ้อมละครเปิดประตูเข้ามาทัก “ว่าแต่ เห็นจียงฮยองมั้ยครับ”

ยองแบหูผึ่ง เมื่อได้ยินชื่อคนที่หายหน้าไปญี่ปุ่นเสียหลายวัน เขารู้สึกตื่นเต้นแฮะ ตื่นเต้นกว่าที่จะได้เจอเซเว่นฮยองเป็นครั้งแรกตั้งแต่ความจำเสื่อมซะอีก

“จียงโอป้ากลับมาแล้วเหรอ” แชรินที่ไม่เคยนับพี่น้องกับซึงรีร้องถามอย่างรวดเร็ว ทุกคนแปลกใจ เพราะคนที่ซึงรีคุยด้วยคือยองแบ และเธอควรจะกำลังซ้อมเต้นอยู่ ไม่น่าจะใส่ใจกับเรื่องอื่นๆ

“อืม เธอนี่นะ จะเรียกฉันว่าพี่สักครั้งไม่ได้หรือไงแชริน” ซึงรีเอ่ยขึ้น แก้บรรยากาศแปลกๆ ภายในห้อง

“ฝันไปเถอะ ว่าแต่จียงโอป้ากลับมาเมื่อไหร่”

“เพิ่งมาถึงพร้อมเซเว่นฮยอง นึกว่าอยู่นี่เลยมาหา งั้นฉันไปล่ะ” ซึงรีหันไปหายองแบ “ฮยอง เย็นนี้จะกลับห้องกับพวกเราแล้วใช่มั้ยครับ ดีเลยพวกผมจะได้ฉลองต้อนรับพ่อแม่กลับบ้านพร้อมกัน” ใครๆ ก็รู้ว่า ในวงได้แบ่งตำแหน่งกันอย่างชัดเจน ยองแบก็รู้เรื่องนี้จากการดูวิดีโอเก่าๆ ซึ่งเขาก็ยังไม่นึกภาพตัวเองเป็นแม่ไม่ออกซักที

ซึงรีเดินกลับออกไปไม่ทันพ้นประตูดี ยองแบก็ลุกขึ้น

“เฮ้ มักเน่ ฉันไปด้วย” ร่างหนาหันมาทางแชริน สบตาเธอเชิงขอตัว “ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะสาวๆ”

ยองแบเดินเอามือกอดคอน้องชายออกไป เขาแทบอดใจรอเจอใครอีกคนไม่ได้ ถ้าไปกับหมอนี่น่าจะได้เจอควอนจียงเร็วขึ้นอีกนิด

หลังจากสองหนุ่มออกไป สาวๆ ต้องเริ่มซ้อมต่อ แต่แชรินไม่สามารถตั้งใจกับการซ้อมได้ เธอขอพัก ซึ่งก็ไม่ทำให้คนอื่นๆ ในวงแปลกใจ

“เป็นอะไรหรือเปล่า แชริน” ปาคบอมถามขึ้น เธอเริ่มเป็นห่วงน้องสาวตรงหน้า เพราะเธอรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันคงเหนื่อยไปหน่อย ขอตัวไปล้างหน้าเดี๋ยวนะคะ” เมื่อออกจากห้อง แชรินก็วิ่งแล้วก็วิ่ง

แชรินเหนื่อยงั้นเหรอ ไม่หรอก แต่เธอกำลังกลัว เพราะเจ้าของหัวใจของคนที่เธอรักกลับมาแล้ว นั่นหมายความว่า เวลาของเธอกับเขากำลังจะหมดลงทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เริ่มต้น เธอไม่ยอม เธอต้องทำอะไรสักอย่าง และต้องรีบด้วยก่อนที่เขาจะจำได้ ก่อนที่ยองแบจะกลับไปรักควอนจียงอีกครั้ง

แชรินหยุดที่ประตูดาดฟ้า เธอหอบจนตัวโยนหลังจากวิ่งขึ้นบันไดมากว่า 5 ชั้น เมื่อเธอเงยหน้าและเปิดประตูออกไป ก็ได้เห็นกับแผ่นหลังที่คุ้นเคย พี่ชายใจดีอีกคนของเธอ คนที่ใครๆ ก็บอกว่าเธอเหมือนเขาที่สุด

“จียงโอป้า”

….

“ถ้ายังเป็นแบบนี้ ผมจะพาน้องไปอเมริกา” เสียงที่ลอดจากประตูที่ปิดอยู่เบื้องหน้าทำให้ชายหนุ่มสองคนหยุดชะงัก

“มักเน่ ใครจะพาใครไปอเมริกา” ยองแบหันมาถามน้องเล็กของวงที่ยังดูอึ้งๆ ตกใจไม่น้อยไปกว่าเขา

“เซเว่นฮยอง จะพาจียงฮยองไปอเมริกา ถ้า...” ซึงรีหน้าเครียด แต่เขาไม่อยากโทษยองแบที่ความจำเสื่อมเพราะอุบัติเหตุ แต่เขาไม่อยากให้พวกพี่ๆ ไปไหนอีก เขากังวลกับอนาคตของบิ๊กแบง แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้น เขากังวลเรื่องพี่ชายทั้งสองมากกว่า ถ้าต้องแยกกัน จะอยู่ต่อไปได้จริงๆ เหรอ เขานึกภาพนั้นไม่ออก

ดงยองแบรู้สึกใจหายแค่ได้ยินว่าควอนจียงจะไปอเมริกา เขากลัวว่า ถ้าร่างบางไปคราวนี้ จะไม่ได้กลับมาอีก  ชายหนุ่มเสียงดีรู้สึกเหมือนตนเองกำลังจะสูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดไป สิ่งสำคัญที่ถ้าไม่มี อาจทำให้เขาหยุดหายใจได้ ถ้าไม่มี เขาอาจไม่รู้ว่าเขาจะมีชีวิตต่อไปเพื่ออะไร สิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่สิ คนที่สำคัญที่สุดคือ หมอนั่น...งั้นเหรอ

...

“จียงโอป้า” เสียงใสทำให้ร่างบางที่กำลังนั่งมองท้องฟ้าเหนือแม้น้ำฮันอย่างเพลิดเพลินรู้สึกตัว

จียงหันกลับมาหาแชรินที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูดาดฟ้า

“แชริน มานี่สิ” ร่างบางยิ้มและพยักหน้าให้อีกฝ่ายเดินเข้ามานั่งลงเคียงข้างกัน

แชรินเดินก้มหน้ามาหาเขา แม้จะรักยองแบมากแค่ไหน แต่กับสิ่งที่เธอทำและแอบหวังอยู่ในใจ ก็ทำให้เธอรู้สึกผิดและไม่กล้าสู้หน้าพี่ชายตรงหน้ามากไม่แพ้กัน

ภาพแผ่นหลังที่เธอเห็นเมื่อเปิดประตูมาเจอ มันทำให้เธอรับรู้ถึงความเหงาและว้าเหว่ของอีกฝ่ายได้อย่างดี สาวน้อยรู้ดีว่าพี่ชายคนนี้รักยองแบแค่ไหน ถ้าเธอยึดพระอาทิตย์ของเขาไป พี่ชายตรงหน้าเธอจะเป็นยังไง

“โอป้า” แชรินเรียกร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอก้มหน้าไม่สามารถสบตาที่จริงใจและหวังดีต่อเธอได้

“ว่าไง” จียงถามขึ้น แต่สายตายังคงไม่ละไปจากภาพแม่น้ำเบื้องหน้า

“ฉัน...”

จียงละจากภาพตรงหน้ามาที่แชริน เมื่อเธอหยุดชะงักไป

“ฉัน... ฉันขอโทษค่ะ”

ภาพสาวน้อยที่สดใสร่าเริง มั่นใจในตนเอง กำลังก้มหน้าอย่างสำนึกผิดและน่าสงสาร ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว แชรินยังไม่ได้ทำอะไรเกินเลย เป็นเขาเองต่างหากที่ขี้ขลาดจนเกือบทำให้คนรักผิดหวัง เขาเกือบยอมแพ้กับความรักของพวกเขาเพียงเพราะความกลัว

จียงยกมือบางลูบหัวหญิงสาวที่ก้มหน้าก้มตา ไม่กล้าสู้หน้าเขา ก่อนจะยีเบาๆ จนหัวอีกฝ่ายยุ่งไปหมด

“โอป้า!” แชรินโวยวาย เงยหน้าขึ้น เผลอสบตากับพี่ชายตัวบาง ที่ยังมีมารอยยิ้มให้เธอเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แค่นั้นก็ทำให้เธอตื้นตัน น้ำตาที่เอ่อคลอไหลลงข้างแก้มอิ่ม

“ฉันขอโทษ” แชรินเอ่ยปากขอโทษเขาซ้ำแล้วซ้ำอีก จนจียงต้องโอบเธอไว้

“ไม่ต้องแล้ว แชริน เธอไม่ต้องขอโทษฉันแล้วนะ ไม่เป็นไร” กลับเป็นจียงที่ต้องปลอบสาวน้อยจนหยุดร้อง

“ฉันต้องขอบใจเธอต่างหากที่คอยอยู่เป็นเพื่อนยองแบ คอยดูแลหมอนั่นตอนฉันอ่อนแอ ขอบใจมากนะ” หญิงสาวมองหน้าพี่ชายตัวบางอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

“แต่ฉัน...” แชรินลังเล เพราะเธอรู้อยู่แก่ใจว่า จริงๆ แล้วตนเองหวังมากกว่านั้น แต่พอได้เจอพี่ชายในวันนี้ สิ่งที่เธอแอบหวัง กลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ในตอนนี้สิ่งเดียวที่เธอหวังคือ ยองแบจะจำจียงได้โดยเร็วที่สุด แม้ลึกๆ เธอจะเสียใจ แต่ความเสียใจของเธอคงไม่เท่ากับพี่ชายตรงหน้า ถ้าพระอาทิตย์ของเขาต้องหายไปแน่ๆ

“ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ ไม่เป็นไรนะ” จียงรู้ดีว่าหญิงสาวต้องการจะพูดเรื่องอะไร แต่มันไม่สำคัญอีกแล้วเพราะเขามั่นใจว่า ไม่ว่าอย่างไร ถ้าเขาอยู่ตรงนี้ ยองแบจะจำเขาได้แน่นอน

“ลงไปข้างล่างกันเถอะ 2NE1 อยู่ในช่วงโปรโมท ถ้าเธอไม่สบายไป จะแย่เอานะ” จียงตบไหล่แชรินก่อนจะพากันลุกขึ้น เมื่อเห็นหญิงสาวยังอึ้งๆ และสับสนอยู่ เขาจึงแกล้งไล่จี้เอวเธอ จนแชรินหลุดหัวเราะออกมา

“ฮ่าๆ พอแล้ว โอป้า ฮ่าๆ ไม่เอา!” แชรินวิ่งหนี จนหอบ เมื่อทั้งสองคนลงมาถึงหน้าห้องซ้อมเต้น จึงได้เลิกแกล้งกัน

“ไปล่ะ 2NE1 fighting! CL fighting!” จียงให้กำลังใจหญิงสาวอีกครั้งก่อนหันหลังไปอีกทาง

“โอป้า!” แชรินตะโกนเรียกจียงที่เดินออกมาเกือบสุดสายตา

“โอป้า! ฉันขอโทษ แล้วก็ ขอบคุณนะคะ” แชรินโค้งให้จียงหยุดยืนอยู่ แต่ไม่ได้หันกลับมา “G-dragon fighting! GDYB fighting!”

ภาพร่างบางที่ยกมือชูสองนิ้วขึ้นฟ้าแล้วออกเดินต่อ ทำให้แชรินยิ้มออกมาได้ เธอสบายใจขึ้นที่ได้ขอโทษเขา และได้รู้สึกตัวอย่างแท้จริงว่าที่ผ่านมาเธอได้ทำและคิดสิ่งที่ไม่ดีไปเสียแล้ว

TBC

^^


always forever, gdyb

Previous post Next post
Up