เมื่อได้ย่างเท้าออกจากห้องมาเจอแสงสว่างจ้า ทำให้พวกเขารู้สึกแสบตายิ่งนัก เพราะสิ่งที่ต้องเจอในช่วงหลายเวลาที่ผ่านมานั้นมีแต่ความมืดมิด คาเมะและจินต้องใช้เวลาอยู่สักครู่ถึงจะสามารถเปิดเปลือกตาเพื่อมองไปรอบๆได้อย่างเต็มตา
“เราอยู่ในห้องซักรีดบ้านี้มาตลอดเลยเหรอเนี่ย?!” จินเปิดปากโพล่งออกมาเมื่อได้เหลียวมองไปรอบๆทางเดินชั้นแรกที่ตอนนี้ดูจะว่างเปล่าไร้ซึ่งผู้คน....จะมีก็แต่พวกเขาอยู่กันเพียงลำพัง “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเราถึงได้ล้มลงไปเจอแต่ของนุ่มๆอยู่บ่อยๆ”
“นายมาหลงอยู่ในห้องซักรีดนี้ด้วยเหรอ?” โคคิหัวเราะ เหมือนว่าได้ฟังเรื่องเล่าขำขันมากที่สุดที่เคยได้ยินมา
“ทักษะในเรื่องทิศทางของนายก็ไม่ค่อยจะแม่นเท่าไหร่ ...แต่....” อุเอดะพูดออกความเห็น แล้วจึงปล่อยคำพูดประโยคที่เหลือเอาไว้อย่างนั้น
“หุบปากไปเลย ยังไงชั้นก็จะหาโตเกียว ทาว์เวอร์นั้นได้ไม่ช้าก็เร็วแหล่ะ!” จินตะโกนกลับ “นายจะช่วยปลดล๊อคกุญแจเราหรือเปล่าล่ะนี่?”
อุเอดะส่งสายตาที่แฝงไปด้วยคำถามส่งตรงให้หัวหน้าแก๊งที่ยืนอยู่พร้อมด้วยการเหยียดแขนออกไป ทำให้คนตัวเล็กจำต้องยกแขนขึ้นตาม “ชั้นควรจะไขให้ดีหรือเปล่าล่ะ?” เพื่อนร่วมแก๊งคนสวยถามขึ้น “นายแน่ใจหรือว่าไม่อยากจะอยู่แบบนี้ต่อไปอีกสักหน่อยน่ะ?”
จินไม่ตอบคำถามเพื่อนร่วมแก๊ง เขาเพียงแต่หรี่ตามองตอบเล็กน้อย อุเอดะจึงเดินกลับมาหา และคุกเข่าลงเริ่มไขล๊อคกุญแจมือด้วยสายสร้อยแขน
“ทุกคนไปไหนกันหมด? นานๆจะเห็นทางเดินแถวนี้เงียบเชียบแบบนี้ได้” จินพูดออกความเห็นเมื่อมองไปรอบด้าน
“เรากับพวกอาราชิ พวกนิวส์ แล้วก็พวกที่เป็นพรรคพวกของเราได้วิ่งเข้าวิ่งออกที่นี่เพื่อตามหานายนี่แหล่ะ มันก็เลยทำให้นักโทษคนอื่นกลัว ไม่กล้าเข้ามาแถวนี้ เรายังรู้ในทันทีเลยนะว่าไอ้เสียงงึมงำที่ได้ยินมาน่ะต้องเป็นเสียงพวกนายสองคนแน่” ยูอิจิอธิบาย
“มันก็เป็นเรื่องดีเลยล่ะที่แถวนี้ไม่มีผู้คนเดินไปมา เพราะถ้าพวกเขายังอยู่..ก็คงจะได้เห็นนายสองคนโผล่ออกมาพร้อมกับกุญแจมือที่ล๊อคนายสองคนไว้ด้วยกันแบบนี้” โคคิพูดเสริม ก่อนที่จะจ้องมองไปยังร่างบางเป็นลำดับต่อไป “เขารู้แล้วใช่ไหม?” คำถามข้อนี้เหมือนถูกส่งตรงให้กับจิน
“ใช่” ร่างสูงตอบ
“ขอโทษนะคาเมะจัง” จุนโนะกล่าวคำขอโทษ “เราเองก็ไม่อยากโกหกนายหรอก”
คาเมะเอ่ยปากที่จะพูดตอบ ต่อเมื่อจู่ๆเขาก็รู้สึกได้ว่าข้อมือที่ถูกล๊อคติดกับจินได้ถูกปล่อยเป็นอิสระแล้ว อุเอดะไขได้เร็วกว่าจินจริงๆ
“นายไม่ควรจะตามออกไปใกล้พวกเรามากนักนะ” เพื่อนร่วมแก๊งคนสวยของจินเอ่ยขึ้น เมื่อได้หยัดตัวลุกขึ้นยืน “ชั้นว่านายคงจะเข้าใจแล้วนะ ว่าทำไมเราถึงจะติดต่อกันแบบนี้ไม่ได้แล้ว..มันจะดูน่าสงสัยเกินไป”
คาเมะก้มหัวให้เล็กน้อย
“ว่าแต่มีพวกผู้คุมกี่คนล่ะที่ออกมาตามหา มาเฝ้ารอที่จะจับแล้วพาพวกเราไปหาจอห์นนี่น่ะ?” จินถาม
“ชั้นก็ไม่รู้ แต่ชั้นไม่คิดว่าไอ้ผู้คุมที่น่าสงสารคนที่ถูกนายต่อยจนจมูกหักไปแล้วน่ะจะไปเกลี้ยกล่อมคนอื่นๆว่าเจอนายกับคาเมะจังที่ทางเดินนี้ได้จริงๆหรอก ....แต่ว่ากันตรงๆแล้วชั้นคิดว่าหมอนั่นคงจะไม่รู้จักนายนั่นเอง เพราะถ้ารู้จักก็คงไม่พยายามที่จะจับนายหรอก” ยูอิจิกล่าว
“ถ้าผู้คุมนั่นจับนายสองคนไปหาจอห์นนี่ได้แล้วล่ะก็ จอห์นนี่เองก็คงจะให้รางวัลหมอนั่นอย่างสูงแน่....จอห์นนี่คงจะดีใจแทบตายแน่ถ้าได้จับนายตอนที่กำลังบุกเข้าไปในทางลับ...จากนั้นก็คงจะโยนความผิดมาว่านายเป็นคนสร้างทางลับนั้นเพราะพยายามจะหนีออกจากคุกไป” โคคิพูดต่อจากยูอิจิ
“จอห์นนี่ก็คงจะโยนความผิดในเรื่องที่อุเอดะและจุนโนะไปก่อเรื่องไว้ในทางลับเมื่อสองปีก่อนนั่นด้วย” ยูอิจิพูดเสริม
“ดีจริงๆเลยเชียว ตอนนั้นชั้นก็ไม่ได้อยู่ด้วยสักหน่อยนี่หว่า...” จินบ่นพึมพำ “แต่คาเมะกับชั้นเล่นหายไปทั้งคืนแบบนี้ ..พวกผู้คุมคงแตกตื่นทำอะไรสักอย่างสินะ”
“พวกนั้นไม่รู้หรอกว่านายสองคนหายไปทั้งคืน” โคคิพูดพร้อมยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์กับเพื่อนร่วมแก๊ง
“แต่พวกผู้คุมก็ต้องเข้ามาตรวจตราแบบทุกวันนี่น่า” จินเริ่มเรื่อง ...ก่อนจะเริ่มสงสัยขึ้นมาทันที “พวกนายทำยังไงล่ะ?”
“เราทำตุ๊กตาหุ่นในห้องที่เคย์ตะอยู่ แล้วอีกอันก็วางไว้ที่เตียงของคาเมะ กัคคุโตะทำให้เหมือนกับว่าคาเมะจังกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงในตอนที่พวกผู้คุมหรือไม่ก็ยูจังเดินผ่านห้องขังไป....แต่ถึงยูจังรู้ก็คงไม่พูดอะไรออกมาหรอก แล้วส่วนเคย์ตะเราก็ให้เขานอนกอดหมอนที่อยู่ใต้ผ้าห่มไปซะ"”จุนโนะอธิบายอย่างตื่นเต้น
“ทำได้ดีมาก” หัวหน้าแก๊งนานๆจะได้พูดชมลูกน้องในแก๊งออกมาสักที
“ใช่แล้ว” จุนโนะขยิบตา “พวกผู้คุมไม่แม้แต่จะคิดเดาเลยล่ะ”
“เราควรจะออกไปจากที่นี่ได้แล้ว” อุเอดะพูดขึ้น
“เดี๋ยวก่อน” คาเมะรีบร้อนที่จะเปิดปากเรียก จินเองก็หยุดเดินทันทีเมื่อได้ยิน ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งคนอื่นๆก็เดินล่วงหน้าไปบ้างเล็กน้อย “อะไร...ต่อไปจะเป็นยังไงล่ะ? ชั้นหมายถึง ก็ตอนนี้ชั้นรู้แล้วนี่”
“กลับไปที่ห้องที่นายอยู่กับกัคคุโตะซะ นายจะมาพบชั้นอีกไม่ได้แล้ว ทุกครั้งที่นายทำแบบนั้นก็จะทำให้แผนเราแตกได้...แล้วถ้ามันเป็นอย่างนั้นมาจริงๆนายคงรับผิดชอบอะไรไม่ไหวหรอก...” จินพูดขึ้น ร่างบางก็ได้แต่ก้มหัวให้ ...จินเกลียดที่จะเห็นคาเมะเป็นแบบนี้ยิ่งนัก “แล้วมันก็คงจะเป็นการดีถ้านายจะทำตามที่ชั้นบอก เพราะเมื่อชั้นได้กลับไปแล้ว..ชั้นก็จะไปบอกคนอื่นๆแบบที่บอกกับนายเหมือนกัน”
ส่วนลึกในใจคาเมะก็แอบหวังว่าจินจะเกลี้ยกล่อมให้เขายอมกลับไปกับจิน เพื่อที่พวกเขาจะได้กลับไปเป็นเพื่อนร่วมห้องกันอีกครั้ง ร่างบางพยักหน้ารับพร้อมด้วยรอยยิ้ม “อืมม”
“มันไม่ปลอดภัยถ้านายจะอยู่ที่นี่ลำพัง รีบออกไปจากที่นี่ซะ แล้วถ้านายเจอกับปัญหาอะไรอีกล่ะก็ ไม่ต้องห่วงนะเพราะตอนนี้นายมีคนที่มีอำนาจมากที่สุดคอยปกป้องนายอยู่ ให้บอกออกไปว่านายเป็นเพื่อนร่วมห้องของกัคคุโตะ พวกเขาก็จะไม่กล้าแตะต้องตัวนายแล้ว” คาเมะรู้สึกเสียใจอยู่ลึกๆที่จินตอบออกมาแบบนี้ ในช่วงเวลาสั้นๆนั้นเองที่เขาคิดหวังไปจริงๆว่าทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างเขากับจินจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน “นายออกไปก่อนนะ พวกเราจะตามนายออกไปเอง”
คาเมะพยายามที่จะผละสายตาจากอีกฝ่าย ก่อนจะค่อยๆเริ่มเดินออกไปอย่างไม่ใคร่จะเต็มใจนัก
“เรื่องมันคงไม่มีทางจะง่ายขึ้นมาหรอก” จินพูดพึมพำ..ส่วนมากก็เหมือนจะพูดพึมพำกับตนเองเมื่อได้เห็นคนตัวเล็กเดินห่างไปไกลพอที่จะไม่ได้ยินข้อความนี้ ร่างบางกำลังเดินเลี้ยวเข้าไปในทางเดิน..แล้วค่อยๆหายลับไปจากสายตา
“บางทีนี่อาจจะเป็นพรหมลิขิตก็ได้นะที่คอยดึงพวกนายสองคนกลับมาหากันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง” ยูอิจิพูดแนะ
“เอาล่ะ ไปกันได้แล้ว” จินบ่นอู้อี้ ทำเมินไม่สนใจในความคิดเห็นของยูอิจิ ร่างสูงรีบสาวเท้าเดินออกไปล่วงหน้าเพื่อนๆในแก๊ง แต่ก็แทบจะเดินออกไปไม่พ้นทางเดินชั้นแรกเมื่อได้เห็นยามะพีเดินเข้าในระยะสายตา “โอ๊ะ ไม่นะ....”
“ดีใจที่ได้เจอนายอีกนะ ไอ้บ้าจิน” หัวหน้าแก๊งฝั่งตรงข้ามยิ้มเยาะเข้าใส่ ก่อนที่จะใช้สองแขนโอบรอบไหล่จิน
“ชั้นยังเป็นคนคุมคุกนี้อยู่ใช่ไหม?” จินต้องถามออกมาให้แน่ใจเมื่อได้เดินขึ้นไปบนขั้นบันได เป็นโชคร้ายของเขาเสียจริงที่ยามะพีก็ตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปในฝั่งตะวันตกด้วย สองแขนของหัวหน้าแก๊งนิวส์ก็ยังวางอยู่บนไหล่กว้าง “เพราะว่าถ้านิวส์ได้คุมคุกแทนชั้นล่ะก็ ..ชั้นจะขอกลับเข้าไปในทางลับนั่นดีกว่า”
“เอาสุดที่รักตัวเล็กๆของนายไปด้วยนะ เพื่อที่นายจะได้ไม่เหงาไงล่ะ นี่ว่าแต่นายจะวางแผนก่อเรื่องตอนไหนอีกล่ะ? ครั้งนี้ชั้นจะแสดงให้เนียนไปเลยล่ะว่าคุกนี้เป็นของชั้นจริงๆ ...แต่แน่นอนล่ะน้าว่าเราทั้งสองก็รู้ๆกันอยู่ว่ามันยังเป็นของนาย แล้วพวกนิวส์ก็ไม่เคยได้เตะก้น AT-TUN จริงๆสักหน่อย แต่นั่นมันก็จะเป็นการแก้ปัญหาระหว่างนายกับพวกรุ่นพี่ก็ได้นะ” ยามะพีกล่าว ก่อนที่จินจะผลักแขนของยามะพีออกไป
“น่าลองดูเหมือนกันนะ แต่ชั้นเพิ่งจะกลับมา...และสุดที่รักตัวเล็กๆของชั้นก็กำลังรอชั้นอยู่ที่ฝั่งตะวันตกด้วย” จินตอกกลับเมื่อได้เดินผ่านห้องขังของพวกอาราชิ สุดท้ายก็เดินกันมาจนถึงสุดทางเดิน “จริงไหม เคย์ตะจัง?”
“อ่ะ ยินดีต้อนรับกลับฮะ ท่านอคานิชิ!” เด็กหนุ่มเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักกว่าเดิมเล็กน้อย ..จินสังเกตและนิ่งนึกในใจเมื่อพวกเขาได้เดินเข้าไปในห้องขัง เคย์ตะจับผ้าห่มที่วางอยู่เหนือเตียงล่างด้วยมือไม้สั่น ..ว่าแต่ทำไมเคย์ตะถึงดูเหมือนคนที่มีความผิดหรือมีเรื่องปิดบังด้วย?
“ว่าไงเคย์ตะจัง ไม่ได้เจอนานเลยนะ....” ยามะพีขยิบตาให้เด็กหนุ่มพร้อมทั้งย่างเท้าเข้ามาในห้องขัง ดวงหน้าของเคย์ตะแดงก่ำขึ้นมาทันที จินมองทั้งสองหนุ่มกลับไป กลับมา ก่อนที่จะจดจ้องอยู่ที่ยามะพี
“อะไรกัน?! นี่นายนอนกับเคย์ตะจริงๆหรือ” จินพูดเหมือนตะโกนใส่
“นายดูจะตกใจนะนี่...เคย์ตะน่ะไม่ได้ขัดขืนมากเลยด้วยซ้ำ ดูเหมือนว่านายคงจะไม่ได้ทำให้เคย์ตะพอใจเลยน้า” เพื่อนรักของจินส่งยิ้มเยาะให้ในแบบที่ทำให้จินต้องหน้าแดงก่ำ เกือบจะแดงมากกว่าเคย์ตะเสียอีก
“ไอ้ปัญญาอ่อนเอ๊ย! นายจะทำยังไงล่ะถ้านักโทษคนอื่นเขารู้น่ะ? เคย์ตะจังน่าจะเป็นเด็กของเล่นของชั้น? พระเจ้าช่วย นายจะเก็บไอ้นั่นไว้ในกางเกงนายไม่ได้หรือไงว่ะ?” จินพูดจาสั่งสอนพลางสบถไปพลาง
“นายนี่นะที่ทำมาสอน...” ยามะพีรวมทั้งเพื่อนๆร่วมแก๊งกว่าครึ่งพูดงึมงำพร้อมกันเมื่อได้ยิน
“ชั้นสามารถที่จะฆ่านายตอนนี้ได้เลยนะ..” จินอุทาน ก่อนจะยกมือทั้งสองข้างขึ้นมา แล้วก้าวดุ่มๆเข้าไปหาหัวหน้าแก๊งนิวส์อย่างมาดมั่น ยามะพีก็รู้ดีที่จะพยายามอยู่ให้ห่างอีกฝ่าย
“รักนายด้วยนะ” ยามะพีพูดตอบคำเดิมๆในคำขู่แบบเดิมๆของจิน
“นายมีเวลามาทำอะไรๆกับเคย์ตะตอนไหนล่ะนี่?” จินพูดต่อ
“ก็ตอนที่นายกำลังกุ๊กกิ๊กกับคาเมะจังในทางลับของจอห์นนี่นั่นล่ะ” ยามะพียักไหล่
“ชั้นไม่ได้กุ๊กกิ๊กกับคาเมะสักหน่อย” ร่างสูงตอบ คำพูดนี้เหมือนกำลังพูดหลอกเพื่อนร่วมแก๊งไปด้วย...แต่อย่างน้อยก็คงจะหลอกไม่ได้ดีเท่าไหร่ ก็ในเมื่อพวกเพื่อนๆน่ะเองที่เป็นฝ่ายเห็นจินกับคาเมะกำลังนอนนัวเนียกันอยู่บนพื้น ...”แล้วมันก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่นายจะมาแอ้มเด็กของชั้นด้วย”
“แล้วนายเป็นอะไรไปล่ะ แปลกใจหรือยังไง?” ยามะพียิ้มเยาะ สองวินาทีต่อมาจินก็กระโจนเข้าไปบีบคอหัวหน้าแก๊งฝั่งตรงข้าม ขณะที่ TTUN เฝ้ามองฉากที่อยู่ตรงหน้าอยู่อย่างไม่แน่ใจว่าพวกเขาควรจะโดดเข้าไปยุ่งด้วยดีหรือไม่ ..เพราะไหนๆฝั่งนั้นก็เป็นหัวหน้าแก๊งฝั่งตรงข้ามด้วยสิ...
“ทะ ท่านอคานิชิ ผมขอโทษฮะ!” เคย์ตะกล่าวคำขอโทษอีกครั้ง แต่จินก็ดูจะยุ่งเกินกว่าที่จะสังเกตเห็น “ท่านยามาชิตะ เอ่อ...ยามาชิตะซัง เข้ามาหาผมในคืนที่ท่านไม่อยู่ แล้วพูดแนะออกมาว่ายามาชิตะซังจะแสดงเป็นท่านเอง ผมคิดว่าถ้าทำแบบนั้นแล้วท่านก็จะไม่ถูกจับได้ว่าหายไป”
“ชั้นคิดว่านายเพิ่งจะบอกชั้นมาว่าเคย์ตะนอนกอดหมอนข้าง ..ไม่ใช่นอนกอดเพื่อนสุดที่รักบ้าบอคอแตกของชั้นนี่น่า?!” จินตะคอกเพื่อร่วมแก๊งกลับไป ความจริงอีกข้อที่รบกวนเขายิ่งนักก็คือข้อที่ว่าหมอนข้างที่สมควรจะเป็นเขากลับถูกเตะจากฝั่งตะวันตกไปอยู่ที่ฝั่งตะวันออกแทนเสียนี่ ...แบบนี้มันก็เหมือนเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเขาไปด้วย
“พวกเราไม่รู้สักหน่อยว่ายามะพีแอบเข้ามาในนี้” ทั้งสี่หนุ่มต่างก็ตอบออกมาอย่างรวดเร็ว
“..พวกนายนี่ก็ไม่มีประโยชน์เหมือนพวกอาราชิเลย” จินพึมพำ
“ผะ ผมขอโทษ ผมจะออกไปให้พ้นๆหน้าท่านเดี๋ยวนี้ล่ะฮะ” เคย์ตะตอบพลางรีบออกจากห้องไปโดยเร็ว ขณะเดียวกับที่จินได้หยุดทำการฆาตกรรมยามะพีเสียก่อน จากนั้นร่างสูงได้หย่อนตัวนั่งลงบนเตียงล่าง
“อ่ะ นายทำให้เขากลัวจนออกไปแล้วสิ” ยามะพีทำปากยื่นด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งถัดจากเพื่อนรัก พลางใช้สองมือนวดคลำที่ลำคอตัวเอง
“งั้นชั้นก็มั่นใจได้เลยสินะว่าคืนนี้นายกับคุซาโนะคงจะดูแลเขาได้เป็นอย่างดี แล้วชั้นก็จะได้นอนกอดหมอนข้างแทนซะ” จินพึมพำด้วยความโกรธ
ยามะพีระเบิดหัวเราะร่า แต่มันก็ทำให้ต้องรู้สึกเจ็บบ้างเล็กน้อยจากการที่ถูกจินเข้ามาทำร้ายไปก่อนหน้านี้
“ขำอะไรว่ะ?” จินอยากที่จะรู้
“นายพยายามที่จะบอกชั้นหรือว่านายนอนกับเคย์ตะไปจริงๆ?” ยามะพียิ้ม “ทำไมนายต้องไปนอนกอดสิ่งที่นายไม่เคยได้กอดมาก่อนเลยด้วยล่ะ? เฮ้..นี่ ชั้นว่าเราน่าจะทำตุ๊กตาสองตัววางไว้ในนี้ นายก็จะได้ไปนอนที่ที่ฝั่งเหนือแทนไงล่ะ”
จินใช้หมอนทุบยามะพีเข้าอย่างเต็มแรง “นายหุบปากได้หรือยังว่ะ”
“ชั้นไม่อยากจะเป็นนายเลยจริงๆ ... อยู่ใกล้ก็เหมือนได้อยู่ไกล เพราะนายคอยแต่จะบอกปัดความสุขจากการที่มีเขาอยู่เคียงข้าง”
“โอ๊ะดูสิว่าใครที่เป็นคนพูด” ร่างสูงตอกกลับ ทำให้ยามะพีนิ่งเงียบไปจริงๆ หัวหน้าแก๊ง AT-TUN แสยะยิ้มให้กับชัยชนะยกนี้และมีความสุขกับชัยชนะอยู่เพียงชั่วครู่ “ยังไงก็เถอะ เราเลิกเล่นกันได้หรือยัง? มีบางอย่างที่นายต้องฟัง ชั้นรู้แล้วล่ะว่าใครที่อยู่ในทางลับนั่นพร้อมชั้นและคาเมะ”
to be continued chap. 32
มาแล้วค้า หายไปเหมือนนานเลยเนาะ โอยช่วงนี้ติดฟิคงอมแงม หุหุ
มาถึงตอนนี้ไม่รู้หลายคนจะพอยิ้มออกได้บ้างไหมค้า
รียาเม้นส์มาประโยคเดียวว่า จินหื่น กั๊กกกกก (แต่เค้าชอบน้า)
ตอนก่อนขำๆดี มีแต่คนเม้นส์ว่าเต่าน้อยหลับชัวร์เลย อิอิ แล้วก็เป็นจิงเนาะ
ตอนนี้เหมือนบอกแบคกาวน์บ้างนิดๆนะคะ เคยมีคนถามนานแล้ว ช่วงบทแรกๆว่าจินติดคุกนานเท่าไหร่
ตอนนี้ได้รู้แล้วนะคะ (ตอนนั้นไม่อยากบอกเพราะจะเป็นการสปอยส์ไป) จินติดห้าปีค้า ปีที่สามนี่คาเมะเข้ามาพอดีเล้ยย
นิวส์เจ็ดปี นานเหมือนกันเนาะ ...ตอนนี้แอบลุ้นตอนอยู่ห้องซักรีด กรี๊ดดดด แต่ก็เก้ออยู่ดี ฮืออออ
ตอนนี้ยังไม่ได้หวานมาก แต่ก็มีกุ๊กกิ๊ก พูดแหย่กันบ้าง >_<
อ้อสำหรับคำว่าเนิร์ด nerd นี่ขอทับศัพท์ไปเลยแล้วกันนะคะ เด็กเนิร์ดส่วนมากก็พวกเด็กเก่ง พวกเด็กแก่เรียน ฉลาดนะ
แต่ไม่ค่อยเข้าสังคมกับคนอื่นๆเท่าไหร่ (แต่ความหมายมันออกแนวเชิงลบมากกว่าอ่ะนะ)
แต๊งรียานะจ้า อย่าลืมปั่นๆของตะเองล่ะ
แต๊งเพื่อนก้อย ด้วยค้า
ฝากถึงพี่สาวคนจ๋วย พี่ยังไม่แก่หรอกน้าค้า อิอิ แต๊งค้า
ขอบคุณทุกคอมเม้นส์นะค้า คนอ่านทุกคน ๆๆๆๆ ถ้าเอ่ยชื่อทุกคนคงยาวไปเนาะ แต่จำชื่อล๊อคของทุกคนได้จ้า