In His care 32

Nov 28, 2008 19:59



Title: In his Care
Author:blue_orbs
Translated and wrote in Thai by daniellove& windzephyr
Pairing: Akame
Rating: NC-17
Disclaimer:The plot belongs to blue_orbs darling
Summary: For this chapter N/A

Thanks รียา อารียา reeya-areeya to be my lovely
beta ,how could I survive without YOU *kisses*
Special thanks to ก้อย jk_no_koi

Chapter 32

จินไม่แน่ใจว่าหลังจากที่ออกมาจากทางลับของจอห์นนี่มาได้โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นแล้วพวกเขามาจบลงตรงนี้อีกได้อย่างไร จอห์นนี่รู้ได้อย่างไรกัน? พวกเพื่อนในแก๊งต่างก็พากันช่วยปิดเรื่องให้เป็นอย่างดี ..ถึงแม้เพื่อนสุดที่รักจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยก็เถอะ แถมในตอนที่มีข่าวลือกระจายออกไปว่าจินออกไปเดินเตร็ดเตร่ในทางลับกับอดีตเด็กของเล่นแสนสวยนั้น พวกผู้คุมที่เป็นฝ่ายเดียวกับเขาต่างก็พากันสบถสาบานว่าเห็นจินอยู่ในที่ๆควรจะอยู่จริงๆ..

สิ่งที่เลวร้ายที่สุดได้เกิดขึ้นแล้ว ร่างสูงแอบชำเลืองมองคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ไม่ห่างจากเขามากนัก มือทั้งสองข้างของคาเมะถูกใส่กุญแจมือวางนิ่งอยู่บนหน้าตัก นิ้วเรียวบางคอยลูบคลำวัตถุสีทองที่ติดอยู่ที่นิ้วอย่างประหม่า ..เหมือนจะเป็นการย้ำเตือนตัวเองถึงการมีตัวตนของแหวนวงนี้... แล้วยังจะตอกย้ำความจริงในข้อที่ว่าในครั้งนี้เขาได้พาตัวให้ต้องมาตกอยู่ในความยุ่งยากที่ยากจะหาทางออกได้จริงๆ

จินมองกลับไปยังชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพวกเขา จอห์นนี่ดูแก่ขึ้นมากกว่าครั้งสุดท้ายที่ได้เจอเสียอีก ....มันทำให้เขานึกตงิดๆอยู่ในใจว่าจอห์นนี่จะยังใช้ทางเดินลับนั่นอีกหรือเปล่า .. พูดกันตามตรงแล้ว หมอนี่ดูเหมือนคนอายุสักร้อยกว่าปียังไงยังงั้น... ถ้าอย่างนั้นเมื่อตอนที่หมอนี่กำลังมีเซ็กส์อยู่จะไม่ชักจนหัวใจวายไปก่อนจะเสร็จธุระหรือยังไง...เรื่องแบบนั้นมันน่าจะเป็นอันตรายสำหรับคนสูงวัยนี่น่า....ว่าแต่อายุปูนนี้แล้วยังมีแรงเตะปี๊ปไหวหรือเนี่ย

ทุกสิ่งทุกอย่างที่จอห์นนี่พูดออกมาแทบจะไม่ลอยเข้าหัวเขาเลยสักนิด จอห์นนี่ลุกขึ้นยืนพลางส่งสายตามองฝ่าออกไปนอกหน้าต่าง ก่อนจะพูดกล่าวอะไรออกมาสักอย่าง...แต่จินก็ไม่สนใจที่จะฟัง ความสนใจทั้งหลายทั้งแหล่ของเขาได้พุ่งตรงไปที่คนตัวเล็ก ดูเหมือนว่าคาเมะจะได้รับผลกระทบเข้าอย่างเต็มกับคำพูดของจอห์นนี่ที่พูดครอบคลุมถึงพวกเขาทั้งสอง

ตาคมดุของผู้แก่วัยกว่าจ้องมองมาที่เขา จินจำต้องละสายตาออกจากร่างบาง แล้วมองกลับไปยังฝ่ายตรงข้าม จอห์นนี่ดูเหมือนจะจ้องมาที่เขาด้วยทีท่าคล้ายจะกล่าวหาอยู่ในที แต่สิ่งที่จินพอจะทำความเข้าใจได้ก็แค่คำที่อีกฝ่ายพูดออกมาว่า 'นาย ตรงนี้ นาย ตรงนั้น' เท่านั้นแหล่ะ

จอห์นนี่และจินยังเล่นจ้องตากันอยู่อย่างไม่ลดละ จนเมื่อจอห์นนี่เริ่มเดินห่างจากหน้าต่าง เดินผ่านโต๊ะทำงานเข้ามาในทิศทางที่จินนั่งอยู่ ต่อเมื่อเจ้าของคุกของที่นี่ได้เดินเลี้ยวเข้าไปยังด้านหลังของเก้าอี้..ทำให้การจ้องตากันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อจำต้องขาดช่วงไปโดยปริยาย... เมื่อได้เดินผ่านตรงที่จินนั่งอยู่จอห์นนี่ก็ยังคงพูดไปเรื่อยเปื่อย ก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ด้านหลังของคาเมะ

ร่างสูงมองเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าในตอนนี้คนตัวเล็กเริ่มจะเกิดอาการตึงเครียดขึ้นมาทันที แล้วที่ทำให้ทุกอย่างดูแย่ไปยิ่งกว่านั้นก็คือการที่จอห์นนี่ได้วางมือบนด้านหลังเก้าอี้ที่ร่างบางนั่งอยู่ แถมไอ้แก่ตัวแสบนั่นยังโน้มตัวเข้าไปหาคนตัวเล็กจากทางด้านหลังอีกด้วยสิ

คาเมะนั่งนิ่งไม่ขยับไหวติง ร่างบางได้แต่สูดลมหายใจเข้าอย่างหนักหน่วง ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองฝ่ายตรงข้าม

จินรู้ดีว่าการที่จอห์นนี่เก็บไม้เก็บมือให้ห่างจากคาเมะได้ยากเย็นแสนเข็ญนั่นก็เพราะสาเหตุที่มาจากเขานั่นเอง จินจำต้องกัดฟันกรอดๆเมื่อมือสกปรกคู่นั้นยังคงลากผ่านเก้าอี้เพื่อไปวางอยู่เหนือไหล่บาง การกระทำเช่นนั้นทำให้คนตัวเล็กแทบจะกระโดดตัวลอยด้วยความตกใจ แต่คาเมะก็ไม่กล้าพอที่จะดึงตัวให้ออกห่าง

จินกำมือแน่นจากตรงที่ได้ถูกใส่กุญแจมือวางไว้บนตัก ดวงตาคมจับจ้องมือที่วางแนบอยู่บนไหล่ของคาเมะ เขานึกเกลียดกับการที่อีกฝ่ายใช้มือเคลื่อนไหวไปมาอยู่บ่อยครั้ง เรียวนิ้วที่ดูจะลูบไล้วนเวียนอยู่ตรงรอยแยกของสาปเสื้อ ความคิดที่ว่าใครคนอื่นได้แตะต้องเนื้อตัวของคาเมะมันทำให้เขาแทบบ้า ยิ่งได้มาเห็นว่าจอห์นนี่เป็นฝ่ายกระทำแล้ว มันยิ่งทำให้เขารู้สึกอยากจะคลั่งขึ้นมาเลยจริงๆ

“จะไม่มีการตกลงยอมความใดๆทั้งสิ้น” ในที่สุดจินก็สามารถเข้าใจในคำพูดที่จอห์นนี่พูดออกมาเสียที มือของจอห์นนี่ยังคงเคลื่อนไหวไปมาอย่างเย้าแหย่ แต่จินพบว่ามันเหมือนเป็นการกวนใจเขาเสียมากกว่า มือคู่นั้นได้ลูบไล้อยู่บนผิวเปลือยเปล่าตรงช่วงลำคอของร่างบาง ก่อนจะแทรกเข้าไปลูบไล้ยังกลุ่มเส้นผมสีทองสว่าง...แล้วจึงย้อนกลับมาวางทาบบนไหล่บาง ตามด้วยการถอนมือออกไปอย่างไม่ใคร่จะเต็มใจนัก

จินรู้สึกว่าคาเมะดูจะไม่สบายมากกว่าเมื่อตอนก่อนหน้านี้เสียอีก ชายแก่ยังคงเดินเรื่อยไปจนถึงผนังห้อง ...เดินไปหยุดยังตรงที่ๆจินรู้เป็นอย่างดีว่ามีทางลับซ่อนไว้อยู่ ...มันเป็นที่ๆเดียวกับที่เขาและคาเมะได้ไปเดินโซซัดโซเซอยู่เมื่อวันก่อน

“ชั้นจะไม่ปล่อยใครไปง่ายๆแน่ ไม่ปล่อยทั้งนายแล้วก็คาเมนาชิจัง อย่าคิดว่านายจะมาติดสินบนหรือไม่ก็ทำเป็นมาให้สิทธิ์การควบคุมคุกนี้กับชั้นอย่างเต็มที่ได้อีก ..ชั้นไม่เคยเสียสิทธิ์นั่นอยู่แล้ว คาเมนาชิและนายจะต้องจำคุกอยู่ในนี้เพิ่มเป็นสองเท่า” จอห์นนี่พูดต่อ

สองเท่างั้นเหรอ? จินกัดฟันแน่น นั่นก็หมายความว่าอีกสองปีสำหรับคาเมะแล้วก็ห้าปีสำหรับเขา!

“นายบ้ากันไปแล้ว มันไม่มีทางลับอะไรนั่นอยู่สักหน่อย อย่าลืมไปบอกคนอื่นๆด้วยล่ะ จะได้ไม่เสียเวลาไปหาอะไรแบบนั้นกันอยู่ได้” จอห์นนี่พูดพร้อมกับเปิดบานประตูที่สร้างแอบเอาไว้ เป็นประตูที่สร้างให้ตรงเข้ามาสู่ห้องทำงานของเขานั่นเอง “พวกนั้นจะได้เลิกหากันได้แล้ว” พอพูดจบ ชายชราก็หายลับเข้าไปในทางลับพร้อมทั้งปิดประตูตามหลัง คาเมะและจินได้ถูกทิ้งให้อยู่กันตามลำพังในห้องทำงานของจอห์นนี่ เพียงไม่นานความเงียบสงัดก็เข้ามาปกคลุมพวกเขาอยู่นานพอดู จินใช้สายตามองกลับไปยังดวงหน้าหวาน นอกจากดูเหมือนจะไม่สบายแล้ว ...คาเมะยังมีทีท่าท้อแท้และสิ้นหวังอีกด้วย ‘เขาจะอธิบายเรื่องนี้ให้ครอบครัวฟังได้อย่างไร’ จินเดาเอาว่านั่นคงเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังคิดอยู่ในตอนนี้แน่

อีกห้าปี...บ้าเอ๊ย อีกห้าปีทั้งๆที่พวกเขาเหลือเวลาอีกแค่สองเดือนก็จะได้ออกไปจากที่นี่ คนในแก๊งจะต้องพากันรุมฆ่าเขาแน่ ..ต่อจากนั้นก็คงจะไปแต่งตั้งอุเอดะให้เป็นหัวหน้าแก๊งอีก พวกนิวส์ก็คงจะพากันหัวเราะก้นขวิดไปพร้อมๆกับพวกคันจานิ 8 ..จินมั่นใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดี ..นี่ยังไม่นับรวมไปถึงพวกอาราชิแล้วก็พวกรุ่นพี่ที่คงจะได้มีความสุขร่วมกันอยู่บนความทุกข์ของเขา.....

แต่ก็อีกล่ะ...ถ้ามองในแง่ดีแล้วล่ะก็..เขาก็จะสามารถเอาตัวคาเมะเป็นเด็กของเล่นของเขาได้ต่ออีกสองปี....

จินรู้สึกอยากจะเตะก้นตัวเองนักที่ในสถานการณ์อย่างนี้เขากลับคิดเรื่องแบบนี้ออกมาได้...แต่แรงกระตุ้นที่ทำให้อยากจะยิ้มออกมาดันเอาชนะได้เสียนี่ เมื่อสายตาของพวกเขาทั้งสองคนจ้องประสานกันนั้น คาเมะมองเขาด้วยแววตาแปลกๆเมื่อได้เห็นรอยยิ้มแบบคนเจ้าเล่ห์ฉาบอยู่บนใบหน้าของจิน

คนตัวเล็กเปิดปากเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็ไร้เสียงเล็ดลอดออกมา จินจำต้องหุบรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ๆ ที่ดูท่าจะกลับกลายเป็นการกระหยิ่มยิ้มย่องเข้าไปทุกทีให้จางหายไป

“นายคิดอะไรอยู่น่ะ?” ในที่สุดร่างบางก็เอ่ยปากถามออกมา

จินตัดสินที่จะไม่พูดตอบไปอย่างที่ใจคิดไว้แน่ “ทุกอย่างอาจจะเลวร้ายไปมากกว่านี้นะ” ร่างสูงตอบ ..ในครั้งนี้คาเมะก็ยิ่งมองดูเขาด้วยแววตาที่แปลกไปยิ่งกว่าเดิม

“จะมีอะไรที่แย่กว่านี้ได้อีก? เราเพิ่งถูกจำคุกเพิ่มเป็นสองเท่าเลยนะ?” น้ำเสียงของอีกฝ่ายฟังดูท้อแท้สิ้นหวัง จินรีบลุกจากเก้าอี้แทบจะทันที

“จอห์นนี่อาจจะพยายามทำอะไรบางอย่างกับนาย” จินพึมพำขณะที่โน้มตัวมาอยู่ด้านหน้าของคาเมะ นิ้วเรียวยาวคู่หนึ่งได้ไล้โลมจากตรงช่วงเข่าไปยังสะโพกผายของคนตัวเล็ก “นายก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนสวยที่ถูกเรียกให้เข้ามาพบในห้องทำงานของหมอนี่-“

ร่างบางลุกขึ้นยืนอย่างปุ๊ปปั๊ป ก่อนจะตามด้วยการยกมือทั้งสองข้างที่ถูกล๊อคกุญแจมือขึ้นไปลูบหน้าลูบตา แล้วจึงเดินตรงไปยังหน้าต่างอย่างรวดเร็ว จินก็รีบตามอีกฝ่ายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน เมื่อคาเมะรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังเดินเข้ามาหาจึงได้พูดขึ้นว่า “นายพยายามที่จะช่วยชั้นไว้นี่”

เมื่อมือหนาได้วางทาบลงไปบนไหล่บางทั้งสองข้างของคาเมะ ไหล่บางกลับไม่ได้สั่นไหวมากเหมือนเมื่อครั้งที่จอห์นนี่วางมือลงบนนั้นเลยสักนิด “ชั้นทำล้มเหลวไปแล้ว”

คนตัวเล็กหันหน้ากลับมามองอีกฝ่ายด้วยทีท่าลังเลใจอยู่นิดๆ “แต่นายก็ยังพยายามอยู่ดี ทุกอย่างที่นายทำให้ชั้น ...นายต้องการอะไรจากชั้นกันแน่?”

มือข้างหนึ่งของจินวางลงบนสีข้างของร่างบาง ฝ่ามือหนาวางแนบไปกับกระจกหน้าต่าง ส่วนมืออีกข้างก็วางอยู่ด้านตรงกันข้าม ดวงอาทิตย์ดวงโตกำลังจะลาลับขอบฟ้าอยู่ทางเบื้องหลังของร่างบอบบาง ...ลำแสงสีทองอ่อนๆได้สาดส่องเข้ามากระทบร่างของพวกเขา เสมือนช่วยขับเส้นผมสีน้ำตาลแกมทองของคาเมะให้ดูสว่างไสว

“มันยากที่จะคิดออกเหรอไง?” จินถาม “ชั้นชอบของสวยๆงามๆยังไงละ”

คาเมะจ้องมองร่างสูงด้วยความสับสน คนตัวเล็กไม่เคยจะเข้าใจเลยสักนิดว่าตัวเองนั้นมีค่ามากมายขนาดไหน ด้วยความที่เกรงว่าจะทำให้อีกฝ่ายต้องตื่นตระหนก จินได้ยกมือข้างหนึ่งขึ้นไปสัมผัสใบหน้าขาวผ่องอย่างช้าๆและแผ่วเบา ก่อนที่จะค่อยๆแทรกเรียวนิ้วหนาไล้เล่นไปยังกลุ่มเส้นผมนุ่มสีทองสว่างตา “ชั้นอยากได้ทองคำ” จินพูดเสริม “แล้วชั้นก็ไม่อยากจะยกสิ่งที่ชั้นเคยได้เป็นเจ้าเข้าเจ้าของให้ใครทั้งนั้น”

“ อีกไม่กี่วินาทีจอห์นนี่ก็อาจจะกลับเข้ามาในนี้แล้วนะ” คาเมะพูดขึ้น เหมือนว่าอีกฝ่ายจะเริ่มจดจำท่าทีแบบนี้ของจินได้เป็นอย่างดี ....มันเห็นได้อย่างง่ายดายขนาดนี้เลยเหรอกับวิธีการรุกที่เขาชอบใช้เมื่อยามที่อยากจะอยู่ใกล้ชิดเนื้อแนบเนื้อกับร่างบาง...? “ได้โปรดเถอะ ปล่อยชั้นไปก่อนนะ ได้โปรด?”

รอยยิ้มอบอุ่นแผ่ขยายทั่วริมฝีปากหนา “นายยังกลัวอยู่เหรอ” ร่างสูงพึมพำออกไป แล้วในครั้งนี้เขาก็ไม่ยอมให้คาเมะได้ตอบอะไรสักอย่างที่จะกลายเป็นคำพูดพล่ามเหมือนเมื่อครั้งที่แล้ว

กลีบปากบางนั้นดูจะลังเลอยู่เล็กน้อย หรือแทบจะไม่เต็มใจเลยสักนิดที่จะเผยอกลีบปากออกมาเพื่อให้เขาได้ลิ้มรสหวานที่อยู่ภายใน ...ไม่เต็มใจเหมือนดั่งตอนที่จอห์นนี่ไม่เต็มใจจะผละมือออกมาจากไหล่บางลาดของคนตัวเล็ก จินโน้มลำตัวหนาไปด้านหน้า เหมือนจะกักกั้นร่างเล็กให้ตัวราบไปกับกระจกหน้าต่าง ...ทันใดนั้นเองเขาก็นึกสงสัยขึ้นมาทันทีว่านักโทษที่อยู่ในสวนหย่อมจะมองขึ้นมาเห็นพวกเขาหรือไม่

แขนแกร่งทั้งสองข้างได้เลื่อนไปโอบรอบเอวบาง เพื่อจะยกร่างน้อยขึ้นจากบานหน้าต่าง ร่างสูงจัดที่จัดทางเล็กน้อยเพื่อให้ร่างเล็กได้ทิ้งน้ำหนักตัวมาที่เขาเสีย เมื่อยามที่จินหมุนตัวไปรอบๆนั้น...มือน้อยๆของคาเมะได้เกาะกุมเสื้อของเขาเอาไว้อย่างแน่นหนา จินใช้เท้าเตะเก้าอี้ที่วางแอบอยู่ข้างๆให้กลิ้งหลุนๆไปตกอยู่ที่มุมห้องแทน ก่อนที่จะเริ่มวางร่างของคาเมะลงนั่งบนขอบโต๊ะทำงาน

จินพยายามที่จะดันลำตัวหนาของเขาให้เลื่อนเข้าไปอยู่ช่องตรงกลางระหว่างมือทั้งสองข้างของคาเมะที่ถูกล๊อคกุญแจมือเอาไว้ แขนของคาเมะได้ตกลู่อยู่รอบคอและไหล่กว้างแทน แล้วเมื่อร่างสูงโน้มตัวไปด้านหน้า ร่างของคาเมะก็เริ่มเกร็งขึ้นมาทันที จากนั้นร่างบางจึงเริ่มเคลื่อนตัวให้ตัวคล้อยต่ำตามมา ..ทำให้พวกกองเอกสาร หนังสือ และก็ดินสอได้เลื่อนตกจากโต๊ะไปกองกันอยู่ที่พื้น

“นายมีเคย์ตะแล้วนี่” คนตัวเล็กเปิดปากพูดก่อนที่จินจะทาบริมฝีปากหนาลงมาอีกครั้ง จินก็ไม่แน่ใจว่าคำพูดคำนี้ของคาเมะจะหมายถึงคำสั่งที่บอกให้เขาหยุด หรือเขาควรจะทำตามน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความไม่มั่นใจของตัวผู้พูดดี...น้ำเสียงลักษณะนี้ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคำปฏิเสธเสมอไปนี่น่า นิ้วเรียวหนายังคงวางนิ่งอยู่บนอกเล็กที่ยังมีเสื้อผ้าปกคลุมเอาไว้ ก่อนที่มือหนาจะเริ่มปลดเม็ดกระดุมให้หลุดจากรัง แต่ในขณะเดียวกันจินก็คอยมองอาการสนองตอบจากอีกฝ่าย

“ไม่..ชั้นไม่มีสักหน่อย” จินตัดสินใจที่จะตอบออกมา ไม่ว่าคำพูดประโยคนั้นของคาเมะจะหมายถึงอะไรก็ตาม..มันไม่ใช่ความจริงสักหน่อย ไม่มีอะไรสักอย่างที่ฟังเข้าท่าเลยสักนิด

คาเมะไม่ได้ตอบคำใด แต่คนตัวเล็กก็ไม่ได้เอ่ยปากห้ามปรามเขาเลยสักนิด จินปลดกระดุมอีกหนึ่งรังแล้วจัดการปลดกระดุมเม็ดต่อไป จนกระทั่งเสื้อเชิ้ตตัวบางได้เลื่อนลงมาห้อยอยู่ตรงไหล่ลาดบาง จินไม่สามารถที่จะปลดเสื้อให้หลุดออกไปจากร่างได้เลย เพราะมือของคนตัวเล็กนั้นยังคงโอบรอบคอเขาไว้...ยังจะกุญแจมือที่รวบทั้งสองข้อมือของคาเมะให้ต้องติดกันนั่นอีกล่ะ

โชคดีที่ว่าปัญหาข้อนี้ไม่ได้เกิดกับกางเกงของคนตัวเล็กเลยสักนิด จินปลดกางเกงให้ออกจากร่างของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย จินหยุดเพื่อใช้สายตาโลมไล้ไปยังสิ่งที่เห็น...เป็นสิ่งที่เขาไม่ได้เห็นเป็นเวลานานตั้งเดือนกว่า คาเมะ...ร่างกายเปลือยเปล่าของคาเมะที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ต่อหน้าต่อตาเขา ขาเรียวเล็กเปิดอ้าออกกว้างเพื่อโอบรอบเอวหนา.... สิ่งนี้คือสิ่งพิเศษที่เขาเท่านั้นจะมีโอกาสเห็น ..ไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นเจ้าของร่างกายบอบบางนี้..แต่เป็นเพราะว่าถ้าเขาคิดเอาเองว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งพิเศษสำหรับเขาเท่านั้น...ไม่ใช่สำหรับคนอื่น..คิดเช่นนี้แล้วก็ทำให้รู้สึกดีนี่น่า ..แม้ในความเป็นจริงเขาจะไม่ได้มีสิทธิ์ในร่างของคาเมะมากไปกว่าคนอื่นเลยก็ตาม

เขารักทุกส่วนสัดของคาเมะ เขาเคยนึกอิจฉาเอวบางๆนั้นอยู่เหมือนกัน คนตัวเล็กมีหุ่นที่งดงามและอ้อนแอ้น เขาชอบกับการที่เขาสามารถจะเห็นทั่วทั้งร่างของคาเมะ ยิ่งในตอนที่เรือนร่างนั้นเริ่มจะถูกแต่งแต้มไปด้วยสีแดงระเรื่อภายใต้สายตาคมกริบของเขา....รู้ดียิ่งนักว่าเป็นสีเดียวกันกับที่กำลังแต่งแต้มแก้มบางอยู่เช่นกัน

จินมองกลับไปที่คาเมะ "ในที่สุดนายก็เป็นของชั้นอีกครั้ง-“ ร่างสูงแทบจะไม่มีโอกาสได้พูดจบประโยคเมื่อบานประตูได้เปิดอ้าออกมา จากนั้นแสงสว่างจากตรงทางเดินก็ได้ส่องแสงเข้ามาเติมเต็มภายในห้อง แสงสว่างได้สาดแสงลอดผ่านบรรยากาศอันอบอุ่นและแสนสบายของพวกเขา

“เรามาช่วยนายแล้ว~!!” เพื่อนร่วมแก๊งทั้งสี่คนร้องอุทานออกมาด้วยความภูมิอกภูมิใจ

....ถึงว่าทุกอย่างมันถึงได้ดูดีเกินกว่าที่จะเป็นความจริงได้

“ไม่อีกแล้วนะ! บ้าเอ๊ย ออกไปซะ แล้วอีกหนึ่งชั่วโมงค่อยกลับมา!” จินตะโกนเข้าใส่ จากนั้นทั้งกองหนังสือ แฟ้มเอกสาร รองเท้า หรือแม้แต่เสื้อผ้าได้พากันลอยละลิ่วออกมาจากห้องออฟฟิศ TTUN จึงจัดการปิดประตูเพื่อปล่อยให้หัวหน้าของพวกเขาได้อยู่กับคาเมะจังตามลำพัง จินเปล่งเสียงครางแห่งความรำคาญใจออกมา ก่อนที่จะหันเหความสนใจทั้งหมดมายังคนตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้า "พวกเราถึงไหนกันแล้วนี่..?”

“ท่านอคานิชิ” ร่างบางกระซิบกระซาบออกมาเมื่อจินพยายามที่จะปลดเปลื้องเสื้อผ้าที่เหลือบนลำตัวหนาออกเช่นกัน

“จิน” จินกระซิบตอบ ก่อนที่จะโน้มตัวไปหากลีบปากบาง...รู้สึกนึกชอบกับการที่ลมหายใจของคาเมะรวยรินอยู่บนผิวของเขายิ่งนัก “ชั้นว่าครั้งสุดท้ายที่นายอ้าขาให้ชั้นอยู่บนโต๊ะนี้...ชั้นก็ได้บอกไปแล้วนี่ว่าให้เรียกชั้นว่าจิน...”

“ท่านอคานิชิ” คาเมะเอ่ยออกมาอีกครั้ง จินเองก็ให้นึกหงุดหงิดใจยิ่งนักเมื่อร่างบางไม่ยอมเรียกขานชื่อของเขา ยิ่งกว่านั้น...คาเมะไม่เคยเรียกเขาว่าท่านมาก่อนเลยนี่น่า ปกติแล้วเด็กของเล่นของเขาก็มักจะเรียกเขาว่าท่านอยู่แล้ว...จินเองก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย เขาเคยได้นึกโล่งอกที่คาเมะไม่ได้เข้าใจอะไรมากพอที่จะรับเอานิสัยการเรียกขานแบบนั้นมาได้ บางคนอาจจะเกิดอารมณ์เมื่อได้ถูกเรียกอย่างสูงส่งเช่นนี้ แต่จินคิดว่าเขาไม่ได้ต้องการมันเลยสักนิด ..ถึงจะไม่ถูกเรียกขานเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าตัวเองสูงส่งได้อยู่แล้วนี่น่า

ร่างสูงโน้มตัวไปด้านหน้าเหมือนทำให้คนตัวเล็กต้องโน้มตัวไปด้านหลังมากยิ่งขึ้น จินหยอกเย้าช่องทางคับแคบของอีกฝ่ายพร้อมกับเปล่งเสียงครางแหบพร่าบอกมาว่า "จิน"

“อะ ท่านอคานิชิ!” จินไม่แน่ใจว่าสิ่งไหนกันแน่ที่ทำให้เขาตื่นเต้นระหว่าง..การที่เขาถือเอาสิ่งที่คาเมะกำลังทำอยู่ในขณะนี้ให้เป็นสิ่งท้าทายกับการที่จะทำให้คาเมะไม่สามารถเปล่งเสียงครวญอื่นใดออกมาได้ นอกจากจะต้องร้องครางเสียงหวานและร้องเรียกชื่อของเขาออกมาด้วยคำพยางค์เดียว ..หรือการที่เขานึกหงุดหงิดรำคาญใจในความดื้อดึงของอีกฝ่าย คนตัวเล็กทำแบบนี้เพื่อล้อเลียนเขาหรืออย่างไร?

ดวงตาของจินมองจ้องอยู่ที่คาเมะ นายจะสมองกลวงไปได้ขนาดไหนกันเล่า? นายแอบซ่อนตัวอยู่ภายใต้บทบาทเด็กของเล่นของชั้น แล้วปิดตาไม่ยอมมองดูว่าชั้นรู้สึกกับนายอย่างไร สองแขนแกร่งโอบรอบร่างของคนตัวเล็กอย่างแนบแน่น ..จินไม่ยอมให้อีกฝ่ายหลบตาจากเขาไปได้ อย่าเรียกชั้นอย่างกับคนที่ไม่สนิทกันแบบนั้นได้ไหม?

ชายหนุ่มกระแทกกระทั้นตัวเข้าไปในร่างของคาเมะ...คนตัวเล็กนำความแปลกใจมาให้อีกครั้งด้วยการร้องเปล่งเสียงดังยิ่งกว่าเดิม “ท่านอคานิชิ!” จินต้องคอยบอกตัวเองอยู่ลึกๆว่าในตอนที่คาเมะเป็นแบบนี้แล้วล่ะก็ ร่างบางก็มักจะเปล่งเสียงดังมากกว่าเดิมและแทบจะไม่รับรู้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเลยสักนิด นี่เขาทำคาเมะให้คลั่งไปแล้วเหรอ? นี่มันคือฝันร้ายชัดๆเลย....

“จิน” ร่างสูงทวนคำ “เรียกชั้นว่าจินสิ!”

“อะไรนะ? ทะ ท่านอคานิชิ?”

“เรียกชั้นว่าจินสิ!นายเป็นคนรักของชั้น ห้ามเรียกชั้นแบบนั้นอีก...เรียก...ชั้น...ว่าจิน!” จินครางอู้อี้เมื่อได้ขย่มตัวเข้าไปในร่างของคนตัวเล็ก คาเมะจิกเล็บบนไหล่กว้าง แล้วจึงใช้สองแขนและสองขาเหนี่ยวรอบลำตัวหนาอย่างแนบแน่น

“อ่ะ จะ จิน?” น้ำเสียงที่ฟังดูไม่คล้ายกับเสียงของคาเมะลอยล่องออกมาจากเรียวปากบาง “ท่านจิน?”

จินค่อยๆเปิดเปลือกตาออกมาด้วยความกลัวอย่างที่สุด

“ตื่นแล้วเหรอฮะ อคานิชิ....เอ่อ ท่านจิน?” ในครั้งแรกนั้นจินไม่สามารถจะทำความเข้าใจได้เลยสักนิดว่าทำไมใบหน้าที่เขาจ้องมองในขณะนี้ถึงกลายเป็นใบหน้าของเคย์ตะไปได้ เกิดอะไรขึ้นกับคาเมะที่กำลังนอนเนื้อตัวเปลือยเปล่า ..แถมนอนเปลือยอยู่บนโต๊ะทำงานด้วยสิ เขาค่อยๆลำดับได้ถึงความจริงที่แสนจะเลวร้ายที่เขาเคยนึกกลัวไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ได้ว่า...ทุกสิ่งที่เคยได้นึกกลัวเอาไว้มันกลับกลายเป็นความจริง..เขาฝันไปน่ะเอง ว่าแต่ทำไมเขาฝันถึงคาเมะได้บ่อยขนาดนี้?

“เป็นอะไรหรือเปล่าฮะ ท่านจิน?” เคย์ตะถามออกมาจากตรงที่ยืนอยู่บนพื้นข้างเตียงของจิน ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง ที่เหมือนจะทำให้ร่างสูงรู้สึกไม่สะดวกใจในการที่เคย์ตะร้องเรียกชื่อของเขาออกมาด้วยชื่อแรก คาเมะเรียกเขาว่าจิน เพื่อนที่สนิทก็มักจะเรียกเขาว่าจินหรือไม่ก็อคานิชิสลับกันไปมา ...แล้วแต่ว่าจะสะดวกใจเรียกแบบไหนในตอนนั้น “ท่านจินคงจะฝันร้ายไปเองนะฮะ”

ฝันร้ายงั้นเหรอ?! เขามีฝันที่เยี่ยมยอดที่สุด แล้วในสภาพความเป็นจริงที่เป็นอยู่ในขณะนี้ก็ไม่อาจจะหาสิ่งใดมาทดแทนฝันนั้นได้เลย จนเมื่อใครสักคนได้โผล่พรวดเข้าไปในความฝันแล้วทำให้ฝันนั้นยุ่งเหยิง ดูเหมือนว่า คำเรียกของเคย์ตะที่เรียกเขาว่า ท่านอคานิชิ จะเข้าไปทำให้คาเมะผู้น่าสงสารในความฝันของเขาเกิดสับสนจนต้องเรียกชื่อเขาออกมาแบบนั้นได้

“ชั้นสบายดี กลับไปนอนเถอะเคย์ตะ” มันเหมือนเป็นคำสั่งที่จะให้อีกฝ่ายปล่อยให้เขาอยู่เพียงลำพัง มากกว่าที่จะเป็นคำแนะนำที่เปี่ยมไปด้วยไมตรีจิต เคย์ตะพยักหน้ารับอย่างลังเลนิดๆ ก่อนที่จะพาตัวให้ลับหายไปจากระยะสายตาของร่างสูง “โอ๊ะแล้วก็เคย์ตะ”

“ฮะ ท่านอะ เอ่อ ท่านจิน?” เคย์ตะถาม ก่อนจะกลับมาปรากฏตัวอยู่ข้างเตียงของจินอีกครั้ง

“เรียกชั้นว่าท่านอคานิชิแล้วกัน อย่างน้อยมันก็ดูดีในสายตาของคนภายนอก” มันก็เป็นคำโกหกนั่นแหล่ะ...พวกเขาทั้งสองต่างก็รู้ดี

“ฮะ ท่านอคานิชิ” เคย์ตะตอบรับ แล้วหายตัวไปจากสายตาของเขาอีกครั้ง

จินล้มตัวกลับลงไปนอนบนผ้าปูที่นอนพร้อมด้วยรอยยิ้ม... ถ้าไม่นับในส่วนที่จอห์นนี่แตะเนื้อต้องตัวคาเมะในช่วงแรก และการที่เคย์ตะจู่ๆก็เข้ามาทำให้คาเมะเรียกเขาว่า ‘ท่านอคานิชิ’ แล้วล่ะก็...ความฝันครั้งนี้ก็ถือได้ว่ามีค่าเท่าไข่มุกเลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าการได้อยู่ในคุกนี้ต่อไปอีกห้าปีจะเหมือนต้องตกอยู่ในขุมนรกก็เถอะ แต่อย่างน้อยสองปีจากในห้าปีนั้นเขาก็จะได้ใช้ช่วงเวลาอยู่กับคาเมะต่อไป

แต่ในช่วงหนึ่งของความฝันนั้นดูเหมือนว่าเขาจะทำกุญแจมือหล่นหายไปนี่น่า? จู่ๆกุญแจมือก็หายไปเสียอย่างนั้นแล้วเขาก็สามารถที่จะแตะต้องเนื้อตัวของคาเมะได้ทั่วทุกตารางนิ้ว...

บางทีถ้าเขาปิดตาลงเสีย แล้วพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะนอนให้หลับแล้วฝันต่อในส่วนที่เขาได้ฝันค้างเอาไว้ ....หรือ...ไม่งั้นก็ฝันมันใหม่ตั้งแต่ต้นเลยก็ดี..แต่ขอตัดส่วนจอห์นนี่ออกไปนิดก็แล้วกันนะ

เป็นที่น่าเศร้าเหลือเกิน เพราะไม่ว่าจะพยายามสักกี่ครั้งกี่หน ...ในช่วงกลางคืนที่เหลืออยู่นั้น..สิ่งที่อคานิชิ จินได้ฝันถึงก็มีแต่การที่เขาถูกยามะพีไล่เตะก้น TTUN พูดล้อเขาในเรื่องที่ยังครองตัวเป็นโสด และจิมมี่ แม๊กกี้เอารูปภาพโป๊เปลือยที่เก็บสะสมมาอวดให้ดู

ตรงกันข้ามกับจิน....เคย์ตะต้องใช้เวลาอีกหนึ่งค่ำคืนที่แสนจะอายไปกับการที่ต้องมานอนฟังจินทำแบบนั้นอยู่เพียงคนเดียว เขาก็ได้แต่หวังว่าคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้านายของเขาจะไปหาคาเมนาชิบ้างในบางครั้งบางครา..เพื่อจะได้หยุดฝันในเรื่องแบบนั้นเสียที

♫♫♫♫♫♫♫♫

ยามเช้าแห่งรุ่งอรุณได้เข้ามาเยี่ยมเยือนในฝั่งเหนือแล้วในขณะนี้

คาเมะไม่รู้จริงๆว่าในวันอื่นๆจะมีอะไรรอคอยเขาอยู่บ้าง แค่เพียงเมื่อวานนี้เองเขากลับได้อยู่ใกล้ชิดจินมากอย่างที่ไม่เคยได้ใกล้ชิดแบบนั้นมานานหลายสัปดาห์ ร่างบางไม่รู้จะคาดหวังอะไรจากวันนี้ได้บ้าง ถ้าใครจะเข้ามาบอกเขาว่าเรื่องมันจะจบลงไปแบบไหน..เขาก็คงจะไม่เชื่ออยู่ดี ความกลัดกลุ้มกังวลของคาเมะได้พุ่งไปยังครอบครัวของเขาที่จู่ๆก็ถูกลากให้มาข้องเกี่ยวกับเรื่องยุ่งๆนี้ ..แล้วแน่นอนว่าเขาเองก็นึกกังวลในเรื่องของจินอีกด้วย

ร่างบางค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมาอย่างช้าๆ เหมือนจะค่อยเปิดรับเช้าของวันในคุกที่แสนจะยุ่งเหยิงและสับสน เขาไม่รู้ว่าจะคิดทำอะไรได้อีกต่อไปดี จินคอยปกป้องคุ้มครองเขามาโดยตลอด? ช่วงหลังๆมานี้จินดูแปลกออกไปมาก ทุกสิ่งที่จินได้เคยบอกออกมา...ไม่ว่าร่างบางจะพยายามคิดหาเหตุผลจากทุกมุมมองในทุกคำพูดนั้นเพียงไร สิ่งที่ได้ยินก็ฟังดูไม่เข้าท่าอยู่ดี

เทพนิยายอะไรกันล่ะ? อะไรคือความจริง? นี่เขาหลอกตัวเองอยู่หรอกเหรอ? จินคิดไปจริงๆหรือว่าคาเมะวาดฝันไปเองว่าพวกเขากำลังออกเดทกันอยู่? คิดฝันไปว่าพวกเขาอยู่ในระดับขั้นเดียวกัน? คิดไปเองว่าจินก็รักเขา? เขาไม่กล้าที่จะนึกฝันถึงเรื่องเหล่านี้แน่ ...อย่างน้อยก็ต้องได้ยินมันออกมาจากปากของจินเสียก่อน

คาเมะถอนหายใจมาเฮือกหนึ่ง ก่อนจะม้วนตัวไปอีกด้านของเตียง เรียวนิ้วคอยหมุนวงแหวนที่สวมติดอยู่บนนิ้วก้อยเล่นอยู่ไปมา ถึงแม้ประสบการณ์ที่ได้เจอในทางลับจะดูน่ากลัวมาก แต่อย่างน้อยเขาก็มีความสุขที่พอจะมีข้ออ้างพบกับจิน อีกอย่างเขาก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเขาเองจะได้ไปผจญเรื่องราวแบบเดียวกับที่จุนโนะและอุเอดะเคยได้ประสบแล้วเอามาเล่าสู่กันฟัง

ร่างบางนึกสงสัยต่อไปว่า....ถ้าเขาวิ่งไปเจอจินในครั้งหน้า จินจะทำตัวอย่างไรกับเขา? จะเป็นคำพูดที่เชือดเฉือนหัวใจ พร้อมสายตาที่เย็นชาเหมือนเช่นเคย หรือจินจะทำแกล้งเมินเขาไปเสีย? เมื่อวานนี้จินช่างมีทีท่าอบอุ่นต่อเขามากเหลือเกิน

continue here ยังไม่จบคะ อ่านต่อตรงนี้คะ
Previous post Next post
Up