In His care 34

Dec 20, 2008 09:00



Title: In his Care
Author:blue_orbs
Translated and wrote in Thai by daniellove& windzephyr
Pairing: Akame
Rating: NC-17
Disclaimer:The STORY belongs to blue_orbs darling
Summary: For this chapter N/A

Thanks รียา อารียา reeya-areeya to be my lovely
beta ,how could I survive without YOU *kisses*
Special thanks to ก้อย jk_no_koi

Chapter 34

มีเรื่องด่วนบางอย่างที่ปลุกเขาให้ต้องตื่นมาในเช้าวันนี้ ในตอนที่ผู้คุมเข้ามาที่ฝั่งตะวันตกแล้วนั้น พวกเขาได้บอกว่าเจ้านายของคาเมะต้องการให้ไปพบที่ห้องพยาบาล ความคิดแรกที่แวบเข้ามาในหัวของคนตัวเล็กก็คือจิน... จินฟื้นแล้วเหรอ?

แม้จะรีบร้อนออกไปจากห้องขัง แต่เพียงชั่วครู่หนึ่งนั้นร่างบางก็อดจะนึกกลัวขึ้นมาไม่ได้ เมื่อได้เดินเข้ามาถึงห้องพยาบาลแล้วนั้น คาเมะรู้สึกโล่งใจที่เห็นเพื่อนร่วมแก๊งของจินทั้งสี่คน และคุณหมอสองคนได้พากันยืนรวมตัวกันอยู่รอบเตียงพร้อมกับอคานิชิ จินที่นั่งอยู่บนเตียง เมื่อคาเมะได้เดินเข้าไปข้างในห้องสีขาวขนาดกว้างนั้น สายตาทุกคู่ก็จ้องมองมาทันที คนตัวเล็กเกือบจะผุดยิ้มออกมาที่ริมฝีปากต่อเมื่อได้ยินเสียงโคคิพูดขึ้นว่า

“นี่คือคาเมะจัง นายจำเขาได้ไหม?”

คาเมะยืนนิ่งอยู่ระหว่างทาง อีกทั้งรู้สึกแปลกใจเมื่อได้ยินคำถามนี้ โคคิมองกลับไปที่จิน ก่อนที่หนุ่มนักแร๊บจะเหยียดมือไม้ออกมายังทิศทางที่ร่างบางยืนอยู่

ดวงตาของจินประสานกับดวงตาของเขา แต่คาเมะรู้สึกมีบางอย่างผิดแปลกออกไปจากทุกที ดวงตาสีดำคมกริบมองสำรวจมาที่เขาด้วยแววตาว่างเปล่า ออร่าที่ห่อหุ้มรายรอบตัวของจินก็คล้ายจะแตกต่างออกไป

เมื่อจินส่ายหัวปฏิเสธ คาเมะก็คิดว่าเขาได้ตายไปจากโลกนี้เสียแล้ว “ไม่นี่ ชั้นไม่เคยพบเขามาก่อน”

“มันไม่ถูกนะนี่...” โคคิบ่นพึมพำ พลางลดแขนลงวางข้างลำตัวเช่นเดิม

“กะ เกิดอะไรขึ้น?” ร่างบางถามด้วยเสียงตะกุกตะกัก นี่มันเป็นเรื่องล้อเล่นหรือยังไง? ถ้าเป็นยังงั้นแล้วล่ะก็.. ไอ้เรื่องล้อเล่นแบบนี้มันไม่เห็นจะสนุกตรงไหนเลยนะ?

“จินสูญเสียความทรงจำ สงสัยว่าตอนที่ตกลงมาหัวของจินคงจะไปกระแทกกับพื้นเข้า เพราะตอนที่ตื่นมาในเช้าวันนี้จินก็จำอะไรไม่ได้เลย แม้แต่ชื่อของตัวเองก็ยังจำไม่ได้” อุเอดะพูดอธิบาย พลางใช้มือลูบไล้เส้นผมสีทองของคนตัวเล็กอยู่อย่างสิ้นหวัง

“เราก็ได้แต่หวังว่า...อย่างน้อยจินก็อาจจะจำนายได้บ้าง” จุนโนะพูดขึ้นมา

“คาเมะจัง วันนี้นายช่วยดูแลจินหน่อยได้ไหม ดูว่าจินจะเริ่มจำอะไรได้บ้างไหม?” ยูอิจิเอ่ยปากขอร้อง “พวกเราลองมาทุกอย่างแล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็นยามะพี พวกนิวส์ หรือว่าพวกรุ่นพี่ ก็ดูเหมือนว่าจินจะจำใครไม่ได้เลย”

“ชะ ชั้นไม่มั่นใจหรอกนะว่าชั้นจะสามารถช่วยอะไรได้” คาเมะตอบออกมาได้ในที่สุด ตัวเขาเหมือนค่อยๆจมอยู่กับสถานการณ์ในตอนนี้ไปทีละเล็กละน้อย มันช่างเหมือนกับความฝัน แต่ มันคือฝันร้ายนี่เอง

“เราก็ไม่มั่นใจว่าเราจะสามารถทำอะไรได้”

“เรายังไม่รู้ว่าอคานิชิซังจะความจำเสื่อมไปตลอดชีวิตหรือว่าความทรงจำของอคานิชิซังจะกลับมาไหม เวลาเท่านั้นที่จะสามารถบอกได้” คุณหมอตุ๊ตี้พูดเป็นคนต่อไป ด้านคุณหมออีกคนที่ร่างบางจำได้ว่าชื่อนากายันก็ยืนอยู่ข้างอีกฝ่าย ไม้แร็ตเก็ตเทนนิสสองอันได้ถูกแอบซ่อนอยู่ข้างๆ ตุ๊ตี้ยังคงพูดต่อไปว่า “ชั้นจะปล่อยให้อคานิชิซังกลับไปที่ห้องก่อน ชั้นก็ไม่อยากจะทำแบบนั้นหรอกนะ เพราะมันยังเร็วเกินไปที่จะปล่อยให้กลับห้อง แต่เราก็ไม่มีทางเลือกเพราะมันเป็นคำสั่งของจอห์นนี่"

“คาเมะจัง นายช่วยพาจินกลับไปที่ฝั่งตะวันตกแล้วก็ช่วยอยู่เป็นเพื่อนกับเขาทั้งวันได้ไหม?” โคคิถามเมื่อได้หันมาเผชิญหน้ากับร่างบางอีกครั้ง

“ชั้นจะพยายามทำให้ดีที่สุด” คาเมะได้ให้คำสัญญาเอาไว้...จะมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อตอนที่เขากำลังเดินกลับไปยังคุกในส่วนที่พวกเขาอยู่ พร้อมกับจินที่เดินอยู่เคียงข้างกาย

“นายก็คือคาเมะจังสินะ?” จินพูดพึมพำทำลายความเงียบที่เข้ามาปกคลุมพวกเขา

“อ่ะ ใช่ คาเมนาชิ คาซึยะ” คนตัวเล็กพูดแนะนำตัวเอง..รู้สึกเหมือนว่าการทำเช่นนี้กับคนที่เคยอยู่ด้วยกันมามากกว่าหนึ่งปีนั้นทำให้เขาดูงี่เง่ายิ่งนัก

“คาเมนาชิ” จินทวนคำ “ชั้นก็เป็นนักโทษด้วยใช่ไหม?”

“ใช่ ในคุกของจอห์นนี่น่ะ” คาเมะตอบ ร่างบางไม่แน่ใจว่าจะคุยโต้ตอบกับจินที่อยู่ในสภาพนี้ได้อย่างไร “นะ นายรู้สึกดีขึ้นบ้างไหม? ตอนนี้นายยังเจ็บอยู่เลย แล้วระยะทางที่ต้องเดินก็ยังอีกไกล..”

“ชั้นสบายดี” จินพูดพลางสอดสองแขนเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ดูเหมือนว่าจินจะยังสามารถเดินได้อย่างดีทีเดียว

เมื่อพวกเขาได้เดินเข้าไปในคุกส่วนที่นักโทษอยู่นั้น สายตาของนักโทษหลายคนต่างก็มองมาที่พวกเขา ทั้งโรงอาหารก็พลันตกอยู่ในความเงียบสนิท เหล่านักโทษมองมาที่พวกเขาด้วยทีท่าแปลกๆ แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความเคารพในตัวของอคานิชิ จินอยู่เช่นเดิม แม้พวกเขาจะเดินผ่านห้องโถงขึ้นไปยังบันไดกว้างมาแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าเข้าพูดคุยทักทายเลยสักคน

“นะ นี่คือฝั่งตะวันตก” คาเมะพูดอธิบายให้ฟังเมื่อพวกเขาเดินขึ้นไปจนถึงห้องโถงที่อยู่บนชั้นสอง ก่อนจะเดินเลี้ยวเข้าไปยังทางเดินของฝั่ง มันทำให้คาเมะนึกห่วงยิ่งนักเพราะเมื่อขึ้นบันไดขึ้นมาแล้วจินกลับจำไม่ได้ว่าจะไปทางไหนต่อ ร่างบางได้แต่หวังว่าอย่างน้อยในส่วนหนึ่งลึกๆนั้นจินอาจจะพอจำอะไรได้บ้าง อย่างเช่นเมื่อเดินผ่านบันไดมาแล้วจินก็อาจจะเดินเลี้ยวเข้าไปในฝั่งได้อย่างอัตโนมัติ เพราะไหนๆอีกฝ่ายก็อยู่ที่คุกนี้มาได้เกือบห้าปี

“ห้องของนายคือห้องที่อยู่สุดทางเดินของฝั่งเลยล่ะ” ร่างบางพูดต่อ จินเองก็ยังคงเอามือสอดเขาไปในกระเป๋ากางเกงพลางเดินตามคนตัวเล็กอยู่เช่นเดิม

“นายชื่ออะไรนะ?”

แม้จะรู้ดีว่าเขาไม่ควรจะเก็บเอาเรื่องนี้ไปคิดมาก แต่สิ่งที่ได้ยินก็อดที่จะทำให้รู้สึกเศร้าขึ้นมาไม่ได้...เมื่อรู้ว่าจินจำเขาไม่ได้เลยสักนิด “คาเมะ คาเมนาชิ คาซึยะ”

“คาเมนาชิ ว่าแต่ทำไมพวกเราใส่เสื้อผ้าแปลกๆกันล่ะ?”” ร่างสูงถามขึ้น คาเมะก็อดจะคิดต่อไม่ได้ว่าการที่อีกฝ่ายเรียกเขาแบบนั้นมันดูไม่เข้ากันเลยสักนิด ..ไม่เหมือนกับที่เคยเรียกเขาว่าคาเมะ หรือ คาซึจัง

“ก็ เอ่อ นักโทษหลายคนในนี้ชอบเอาชุดนักโทษไปดัดแปลง หรือบางคนก็แทบจะเอาเสื้อผ้าของตัวเองมาใส่คละกันไปกับชุดนักโทษด้วยเลย” ร่างบางเอ่ยขึ้น ทำท่าทางชี้ไปยังเสื้อผ้าของจินที่มักจะมีเสื้ออีกตัวห้อยลงมาจากสะโพกอยู่เสมอ เมื่อตอนที่ยังอยู่ในห้องพยาบาลนั้น จินเองก็ดูจะผงะนิดๆเมื่อเห็นคาเมะและพวกเพื่อนๆต่างก็พากันเอาเสื้ออีกตัวมาผูกที่เอวของจินเหมือนกับว่าพวกเขาจะเคยชินที่เห็นจินแบบนั้น

“แล้วพวกผู้คุมก็อนุญาตเหรอ?” หัวหน้าแก๊งถามด้วยความแปลกใจเล็กน้อย

“พวกเขาพูดหรือบอกอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้มากหรอก...หรือแทบจะพูดบอกอะไรไม่ได้เลยสักนิด” คาเมะตอบ

“ไม่เหรอ?” จินถาม “งั้นใครที่สามารถสั่งได้ล่ะ?”

“นะ นายไงล่ะ” คาเมะตอบ จินเองก็มองตอบอย่างไม่เชื่อในครั้งแรก “นายเป็นคนคุมคุกที่นี่”

“ฮ้า?”

“นายและแก๊งของนาย AT-TUN เป็นคนคุมคุกนี้อย่างไม่เป็นทางการนั่นเอง” ร่างบางพยายามอธิบาย

“แก๊งของชั้น..นี่ชั้นเป็นหัวหน้าเหรอ? นายหมายความว่าพวกคนที่เราเพิ่งจะเจอมา อุเอดะ ทางูจิ นากาอะไรสักอย่าง แล้วก็...” จินพูดพลางชี้ข้ามไหล่กว้างของเจ้าตัวออกไป

“นากามารุกับทานากะ” คาเมะพูดเติมให้ ร่างบางรู้สึกท้อแท้ยิ่งนักที่จินกลับหลงลืมผู้คนที่รู้จักมาตลอดทั้งชีวิต คาเมะเดินมาหยุดอยู่นอกห้องขังของพวกเขา “เรามาถึงแล้ว..ดูคุ้นๆบ้างไหม?”

จินผงกหัวมองไปยังลูกกรงและผ้าสักหลาดผืนใหญ่ที่ใช้ปิดบางส่วนของห้องขังเอาไว้ ก่อนที่จะแอบมองเข้าไปด้านใน “ไม่เลย”

“งั้นก็ ไม่เป็นไร เดี๋ยวนายก็จำได้เอง” คาเมะพยายามทำน้ำเสียงให้ร่าเริงเข้าไว้...ให้ร่าเริงมากกว่าที่รู้สึกจริงๆในเวลานี้ ร่างบางจำต้องมองในด้านบวกเข้าไว้ เพราะถ้ามัวแต่ปล่อยให้ตัวเองท้อแท้และสิ้นหวัง ทำเช่นนั้นแล้วมันก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นมาแน่ ทำเช่นนั้นก็จะไม่เป็นการช่วยอะไรจินได้เลย อีกอย่างบางทีนี่อาจจะเป็นการที่เขาจะได้เห็นจินตัวตนของจินจริงๆก็เป็นได้..แม้อาจจะเป็นการมองเห็นในทางที่แปลกออกไปหน่อยก็เถอะ เขาอาจจะสามารถรู้ว่าตัวตนของจินนั้นเป็นอย่างไร จินเองก็สามารถค้นพบตัวตนของเขาได้ด้วยเช่นกัน

“เข้าไปข้างในกันเถอะ เผื่อนายจะได้นั่งและพักบ้าง” คาเมะพูดแนะ ก่อนที่จะเดินเข้าไปยังห้องขัง จินก็เดินตามเข้ามาอย่างงุนงง

ร่างสูงเดินไปรอบๆพลางใช้สายตามองไปทั่วทุกแห่งในห้องขัง ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินไปหยุดยังเตียงที่คาเมะลงนั่ง

“แล้วนายเป็นอะไรกับชั้นล่ะ?” จินถามพลางเอนตัวพิงบันไดที่ไต่ขึ้นยังเตียงบน “นายไม่ใช่เพื่อนร่วมแก๊งของชั้นใช่ไหม?”

“ไม่ใช่ ชั้น...” ร่างบางตอบ น้ำเสียงเริ่มจะจางหายไป นั่นคือคำถามที่ตัวเขาเองก็หวังจะได้รู้คำตอบมาอยู่ตลอด เขาได้กลับมาอยู่ที่ห้องของจินอีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าเขากลับมาเป็นเด็กของจินอีกครั้งหรอกเหรอ? “ชั้นเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ชั้นเป็น....เด็กของเล่นของนาย”

“เด็กของเล่นของชั้น?” อีกฝ่ายทวนคำ “มันหมายความว่ายังไงล่ะนี่?”

คาเมะนึกหวังจริงๆว่าเขาจะสามารถข่มสีแดงระเรื่อที่เริ่มจะก่อตัวไม่ให้แพร่กระจายไปทั่วแก้มบางได้ “หมายถึง...ว่าชั้น..นาย..เรา..ชั้นเป็นคนที่นาย..นอนด้วยทุกคืน”

จินจ้องมองร่างบางเขม็งเมื่อได้ยินคำพูดนั้น “งั้นนายก็หมายความว่านายกับชั้นนอนแบบเอาเนื้อแนบเนื้อด้วยกันทุกคืนงั้นเหรอ?”

“ชะ ใช่ ก็แทบจะทุกคืน...” ร่างบางตอบ ตัดสินใจที่จะไม่พูดเสริมออกไปว่า ‘ในบางครั้งก็ในตอนกลางวันด้วยและก็ไม่ได้ทำอะไรๆกันแต่ในห้องทุกครั้งหรอก’

“แล้วนายก็ยอม?” จินยังถามต่อ

“เอ่อ ใช่”

“นายเป็นเกย์เหรอ?” จินถามพร้อมรอยยิ้มนิดๆ ก่อนที่จะจะหยุดยิ้มเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง “ดะ เดี๋ยว งั้นชั้นก็เป็นด้วยงั้นสิ?”

“ชั้น ..มันก็แค่ในนี้ ..ในคุกน่ะไม่มีผู้หญิงอยู่ พวกผู้ชายก็เลยนอนด้วยกันเพื่อเป็นการสนองความต้องการของตัวเอง..” คนตัวเล็กพูดพล่าม อีกฝ่ายก็เหมือนจะเข้าใจที่เขาพูดจึงได้ตอบรับอย่างง่ายๆว่า “งั้นเหรอ”

“งั้นนายก็เด็กของเล่นสินะ..” จินพึมพำ ไอ้เจ้าความวุ่นวายแบบไหนกันนะที่เข้าไปอยู่ในหัวของอีกฝ่ายในตอนนี้ หลังจากที่ได้ฟื้นขึ้นมาจากอาการโคม่าแล้วต้องมาเรียนรู้เรื่องราวชีวิตของตัวเองที่เจ้าตัวจำไม่ได้เลยสักนิด จินส่งสายตามองกลับไปที่คาเมะอีกครั้ง “ตำแหน่งของนายไม่ค่อยฟังดูดีเลยนะ...ถ้านายเป็นเด็กของเล่นของชั้นแล้วล่ะก็ ถ้งงั้นชั้นเองก็...”

“ใช่แล้วล่ะ นายเป็นเจ้านายของชั้น” ร่างบางตอบ

ร่างสูงส่งสายตาเหมือนจะตะโกนบอกออกมาว่า ทำไมคนที่เป็นผู้ชายเหมือนๆกันถึงยอมทำอะไรแบบนี้กันล่ะ? คาเมะอดที่จะคิดต่อไปไม่ได้ว่าจินจะเริ่มคิดว่าเขาเป็นพวกพิกลพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้หรือเปล่า .... ครั้งแรกที่อีกฝ่ายได้รู้จักกับเขานั้น หัวหน้าแก๊งเองไม่ใช่เหรอที่เป็นคนเข้ามาเล่นๆกับเขา จนเขาต้องยอมรับตำแหน่งเป็นทาสระบายความสุขให้อีกฝ่าย พอมาในครั้งที่สองที่ได้รู้จักกัน..อีกฝ่ายกลับคิดว่าเขาเป็นพวกรักร่วมเพศและโง่เง่า แถมเป็นยังคนที่ไม่มีศักดิ์ศรีในตัวเองเลยสักนิด

“ชั้นบังคับนายให้เป็นหรือเปล่า?” นั่นคือคำถามที่ทำให้ร่างบางหวาดกลัวยิ่งนัก เขาไม่คิดเลยสักนิดว่าจินจะถามแบบนี้ออกมาได้

“เอ่อ นะ นายไม่เคยบังคับขืนใจใคร” คาเมะตอบ “นายคิดว่าการข่มขืนนั้นเป็นการกระทำที่ต่ำมาก ..แล้วนายเองมีความสุขกับการที่จะทำให้คนที่นายมีอะไรด้วยกรีดร้องด้วยความสุขมากกว่ามี่จะกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด”

“นั่นไม่ใช่ที่ชั้นถามนะ” จินชี้แจง อย่างน้อยก็ทำให้รู้สึกโล่งใจอยู่บ้างที่รู้ว่าจินยังคงความเฉลียวฉลาดอยู่เหมือนเคย

“ก็ไม่หรอก นายให้ชั้นเลือกเอง” สุดท้ายคาเมะก็ตอบออกมา จินก็เหมือนจะยอมรับในคำตอบนี้

“งั้นก็ นี่ก็ดึกมากแล้ว” จินพูดออกความเห็น

ร่างบางมองฝ่าออกไปยังทางด้านนอก ในเวลานี้ภายนอกห้องขังก็ดูจะมืดลงไปมากแล้ว แล้วจู่ๆแสงไฟที่ส่องแสงสว่างก็ดับแสงลง ก่อนที่จะตามด้วยเสียงปิดประตูห้องขังตามมา จินแทบจะกระโดดเมื่อเห็นแสงไฟในห้องได้ดับลงแล้วตามด้วยเสียงดัง ร่างบางรีบร้อนพูดอะไรบางอย่างว่า “ใช่แล้ว ประตูห้องขังจะปิดอัตโนมัติเป็นเวลาแล้วก็จะเปิดอีกทีตอนเช้าเลยล่ะ แสงไฟก็ดับเองโดยอัตโนมัติด้วย”

“จริงเหรอ?”

คาเมะพยักหน้ารับ ก่อนที่ร่างบางจะทำให้จินต้องผงะด้วยความคาดไม่ถึง เมื่ออีกฝ่ายได้กระซิบกระซาบถ้อยคำบางอย่างออกมาว่า “อย่าห่วงเลยนะ เดี๋ยวนายก็จะชินไปเอง นายก็แค่เรียนรู้กฎของเกมเป็นพอ”

ร่างสูงเหมือนจะถือเอาคำพูดที่ได้ยินเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างหนึ่ง “แล้วมันคืออะไรล่ะ?”

คาเมะถอยออกมาด้วยความเขินอายเล็กน้อย เขาก็ไม่รู้ว่าอะไรมันมาเข้าสิงให้เขาพูดอะไรแบบนั้นออกไปได้ มันเหมือนกับว่า...การที่ได้พูดแบบนี้มันดูจะเข้ากับสถานการณ์ดี เพราะเหมือนกับว่าตัวเขาเองก็เคยได้ผ่านสถานการณ์เช่นนี้มาก่อนด้วย

“ถ้างั้น คาเมนาชิจัง” จินเริ่มเรื่อง ก่อนจะลงนั่งข้างตัวคาเมะ “ไฟก็ดับแล้ว ตอนนี้นายอยากจะทำให้ชั้นจำอะไรได้บ้างไหม”

“นะ นายคงจะเหนื่อย” ร่างบางรีบพูดขัดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขาแทบจะจำบรรยากาศที่น่ากระอักกระอ่วนใจแบบนี้ได้ไม่ได้เลยสักนิด

คนตัวเล็กไม่แน่ใจว่าเขาอยากจะนอนกับจินในคืนนี้ไหม แล้วเขาเองก็มีเหตุผลหลายข้อว่าทำไมถึงไม่อยากนอนกับจิน อย่างแรกเลยนั้นก็คือ จินยังคงเจ็บ อย่างที่สองก็คือจินไม่ใช่จินที่เขารู้จัก อีกฝ่ายจำเขาไม่ได้เลยสักนิด อย่างที่สามด้วยเหตุผลแปลกๆบางอย่างมันทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่า ถ้าเขานอนกับจินในตอนนี้ก็เหมือนว่าเขาได้นอกใจจินด้วยการไปนอนกับคนอื่น ใครอีกคนที่จำจินอย่างที่เขาจำไม่ได้เลยสักนิด แต่เขาจะสามารถพูดปฏิเสธออกมาได้เหรอ? บางทีจินอาจจะไม่กลับไปเป็นเหมือนจินคนเดิมอีกแล้ว? หรือบางที...ถึงจินจะจำทุกอย่างได้เหมือนเดิม อีกฝ่ายก็อาจจะเปลี่ยนไปได้นี่น่า มันไม่มีข้อยืนยันอื่นใดเลยที่จะมารับประกันว่าความสัมพันธ์ที่พวกเขาเคยมีร่วมกันจะกลับคืนมาอีกครั้ง ว่าแต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาเคยเป็นแบบไหนกันล่ะ ร่างบางไม่อาจจะบรรยายมันออกมาได้เลย จะรู้ก็เพียงแค่ว่าช่วงหลังๆมานี้ความสัมพันธ์ของพวกเขามันทำให้รู้สึกดีเหลือเกิน

คาเมะรีบตื่นจากภวังค์ความคิด ในตอนนี้เขาจำต้องพุ่งความสนใจกับสถานการณ์ตรงหน้านี้เสียก่อน

“นายอาจจะอยากพักเพื่อที่นายเองจะได้ฟื้นตัวได้เร็ว..” ร่างบางเริ่มเรื่อง แต่ก็ถูกขัดขึ้นด้วยการที่อีกฝ่ายดึงเขาเข้าไปใกล้ด้วยมือเพียงข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างของจินก็โอบขาเขาเอาไว้แน่น จินซุกหน้าลงบนผมนิ่มของร่างบาง ก่อนจะสูดดมกลิ่นกายของอีกฝ่ายไล้ไปตามลำคอระหง

“นายสวยมาก ชั้นให้เครดิตนายในเรื่องนี้ได้เลยล่ะ” ร่างสูงพึมพำ “หรือจะเป็นชั้นเองที่ควรจะได้เครดิตเพราะชั้นเป็นคนที่เลือกนายมา? คงจะมีเด็กหนุ่มตั้งมากมายหลายคนให้เลือกแต่ชั้นก็กลับเลือกนาย หรือว่าชั้นลองนอนกับทุกคนที่ชั้นสนใจ แล้วสุดท้ายชั้นก็ปักหลักอยู่ที่นายน่ะฮึ?” จินยังถามต่อ คาเมะก็รู้สึกหน้าตาร้อนผะแผ่วมากยิ่งกว่าเดิม “ถ้าชั้นอยู่กับนายมานานหลายปี งั้นรสนิยมในการเลือกของชั้นก็ดีมากน่ะสิ..หรือว่านายมาเป็นเด็กของเล่นของชั้นเพราะว่าบังเอิญได้มาเป็นเพื่อนร่วมห้องของชั้นเท่านั้น”

“จะ จริงๆแล้ว...” คาเมะพูดขึ้น “นะ นายมีเด็กของเล่นหลายคนมาก่อน พวกเขาทุกคนต่างก็เป็นเพื่อนร่วมห้องของนายจนถึงวันที่นายเริ่มเบื่อในตัวพวกเขาแล้วก็เลยเลือกคนใหม่เข้ามา”

“ชั้นเคยมีเด็กมากี่คนกันล่ะ?” ร่างสูงถามพลางมองสำรวจยังดวงหน้าหวานหยด

“ชั้นไม่รู้” คาเมะตอบ

“แล้วชั้นเปลี่ยนเด็กบ่อยขนาดไหน?”

“ก็ทุกเดือน..” ร่างบางสารภาพออกมา เขาเห็นได้ทันทีว่าจินเองก็เริ่มจะนั่งบวกลบคูณหารอยู่ในใจ เด็กของเล่นคนหนึ่งในหนึ่งเดือนคูณด้วยห้าปี แล้วในหนึ่งปีก็มีสิบสองเดือน...

“แล้วนายเป็นเด็กของชั้นมานานเท่าไหร่แล้ว?” จินถามออกมา เหมือนกับว่าอีกฝ่ายจะเริ่มคิดข้อสรุปอยู่ในหัว ร่างบางลังเลที่จะตอบ...ทำให้จินยิ่งนึกสงสัยมากกว่าเดิม

“ชั้นมานี่ก็เกือบสองปีแล้ว นายโยนชั้นออกไปสองเดือนแล้วก็รับชั้นกลับมาก่อนที่จะ..” คาเมะเอ่ยขึ้น แล้วก็รีบปิดตาขึ้นมาทันที นึกหวังที่จะปิดกั้นภาพความทรงจำที่เริ่มฉายวาบเข้ามาในใจ “ก่อนที่นายจะสูญเสียความทรงจำไป”

“ทำไมนายถึงอยู่กับชั้นนานนักล่ะ?” จินถามเน้น เมื่อความคิดนี้เข้ามากระหน่ำอยู่ในใจ ร่างสูงก็ใช้สองแขนโอบอยู่รอบเอวบาง “นายเก่งมากเลยเหรอ?”

ร่างบางหน้าแดงก่ำ “ชั้น ชั้นไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม นายไม่เคยบอกชั้น ชั้นเคยถามไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่นายบอกว่ามันไม่เกี่ยวอะไรกับชั้น ..และชั้นคิดว่าชั้นเองก็ไม่ได้ดีหรือเก่งกว่าเด็กคนอื่นที่นายเคยมีเลยสักนิด”

จินเหลือบมองคนตัวเล็กด้วยทีท่าสำราญใจอยู่นิดๆ “แต่มันก็ต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่างสิ” อีกฝ่ายพูดออกความเห็น ก่อนจะเอนตัวเพื่อสูดกลิ่นหอมกรุ่นพลางถอนหายใจออกมาด้วยทีท่าพึงพอใจ “อย่างน้อยนายก็ตัวหอมมากเลยนะ ซึ่งมันก็ดูไม่ธรรมดาถ้าเทียบกับว่าต้องอยู่ในสถานที่แบบนี้เลย...”

สองมือหนาได้เคลื่อนไหวโลมลูบอยู่ช่วงบนของร่างบาง ตอนแรกนั้นคาเมะรู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้ถูกใครคนอื่นเข้ามาแตะต้องเนื้อตัว แต่ในไม่ช้าก็ดูเหมือนว่าจินจะเริ่มเคลื่อนไหวได้ถูกจุด คาเมะเกือบจะคิดไปแล้วว่าจินคนที่เขาเคยได้รู้จักนั้นกลับมาแล้ว ร่างกายของเขาเองก็คล้ายจะพร้อมเปิดรับจินคนใหม่ด้วยวงแขนที่เปิดกว้าง ร่างบางรู้สึกโล่งใจอยู่บ้างที่อย่างน้อยร่างกายของจินก็จดจำอะไรบางอย่างได้แม้ใจของจินจะจำอะไรไม่ได้เลยสักนิดก็ตาม

“จะ จิน...” คนตัวเล็กเปล่งเสียงคราง เมื่อร่างสูงเหมือนได้ค้นพบจุดที่ไวต่อสัมผัสในร่างกายของเขาอีกครั้ง

“นายจำสัมผัสของชั้นได้” จินพึมพำอยู่ข้างใบหู “มันก็ตลกดีนะ เพราะตอนแรกที่ชั้นฟื้นมาเจอนายนั้น ชั้นแทบจะสาบานได้เลยว่าคงไม่มีใครหน้าไหนเคยได้แตะต้องเนื้อตัวนายมาก่อนเลยในชีวิตนี้ แต่จริงๆแล้วนายเองนั่นแหล่ะที่นอนกับชั้นทุกคืนอยู่ตั้ง...ปีครึ่งใช่ไหม?”

ร่างบางพยักหน้ารับเมื่อเรียวปากอิ่มของอีกฝ่ายได้เลื่อนจากใบหูมายังดวงหน้า จินหยุดอย่างทันทีทันใดอยู่ตรงริมฝีปากบาง

“ชั้นจูบนาย” จินเริ่มเรื่อง ก่อนจะถอยห่างออกมานิดๆ “ชั้นอาจจะจำนายไม่ได้ แต่ร่างกายของชั้นจำนายได้แน่ๆ”

ในช่วงนาทีนั้นเองที่คาเมะเริ่มคิดไปว่าความรู้แบบใหม่ที่จินได้ค้นพบนี้อาจจะทำให้จินนึกหมดอารมณ์เป็นแน่ แต่มือหนาทั้งสองข้างก็กลับลูบไล้ลงต่ำลงมาเรื่อยๆ เหมือนจะเริ่มทำการทดลองสำรวจตรวจตราไปเรื่อยนั่นเอง ก่อนที่จินจะผละตัวห่างมากพอที่จะสามารถเปลื้องเสื้อตัวบางให้หลุดจากร่าง ดวงตาคมกริบได้โลมเลียไปยังส่วนเว้าส่วนโค้งของเรือนร่างนี้แทน

“งั้น..ชั้นทำอะไรกับนายบ้างนะ?”ร่างสูงถามออกมา ก่อนจะเข้าหยิบยื่นความใกล้ชิดสนิทแนบเนื้อที่พวกเขามีร่วมกันมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ กลีบปากอิ่มได้ก้มลงประกบยังผิวเนื้อของกลีบปากบางอย่างนุ่มนวล “ชั้นบุ่มบ่ามกับนายไหม? ชั้นสนในความต้องการของนายบ้างไหม คาเมะจัง?”

คนตัวเล็กก็ไม่มั่นใจแล้วว่าสิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นความก้าวหน้าในเรื่องความทรงจำของจินหรือไม่ เพราะจินแทบจะไม่เรียกเขาว่าคาเมะจัง อีกฝ่ายชอบเรียกเขาว่าคาซึจังมากกว่า เพราะหลายๆคนชอบเรียกเขาว่าคาเมะจัง คาเมะเดาเอาว่าจินเองก็คงไม่อยากจะเรียกเขาเหมือนใครๆนั่นเอง

จู่ๆร่างบางก็ถูกผลักให้เอนตัวนอนแผ่ลงบนเตียง จินรู้สึกจะเรียนรู้และก้าวหน้าไปได้เร็วมาก เร็วมากกว่าปกติเสียอีก

“นายไม่คุ้นกับแบบนี้ใช่ไหม?” อีกฝ่ายกระซิบกระซาบถาม พลางใช้สายตามองกวาดไปยังดวงหน้าของอีกฝ่ายอยู่อย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะยื้อยุดฉุดร่างบางให้ลุกขึ้นนั่ง สองแขนก็ยังคงรัดอยู่รอบร่างเล็กให้เข้ามาสู่อ้อมกอดอันอบอุ่น “ชั้นตามใจนาย นั่นคือสิ่งที่นายคุ้นเคยต่างหาก”

ร่างบางสาบานได้เลยว่าตอนนี้หัวใจของเขาคงจะเริ่มเต้นดังระรัวอยู่เป็นแน่

“ชั้นทำกับนายเหมือนว่านายเป็นคนรักของชั้น” จินพูดต่อ “อย่างคนรัก ไม่ใช่อย่างเด็กของเล่น ...เรารักกันเหรอ?”

คาเมะเกิดอาการพูดไม่ออกขึ้นมาทันที “ชั้น เอ่อ..ชั้นไม่รู้” ร่างบางพูดตะกุกตะกัก “ชั้นเดาว่า..เราก็คงเข้ากันได้ดี..ชั้น เอ่อ ชั้นบอกนายแล้วไงว่าชั้นไม่รู้ว่าทำไมตลอดเวลาที่ชั้นอยู่ในคุกนี้...นายถึงได้ให้ชั้นอยู่กับนายนานอย่างนี้...”

continue here ยังไม่จบคะ อ่านต่อตรงนี้คะ

Previous post Next post
Up