“งั้น...ใครล่ะ ใครเป็นเจ้าของ” สมาชิกเกือบครึ่งต่างก็พากันร้องถามพลางกลั้นหายใจรอคำตอบ
“ชั้นไม่รู้” ยามะพีตอบ ทำให้คนจากทั้งสามแก๊งหน้าคว่ำฟุบลงกับโต๊ะหรือแทบจะฟุบเกยกันและกัน “ไอ้สิ่งนี้ถูกส่งจากนักโทษคนหนึ่งสู่อีกคน มันจะต้องมีนักเขียนคนใหม่มารับช่วงต่อ แล้วก่อนที่จะออกจากคุกไป ก็เป็นหน้าที่ของนักเขียนคนๆนั้นที่จะต้องหาคนมารับช่วงต่อ แล้วมันก็สืบต่อกันไปแบบนี้”
“จริงหรือ งั้นก็มีหนังสือนี้อยู่จริงๆน่ะสิ” ยัสซังพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ชั้นอยากอ่านจังเลย!”
คันจานิที่เหลือต่างก็พากันกรอกตาไปมา เพราะต่างก็รู้ดีล่ะว่าเจ้าหญิงสตอเบอร์รี่ของพวกเขาจะต้องหาหน้านั้นแน่ๆ หน้าที่จะเขียนบอกว่า ใครคือคนที่ทำลายสถิติในการกระดกและส่ายสะโพกได้ดีที่สุด....
“ดูเหมือนจะไม่มีใครเห็นแก๊งเด็กจอห์นนี่น่านับถือมากพอที่จะส่งต่อหนังสือให้.....” โคคิบ่นงึมงำ สองแขนยกขึ้นกอดอก ยูอิจิก็รีบปลอบอกปลอบใจแฟนหนุ่มทันที
“นั่นอาจเป็นเพราะว่าพวกเราเป็นนักทำลายสถิติก็ได้นะ” เพื่อนร่วมห้องเอ่ยขึ้น ไม่เพียงแต่ทำให้โคคิรู้สึกดีขึ้น คนอื่นๆที่เหลือก็รู้สึกดีขึ้นเช่นกัน
“ถ้าเห็นอคานิชิกับคาเมะจังในหนังสือนั้นมันก็น่าสนดีนะ” เรียวพูดแหย่พลางส่งยิ้มเจ้าเลห์ข้ามโต๊ะให้สองหนุ่ม จินจ้องกลับไป ขณะที่คาเมะเลี่ยงที่จะช้อนตาขึ้นมอง
“ใช่เลย อคานิชิมีความสุขขึ้นมากเลยสิน้า เพราะไหนๆก็ได้เด็กของเล่นแสนสวยคืนมาแล้ว อย่าเข้าใจผิดนะ ชั้นว่าเคย์ตะจังก็สวยดีหรอก แต่คาเมะจังนี่สิสวยสุดๆในแบบฉบับของตัวเอง แล้วจากการที่นายรับตัวเขากลับเข้าไปในห้องของนายอีกครั้ง มันก็เป็นหลักฐานยืนยันได้เลยล่ะ-“ คุซาโนะยังพูดไม่จบประโยคจินก็พูดตัดบทขึ้นมาว่า
“คาเมะไม่ใช่เด็กของเล่นของชั้น”
คุซาโนะลืมประโยคที่พูดไปก่อนหน้านี้จนหมด ทำได้แต่มองหัวหน้าแก๊งของฝ่ายศัตรูด้วยความช็อค คาเมะเองก็ไม่ต่างกัน
“แล้วใครเป็นล่ะ” คุซาโนะถามเมื่อไม่มีคนอื่นพูดคำใดออกมา แม้แต่ยามะพีก็เงียบไปด้วย
“นี่นายจะเอาตัวเคย์ตะจังกลับมาเหรอ” ฮินะถาม คาเมะก็รู้สึกว่าท้องไส้ตัวเองเริ่มจะปั่นป่วนเมื่อได้ยิน..เขาก็ได้แต่หวังว่าจะไม่เผลอแสดงอาการหึงหวงออกไปมากจนเกินไป
“ไม่” จินเอ่ยตอบ คนอื่นๆก็เอาแต่นั่งมองร่างสูงอยู่เงียบๆ เฝ้ารอที่จะได้ยินคำอธิบายมากกว่านั้น
“ชั้นไม่มีเด็กของเล่นอีกแล้ว” หัวหน้าแก๊ง AT-TUN ประกาศ แล้วก็ให้รู้สึกเหมือนโดนดูถูกเล็กน้อยเมื่อคนทั้งโต๊ะเอาแต่นิ่งเงียบ จริงๆเลยเชียว มันทำให้เพื่อนๆเขาช็อคกันมากเลยหรือไง “ชั้นไม่ใช่เจ้านายของคาเมะอีกต่อไปแล้ว”
คาเมะไม่แน่ใจว่าเขาจะรับคำป่าวประกาศที่โพล่งออกมาแบบปัจจุบันทันด่วนนี้ได้อย่างไร อย่างแรกเลย เขาเป็นเด็กของเล่นของจิน แล้วยังได้ชื่อว่าเป็นเด็กของเล่นผู้ทำลายสถิติด้วยสิ จากนั้นเขาก็ถูกเตะโด่งออกไป แล้วก็ถูกรับตัวกลับมาอีก ถูกบังคับให้อยู่ แล้วจู่ๆเขาก็ไม่ใช่เด็กของเล่นอีกต่อไป คาเมะก็ได้แต่หวังว่าจินจะตัดสินใจให้แน่ไปเลยสักอย่าง
แล้วเขาต้องไปอยู่ไหนล่ะตอนนี้ ต้องไปอยู่กับกัคคุโตะอีกงั้นหรือ ครั้งนี้เขาก่อเรื่องอะไรไปล่ะ หรือจะคืนนั้นที่เขาบอกปัดไม่ยอมมีเซ็กส์กับจินมากเกินไป......แต่ว่า เมื่อคืนเขาก็ยอมให้จินไปแล้ว หรือจินจะตั้งกฏออกมาใหม่ว่าคาเมะสามารถขัดขืนได้กี่คืนถึงจะถูกลงโทษ ครั้งนี้อาราชิก็ไม่อยู่ที่จะลงโทษเขา ....แต่ว่า หลังจากที่จินรับเขากลับเป็นเด็กของเล่นอีกครั้ง คาเมะเองก็เพิ่งจะมอบตัวให้จินเป็นครั้งแรกในคืนที่สามเอง....
“คาเมะเป็น...เพื่อนร่วมห้องชั้น” เมื่อไม่มีใครพูดคำใดออกมา จินก็กล่าวปิดประโยคเสียเอง
อย่างน้อย....ครั้งนี้เขาก็ไม่ถูกเตะโด่งออกไป
ถ้าเป็นเมื่อสองปีที่แล้วคาเมะคงไม่คิดฝันว่าจะได้รับอิสระหรือเลื่อนขั้นไปยังตำแหน่งอื่น แต่ในตอนนี้เหมือนกับว่าเขาได้เลื่อนขั้นมายืนตำแหน่งเดียวกับจิน เขาไม่ใช่เด็กให้ความอบอุ่นบนเตียงอีกต่อไป เขาก็เป็นแค่.....เพื่อนร่วมห้อง ไม่มีความสัมพันธ์อื่นใดเชื่อมต่อพวกเขาทั้งสิ้น ไม่มีเหตุผลที่จะได้อยู่ข้างจินอีกต่อไป ค่ำคืนที่ได้อยู่ร่วมกันก็คงจะเป็นแบบแยกเตียงกันนอน เขาหาเหตุที่จะไปอยู่ใกล้ชิดจินไม่ได้อีกต่อไป
ร่างบางตื่นจากห้วงภวังค์เมื่อเห็นเหล่าเพื่อนหรือคนในแก๊งของจินจ้องมองมาอย่างคาดคั้น เหมือนจะรอให้เขาอธิบายเรื่องราวว่ามันเป็นมายังไง คาเมะไม่รู้จะพูดยังไง ก็เมื่อไม่นานมานี้หัวหน้าแก๊งก็เพิ่งจะรั้งให้เขาอยู่เป็นเด็กของเล่นต่อไป...แล้วจู่ๆจินก็กลับทิ้งเขาต่อหน้าต่อหน้าพวก TTUN นิวส์และคันจานิ 8 เรื่องทั้งหมดมันเป็นเรื่องตลกร้ายหรือยังไง
“ก็นายพูดเองไม่ใช่หรือว่านายจะไม่เป็นเด็กของเล่นของชั้นแล้ว” จินพูดพึมพำเมื่อเห็นคนตัวเล็กยังมีสีหน้าช็อคและงุนงง “ชั้นคิดว่านายน่าจะรู้แล้วนะว่านายไม่เคยเป็นเด็กของเล่นของชั้นอย่างเป็นทางการมาก็ตั้งแต่กลางๆเดือนมีนาคมในตอนที่ชั้นโยนนายออกไปโน่นแล้ว”
“แต่..นายรับชั้นกลับคืน” สุดท้ายร่างบางก็เอ่ยคำออกมา พูดแบบนี้แล้วคงจะเป็นทางการขึ้นมาสินะ จินเล่นมาเปลี่ยนกฏเกณฑ์ความสัมพันธ์ของพวกเขาตามใจชอบได้ยังไง
“ไม่ใช่อย่างเด็กของเล่น” จินตอบ “วันนั้นชั้นไม่ได้บอกนี่น่าว่าจะรับนายกลับเข้าห้องอย่างเด็กของเล่น นายเองต่างหากล่ะที่ด่วนสรุปไปเอง”
“ถ้างั้น...เป็นอย่างไหนล่ะ” ร่างบางถาม เกือบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ายังมีคนอื่นอยู่ด้วย “ทำไมนายถึงรับชั้นกลับมาฝั่งตะวันตกถ้านายไม่...ได้จะให้ชั้นกลับมาเป็นเด็กของเล่นอีก”
ว่าถึงเรื่องนี้แล้ว....นั่นไม่ใช่ข้อที่ตกลงกันไว้หรอกหรือว่าถ้าอยู่ฝั่งตะวันตกห้องเดียวกับอคานิชิแล้วต้องเป็นเด็กของเล่นของจิน อย่างน้อยข้อนั้นก็มีออกมาเป็นทางการอยู่แล้วว่าถ้าอยู่ห้องเดียวกับจินก็ต้องรับใช้จิน
“ชั้นรับนายกลับคืนก็เพราะนายอยากที่จะกลับ” จินตอบอย่างเรียบง่าย
“เอางี้ถ้านายไม่ใช่เด็กของเล่นจินแล้ว พอตอนที่ไอ้บ้าจินออกไปจากคุกนายก็มาเป็นเด็กของชั้นแทนแล้วกัน” ยามะพีพูดแนะ ร่างบางก็หน้าซีดเมื่อได้ยิน
“ว่ะ นายเตะชั้นออกจากห้องนายหรือว่ะ” คุซาโนะร้องโวย “ชั้นว่า..ชั้นน่าจะเป็นเจ้านายคนต่อไปของคาเมะมากกว่า ก็นายสนแต่เด็กเวอร์จิ้นนี่น่า”
“ก็ไม่เฉพาะเวอร์จิ้นหรอกน่า...แต่ว่านะคาเมะก็ดูจิ้นมากพอที่จะยังนับเป็นได้เหมือนกัน” ยามะพีแหย่พลางยื่นแขนออกไปเพื่อหวังจะไล้คางมนของร่างบาง คาเมะเองแทบจะพลัดตกเก้าอี้จากการที่พยายามเบี่ยงตัวหลบไม่ให้อีกฝ่ายแตะเนื้อต้องตัวได้สำเร็จ “เอางี้พวกเราทั้งสามก็มาอยู่ด้วยกันที่ฝั่งตะวันตกดีมั้ย คาเมะก็มานอนกับชั้นคืน อีกคืนก็ไปนอนกับนาย แล้วอีกคืนก็นอนกับเราทั้งสอง-“
“ห่าเหวนี่!” จินขัดขึ้น “วันที่พวกชั้นออกไป คาเมะจังต้องกลับเข้าไปอยู่ที่ฝั่งเหนือ”
“ห๊ะ” คุซาโนะแทบจะร้องเสียงแหลม
“เราตกลงกับกัคคุโตะไว้แล้ว” อุเอดะพูดเสริม นี่ก็เป็นอีกอย่างที่คาเมะไม่รู้มาก่อน
“ไม่ยุติธรรมเลยว่ะ...” คุซาโนะบ่นอู้อี้ยกสองแขนขึ้นกอดอก
“อะฮ้า นี่นายยอมให้คาเมะจังไปมากเท่าไหร่ว่ะเพื่อแลกกับความปลอดภัยนั่นน่ะ ก็แปลกดี ที่จู่ๆนายก็ยอมรับบอกมาซะงั้นว่าเขาไม่ใช่แค่เด็กให้ความอบอุ่นบนเตียงอีกต่อไปแล้ว ถึงจริงๆแล้วพวกชั้นจะรู้เรื่องนี้มาบ้างแล้วล่ะว่ะ ชั้นว่า...ไหนๆนายก็จะตั้งหลักปักฐานแล้ว นายเองก็คงไม่อยากได้ชั้นเป็นกองกำลังหนุนหลังอีกต่อไปสินะ” ยามะพีพูดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ คาเมะก็มองจ้องหัวหน้าแก๊งนิวส์ด้วยความงุนงง กองหนุนหรือ กองหนุนอะไรกันล่ะ นี่ยามะพีหมายความว่าตัวเองเป็นคนคอยหนุนหลังจินอยู่หรือ แต่สองแก๊งนี่เป็นศัตรูกัน แล้วชอบที่จะถล่มอีกฝ่ายมากกว่าที่จะมาเป็นกองกำลังหนุนให้กันและกันไม่ใช่หรือ
ตรงกันข้ามจินดูจะเข้าใจความหมายได้ในทันที เห็นได้ชัดว่าร่างสูงพยายามส่งข้อความสื่อให้เพื่อนรักว่า ‘หุบปากไปเลยไอ้บ้า’
“เอาล่ะ ต่อจากนี้ก็เป็นแบบนี้แหล่ะ เวลาที่เหลืออยู่นี้คาเมะก็จะเป็นเพื่อนร่วมห้องของชั้น” จินพูดจบก็ลุกขึ้นยืนก่อนที่ยามะพีจะมีโอกาสพูดต่อ
“นายแน่ใจนะว่ามาประกาศในเวลานี้แล้วมันจะดี” ซุบารุถาม จินหันมามองหัวหน้าคันจานิด้วยแววตาเฉือดเฉือน “นายเป็นคนเลือกเวลา นายสามารถที่จะให้อิสระกับคาเมะได้ตลอดเวลา แต่นายเลือกมาทำตอนนี้”
“ช้าก็ยังดีกว่าไม่ทำเลย” จินตอบ “แล้วเจอกัน” ร่างสูงเอ่ยลาข้ามไหล่ ก่อนที่จินจะเดินกลับไปที่ขั้นบันไดเพื่อกลับไปยังฝั่งตะวันตก
หลังจากที่จินจากไปแล้วทั่วทั้งโต๊ะก็กลับเงียบกริบอยู่พักหนึ่ง คาเมะรู้สึกได้ทันทีว่าสายตาทุกคู่กลับมาจ้องมองเขาอีกครั้ง
“ชั้นว่า...ชั้นต้องขอตัวนะ” ร่างบางเอ่ยพลางลุกขึ้นยืนแล้วรีบเดินขึ้นบันไดตามจินไป จินเดินไปได้ไกลถึงครึ่งทางของฝั่งทางเดินก่อนที่คาเมะจะตามทัน “จะ จิน ชั้นขอพูดด้วยหน่อย”
หัวหน้าแก๊ง AT-TUN หยุดเดิน แล้วหันมองกลับไปที่ร่างบาง แววตาที่ส่งมาให้มีแต่แววติเตียน “ชั้นสามารถเดินกลับเองได้ ชั้นดีขึ้นแล้วนายก็รู้” จินรีบตอบอย่างไม่เก็บกลั้นน้ำเสียงกล่าวหาอีกฝ่ายเลย
“ไม่ใช่นะ...ชั้นอยากจะคุยกับนายจริงๆ” คาเมะพูดพลางหยุดยืนอยู่ตรงหน้าจิน “ก็เรื่อง...เกี่ยวกับเรื่องที่นายเพิ่งพูดในโรงอาหารเมื่อกี้นี้...เป็นเพราะ...เป็นเพราะเรื่องที่ชั้นเคยบอกให้นายปล่อยชั้นไปตอนนั้นหรือ”
“นายดูตกใจนะ เห็นได้ชัดเลย” จินตอบ แต่ร่างบางไม่สามารถยิ้มออกมาได้เลย
“ทำไมนายเปลี่ยนใจล่ะ ก็วันก่อนนี้ที่ชั้นขอให้นานปล่อยชั้นไป นายก็เพิ่งจะค้านแล้วให้ชั้นอยู่เป็นเด็กของเล่นของนายต่อ” ร่างบางถาม จินไม่อยากอยู่กับเขาแล้วหรือ หรือเมื่อคืนนี้จะเป็นเซ็กส์ก่อนการจากลาอะไรเทือกนั้น ถ้าคาเมะจะเป็นได้แค่เพื่อนร่วมห้องนั่นก็หมายถึงไม่มีเซ็กส์มาเกี่ยวข้องงั้นหรือ หมายความว่าจินเหนื่อยหน่ายกับเขามากเสียจนยอมที่จะอยู่อย่างไม่มีเซ็กส์เลยก็ได้...........หรืออีกฝ่ายอาจจะไปมีเซ็กส์คืนเดียวกับนักโทษคนอื่น บางทีจินอาจจะอยากเป็นอิสระจากเขา แล้วเลือกนอนกับใครต่อใครไม่เลือกหน้าก็ได้
“ชั้นบอกแล้วว่าที่นายอยากไปจากชั้นก็เพราะความรู้สึกผิด ชั้นไม่เคยคิดที่จะให้นายกลับมาที่ห้องนี้เพื่อเป็นเด็กของเล่นอยู่แล้ว นายด่วนสรุปไปเองคนเดียว แล้วไหนๆตอนนั้นนายก็เป็นฝ่ายยื่นข้อเสนอแสนหวานมาให้ ชั้นก็เลยใช้มันเพื่อให้นายได้อยู่ต่อ” ร่างสูงอธิบาย คาเมะก็เริ่มจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้อย่างช้าๆ
จินทำตัวเหมือนเป็นเจ้านายของเขาก็เพื่อที่จะให้เขาอยู่ต่อ เพราะเหตุนี้ในตอนที่คาเมะอยากจะจบข้อตกลงที่ให้ไว้แก่กันจินถึงได้ดูตกใจอย่างมาก ย้อนกลับไปวันที่พวกรุ่นพี่แหกคุกหนีไปนั้น...จินอยากให้เขากลับมาอยู่ด้วยอย่างเพื่อนร่วมห้องจริงๆน่ะหรือ
“แต่ชั้นก็ไม่อยากให้นายนอนกับชั้นถ้านายไม่อยากนอน” จินพูดต่อ “ถ้านายไม่อยากอยู่กับชั้นก็ไม่ต้อง นายจะได้การยกย่องจากชั้น แล้วชั้นก็จะปกป้องนายเหมือนที่ชั้นปกป้องพรรคพวกของชั้นเอง”
“แต่ชั้นเป็นเด็กของเล่น!” คาเมะพูดขัด “....หรือ...อย่างน้อยชั้นก็คิดว่าเป็นมาตลอด นั่นเป็นบทของชั้น...ในคุกนี้ ถ้าชั้นไม่ใช่เด็กของเล่น แล้วชั้นเป็นอะไรล่ะ ชั้นจะมีดีอะไรตรงไหน”
“นายเป็นแบบนี้ก็ดีมากพออยู่แล้ว” ร่างสูงตอบ
“นั่นไม่ใช่ข้อตกลงในคุกนี้นี่! นายบอกชั้นเอง! ตั้งแต่ชั้นเข้ามาในคุกทุกคนก็บอกชั้นแบบนั้น!”
“นับจากนี้ทุกสิ่งทุกอย่างในนี้จะเปลี่ยนไป” จินตอบ “มันก็แน่ล่ะนะว่าในคุกนี้ก็จะยังคงมีเด็กของเล่น บันนี่บอย เจ้านาย แก๊ง แล้วกลุ่มอื่นๆหลากหลาย แต่ต้องไม่ใช่ในห้องชั้นแน่”
“แต่นายเป็นผู้นำของคุกนี้ ผู้คุมคุกก็ต้องมีเด็กของเล่นไม่ใช่หรือ ถ้าไม่มี แล้วชื่อเสียงของนายจะเป็นยังไง ไม่เป็นไรหรอกนะ ชั้นป็นเด็กของเล่นได้” ร่างบางพูดขึ้น ค่อยๆย่างเท้าเข้าใกล้และค่อยๆเอื้อมมือไปจับแขนจิน แต่ร่างบางต้องตกใจนิดๆเมื่ออีกฝ่ายกลับดึงร่างเขามาใกล้
“อยู่กับชั้นอย่างที่ไม่ต้องสวมบทบาทอะไร ไม่มีเจ้านายหรือเด็กของเล่นอย่างนั้นได้ไหม” จินถาม ร่างบางแทบจะผงะเมื่อได้ยิน จินพูดว่ายังไงนะ เมื่อคืนนี้จินก็ทำตัวแบบนี้ด้วย
“ตอนที่นายประกาศว่าอยากจะยุติข้อตกลงระหว่างเรานะ นายทำให้ชั้นแปลกใจมาก ชั้นเองก็สงสัยมาตลอดว่าทำไมนายถึงเปลี่ยนมาทำตัวเป็นเด็กของเล่นของชั้นอีกล่ะ ทั้งๆที่ก่อนจะเกิดเรื่อง เราก็ดูจะไปกันได้ด้วยดีนี่” ร่างบางแก้มแดงระเรื่อขึ้นทันทีกับคำพูดของจิน “แต่จากนั้นชั้นก็เริ่มรู้แล้วว่าที่นายทำไปเพื่อจะให้ชั้นอยู่ห่าง เพื่อที่ชั้นจะได้ไม่เจ็บตัว ทั้งที่ๆนายไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นเลยสักนิด”
“เกี่ยวสิ ก็นายเป็นคนช่วยชีวิตชั้นไว้ นายเจ็บตัวแทนชั้น” ร่างบางค้าน
“ถึงชั้นจะเป็นคนช่วยนาย แต่นั่นมันก็ไม่ใช่ความผิดของนายสักนิด ชั้นเป็นคนตัดสินใจกระโดดตามนายไปเอง แล้วเราก็เจ็บทั้งสองคน บางทีแล้วก่อนที่เราจะลงไปนอนกับพื้นแบบนั้น นายเองก็อาจจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามีอะไรมาชนนาย” จินตอบ
“ไม่จริงสักหน่อย ชั้นรู้ในทันทีเลยล่ะว่าเป็นนาย” คาเมะพูดพลางถอนหายใจ”จิน ชั้นทำแบบนี้กับนายมาตลอด ชั้นก่อเรื่องให้นายอยู่ตลอด แล้วก็ทำให้นายเจ็บ ครั้งสุดท้ายนั่นก็มากพอแล้ว ชั้นไม่อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นกับนาย”
“ชั้นไม่เป็นไรหรอกน่า” จินพูดให้คำมั่น มือแกร่งโอบแน่นรอบข้อมือบาง แต่คาเมะไม่รู้สึกมั่นใจเลย “แล้วอย่ากลับไปคิดทวนเรื่องที่จะอยู่ในห้องหรือไม่อยู่ดีล่ะ ชั้นไม่ยอมให้นายจากไปไหนแน่”
“ฟังนะ ถ้านายทำเพื่อชั้นล่ะก็ อย่าเลย” ร่างบางเอ่ย พยายามฝืนยิ้มออกมา ก่อนที่จะก้าวเข้ามาใกล้อีกนิด “แค่เป็นเด็กของเล่นของนาย ชั้นก็พอใจแล้ว”
“นายไม่ใช่แค่ของเล่น” ร่างสูงพูดพลางรั้งร่างบางออก “ถึงนายดึงดันจะพูดว่านายเป็นได้แค่นั้น ...แต่นายน่ะมากกว่านั้น มากกว่ามากๆเลย นายน่าจะสังเกตเห็นมันมาตั้งนานแล้ว”
คาเมะนิ่งเงียบ จินจึงค่อยๆปล่อยมือบางออก
“นายจะเป็นพรรคพวกของชั้น ไม่ใช่เด็กของเล่น จะแตกต่างก็เพียงแต่ว่าชั้นจะไม่ยอมให้นายห่างตาไปไหน แต่อย่างน้อย...นายก็ไม่ต้องฝืนใจมีเซ็กส์กับชั้น”
“นายพูดจริงหรือ”คาเมะถาม สุดท้ายก็เริ่มจะเข้าใจว่าจินทำเพื่อทางเลือกของตัวเอง ไม่ใช่เพื่อเขา จินพยักหน้ารับ เขานี่นะ พรรคพวกนี่นะ ร่างบางแทบจะหน้ามืดขึ้นมาทันที ชั้นจะเป็นพรรคพวกได้ยังไงแบบไหนล่ะ! “ทำไมล่ะ”
“อย่าถามเลยว่าทำไม” จินพึมพำตอบ เขาไม่อยากจะตอบคำถามข้อนี้ด้วย
“อืม จิน อย่าเข้าใจผิดนะ ...ชั้นหมายถึง... มันก็เป็นข้อเสนอที่พิเศษสุดที่มีให้คนที่อยู่ในตำแหน่งอย่างชั้น...” ร่างบางเริ่ม ก่อนที่จินจะขัดขึ้นว่า
“แต่อะไรล่ะ”
“แต่ชั้นไม่อยากเป็นพรรคพวกของนาย ชั้นก็แค่อยากให้นายปลอดภัยแล้วก็...ชั้นอยากให้ทุกอย่างเป็นอย่างที่เคยเป็น” ร่างบางสารภาพ
“อะไรนะ ทำไมล่ะ” จินถามด้วยความแปลกใจ
“ยะ อย่าถามเลยว่าทำไม” ร่างบางย้อนถาม สีแดงระเรื่อเริ่มเข้ามาปกคลุมแก้มบางนิดๆ เขาบอกจินไม่ได้จริงๆ ถ้าเขาไม่ได้เป็นเด็กของเล่นของจิน เขาก็ไม่มีข้ออ้างที่จะอยู่ใกล้ชิดกับจินในช่วงระยะเวลาสั้นๆที่เหลืออยู่นี้นะสิ
“นายรู้ไหมว่า มีสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไป” ร่างสูงถาม คาเมะมองตอบสีหน้าสงสัย “ทุกวันนี้นายพูดเก่งขึ้น”
“ชั้นหรือ แย่มากหรือ” ร่างบางถาม
“อืมม ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย” จินพูดด้วยรอยยิ้มก่อนจะรั้งร่างบางเข้ามาประกบจูบบางเบา รสจูบหวานหอมที่เขาชอบไม่เปลี่ยนแปลง “ขอบคุณนะ” ร่างสูงพึมพำบอก ก่อนจะประทับจูบลงไปอีกครั้ง แล้วเฝ้าเย้าแหย่ร่างบางไปด้วย “นี่คงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ชั้นจะได้ทำแบบนี้กับนาย”
ร่างบางเฝ้าสังเกตคนที่อยู่ตรงหน้า ถ้าเขาบอกจินว่าถึงเขาจะไม่ได้เป็นเด็กของเล่นของจินแล้ว เขาก็อยากจะใกล้ชิดกับจินแบบนี้ตลอดไป แบบนี้แล้ว ...มันจะเหมือนเป็นการสารภาพรักออกไปไหม
“ไม่มีตำแหน่งเด็กของเล่นเปิดที่ห้องชั้นอีกต่อไปแล้ว” จินพูดขึ้นพลางดึงตัวออกห่าง “แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่านายจะมาเตร่กับเราไม่ได้ จริงๆแล้ว เราจะไม่ยอมให้นายอยู่ห่างเลยด้วยซ้ำ...” จินพูดพลางเปิดยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะจางหายไปเมื่อเขาสังเกตเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาตรงทิศทางที่พวกเขายืนอยู่
คาเมะรับรู้ได้ทันทีว่าจินตัวเกร็งขึ้น ร่างบางปล่อยมือจากเพื่อนร่วมห้องแล้วหันกลับไปมองตรงทางเดินที่กลุ่มชายห้าคนกำลังเดินเข้ามาหาพวกเขา
นักโทษกลุ่มนี้แต่งตัวด้วยชุดนักโทษแบบเฉพาะตัว ถึงแม้หลายส่วนของเสื้อผ้าจะดูไม่เห็นเค้าเดิมของชุดนักโทษเลยก็ตาม เสื้อผ้าที่พวกเขาสวมใส่ดูเป็นแบบเฉพาะตัวจริงๆ พวกเขาโกรกสีผมด้วยสีบลอนด์เข้ม ไม่ก็ดำเข้ม ไม่ก็สีแดง
คาเมะเคยเห็นนักโทษประเภทนี้มาก่อน อย่างเช่นมิยาบิเองก็แต่งไสตล์นี้ แต่ร่างบางไม่เคยเห็นจินทำตัวเกร็งแบบนี้มาก่อน
“ถ้าไม่ได้ยินมากับหูก็คงไม่เชื่อเลยว่ะ...” หนึ่งในห้าคนพูดขึ้น สีผมของชายคนนี้ออกสีแดง เครื่องสำอางหนาเข้มปกคลุมอยู่รอบดวงตา จริงๆแล้วทั้งห้าคนต่างก็แต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางโทนดำเข้ม บางคนก็แต่งสีทาเล็บด้วยสีเหมือนๆกัน “แต่ชั้นก็เชื่อแล้วล่ะ แต่ก็แค่อยากให้แน่ใจขึ้นมาหน่อย สุดท้ายแล้วอคานิชิ จิน ก็ยอมมอบอิสระครั้งสุดท้ายให้เด็กของเล่นที่แสนล้ำค่าคนนี้ ด้วยการพูดประกาศอิสระภาพให้”
“คาเมะกลับไปที่ห้อง” จินพูดขึ้น คาเมะมองกลับไปที่เพื่อนร่วมห้องด้วยแววตาเต็มไปด้วยคำถามร้อยแปด เพราะไม่เข้าใจในเรื่องที่เกิดขึ้น “กลับไปซะตอนนี้ แล้วล็อคห้องไว้ด้วย”
น้ำเสียงของจินดูจริงจังมาก แต่คาเมะคงจะปล่อยให้จินอยู่เพียงลำพังต้านคนทั้งห้าคนแบบนี้ไม่ได้ พวกเขาไม่เพียงแต่ดูแก่วัยกว่า แต่ยังดูอันตรายมาก แล้วในตอนนี้จินก็บาดเจ็บไม่มากไม่น้อย
ร่างบางถอยกลับมายืนข้างจินเมื่อชายกลุ่มนั้นย่างสามขุมเข้ามายืนตรงหน้าพวกเขา
“ฉากๆนี้คงจะดูคุ้นเคยกับพวกนายดีนะ เมื่อมีการข่มขู่เข้าทำร้าย เจ้านายผู้ทรงอำนาจก็พยายามทุกวิถีทางที่จะช่วยเด็กของเล่นผู้ล้ำค่าคนนี้” ชายคนที่โกรกผมด้วยสีบลอนด์และสีดำเข้มเป็นไฮไลท์เอ่ยขึ้น ชายคนนี้คลุมช่วงปลายจมูกด้วยผ้าพื้นเล็กๆ หมือนพยายามจะซ่อนหน้าซ่อนตา
“พวกเขาเป็นใคร” คาเมะหันกลับไปถามจินผู้ซึ่งกำลังรั้งตัวร่างบางให้แอบอยู่ข้างหลัง
“ออกไปจากที่นี่ ออกไป...” จินตะคอกใส่ เข้ายืนขวางระหว่างชายกลุ่มนี้และคาเมะ
“เอ๊ะ หรือจะเป็นฉากใหม่ดี อดีตหัวหน้าผู้เคยทรงพลังพยายามจะช่วยอดีตเด็กของเล่นผู้ล้ำค่าหาใดเหมือน” อีกคนพูดต่อ คนๆนี้ก็มีผมสีบลอนด์ด้วย แต่ผมของชายคนนี้ยาวกว่าอีกคนหน่อย “ถ้าแบบนั้นแล้ว ครั้งนี้ผลลัพธ์ก็คงต่างไปสิเนี่ย”
“Gazette” จินพูดขึ้น คาเมะแทบจะผงะ งั้นพวกนี้ก็เป็นแก๊งๆหนึ่งสินะ ทำไมพอแก๊งนี้เข้ามาแล้วจินดูสติแตกหน่อย ยิ่งกว่านั้นคาเมะไม่เคยเห็นแก๊งที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงเดียวกับจินหาญกล้ามาท้าสู้แบบนี้เลย “ใครเป็นหัวหน้าพวกนาย”
“ตอนนี้เป็น GazettE แล้ว” ชายผมแดงพูดแก้ให้
“ชั้นเป็นหัวหน้าของแก๊ง GazettE ชื่อไค” ชายผมสั้นสีดำพูดขึ้น
“หมอนั่นพูดชื่อนายผิดนี่...” จินพึมพำตอบ แต่พวกแก๊งกลุ่มนี้ก็ทำเมินไม่สนใจ
“เรามานี่เพราะสองสิ่ง อย่างแรกชั้นว่านายเองก็พอจะเดาออก แต่อีกอย่างมันก็จะเป็นการดีนะถ้านายจะไม่ลืมน่ะ” คนสุดท้ายของกลุ่มพูดขึ้น ชายคนนี้ก็มีสีผมดำ แม้จะดูยาวกว่าหัวหน้าแก๊งของพวกเขามาอีกหน่อย แถมยังเจาะลิ้นด้านซ้ายอีกด้วย เมื่อจินไม่ตอบ ชายคนนั้นจึงพูดต่อ “นายจำหมอนั่นได้ไหม ยูเนะ”
ยูเนะ คาเมะมองไปที่จิน ยูเนะเป็นใคร ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างทำให้ร่างบางรู้สึกได้ว่าพวกเขากำลังพูดถึงเด็กของเล่นคนอื่น
“หมอนั่นจากเราไปก็หลายปีมาแล้ว การต่อสู้ที่ทำให้ไคต้องไปนอนซมที่ห้องพยาบาลนั่นด้วย” ชายคนเดิมยังพูดต่อ “ครั้งนี้มันจะไม่จบแบบนั้นอีก นายไม่มีอำนาจเหมือนเดิมแล้ว”
“ชั้นมีตั้งเยอะ” จินตอบ “กลับไปที่ฝั่งเหนือซะ” ร่างสูงพูดก่อนจะหันกลับมามองคาเมะ “แล้วนายเองก็กลับไปฝั่งตะวันตก ชั้นไม่ได้พูดเล่นนะ”
“รู้มั้ย ก็อย่างที่อาโอยพูดน่ะแหล่ะ นายไม่มีอำนาจแบบเดิมแล้ว แม้แต่ไอ้อำนาจแบบที่นายเคยได้มันมาอย่างเร็วตอนที่ย่างเท้าเข้ามานี้ด้วย มันก็ไม่เป็นไรมากหรอกนะที่นักโทษใหม่ในตอนนั้นอย่างนายเข้ามาแล้วเอาเพื่อนร่วมแก๊งของเราไปอยู่ในห้องขังเดียวกับนาย แต่ที่นายกล้าไปนอนกับคนนั้นทีคนนี้ในคราวเดียวกันนี่สิ” ชายผมแดงพูดต่อ
คาเมะว่าแล้วเชียวว่าต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กของเล่นตลอดเลย
ร่างสูงละสายตาจากชายผมแดงที่เขาจำได้ว่าน่าจะชื่อรูกิ แล้วหันไปมองชายผมดำสั้นที่ชื่อว่าไคอีกครั้ง “ตอนนั้นหมอนั่นไม่ได้ร่วมแก๊งกับนายสักหน่อย นายน่าจะยินดีนะที่ชั้นเป็นคนแนะนำพวกนายให้รู้จักกันน่ะ...” จินพูดก่อนจะกลับไปมองที่รูกิ “พอชั้นนอนกับหมอนั่นในขณะที่มีอดีตเพื่อนร่วมแก๊งของนายอยู่ในห้องขังเดียวกับชั้น ....หมอนั่นก็เลยได้เป็นหัวหน้าแก๊งแล้วในตอนนี้”
“เรายินดีมาก เราก็เลยมาแสดงความขอบคุณนายยังไงล่ะ” รูกิตอบ
continue here ยังไม่จบคะ อ่านต่อตรงนี้คะ