“จิน” ร่างบางถามออกมาด้วยความระมัดระวัง ดวงตาคู่นั้นยังเต็มไปด้วยความงุนงงสับสนที่เขียนลึกลงไปในแววตา มันทำให้จินนึกโกรธยิ่งนักที่เขาไม่สามารถแปลความหมายที่เขียนบอกในแววตาคู่นั้นได้ก่อนหน้านี้ ทำไมคาเมะถึงดูเศร้านัก แต่ที่สำคัญกว่านั้น...ทำไมคาเมะไม่อยากได้สิ่งที่พวกเขาเคยมีร่วมกันกลับคืนมา “ชั้นขอโทษ... ชั้นไม่ได้ตั้งใจที่จะ..ทำตัวเครียดเกร็ง”
จินผละสายตาจากคนตัวเล็กเพียงชั่วครู่ ก่อนจะหันกลับไปมองด้วยแววตารื่นรมย์ขึ้นมานิด ...ถึงแม้ในตอนนี้เขาไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลยก็ตาม เขาไม่รู้จริงๆว่าสิ่งใดที่เฝ้ากวนใจคนตัวเล็กอยู่ ....รู้ก็แต่สิ่งที่กำลังกวนใจตัวเขาอยู่นั่นเอง ร่างสูงนึกหวังที่จะบอกคาเมะยิ่งนักว่าบทบาทที่พวกเขาเคยต้องเล่นกันมานั้น ถ้ามันจะเคยเป็นจริงกับชาวบ้านเขาบ้างล่ะก็....สิ่งนั้นมันไม่ใช่อีกต่อไป....
“เพราะเราไม่ได้ทำแบบนี้กันมานาน นายเลยรู้สึกไม่สะดวกใจหรือเปล่า” จินถาม พยายามผลักความคิดที่มีมาก่อนหน้านี้ออกไป ร่างบางนิ่งอยู่พักใหญ่ เหมือนกำลังคิดว่าควรจะบอกจินไปดีหรือไหมว่าสิ่งใดกันแน่ที่กวนใจอยู่
“ชะ ชั้นไม่อยากทำ...” คาเมะพูดเผย คนตัวเล็กนั่งอยู่บนตักกว้างท่าทางดูเศร้าสร้อย คำสารภาพและท่าทีแบบนั้นทำให้จินแทบจะผลัดตกจากเตียง ..แม้ในหลักความเป็นจริงเขาไม่มีทางที่จะผลัดตกลงไปได้เพราะกำลังนั่งเอาหลังพิงผนังห้อง โดยมีร่างบางนั่งบดเบียดอยู่บนร่างหนา
นึกแล้วเชียวว่าคาเมะต้องกำลังฝืนตัวเองอยู่ นี่คาเมะยังคงโกรธเขาอยู่เหรอ เพราะชุดนั่นหรือเปล่า หรือเพราะเขาไม่ยอมบอกคาเมะเรื่องมือข้างขวาที่ไม่เจ็บแล้ว หรือจะเพราะตั้งแต่ที่กลับมา เขาก็พยายามจะมีอะไรกับคนตัวเล็กอยู่ตลอด ..หรือจะเรื่องที่เขาให้คาเมะเป็นเด็กของเล่นของเขาต่อไป งั้นอาการบาดเจ็บของเขาก็คงเป็นแค่ข้ออ้างที่คนตัวเล็กใช้เพื่อทำตัวออกห่างใช่ไหม
บ้าเอ๊ย...ตอนที่เขาและคาเมะนอนเล่นเกมซุโดกุนัวเนียกันไปมา เขาก็เกือบจะคิดไปแล้วว่าทุกอย่างนั้นไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว.......พูดไปแล้วในตอนนั้นเขาเองก็เกิดอารมณ์อยากมีอะไรๆกันอยู่เรื่อย ยิ่งทุกๆคืนที่ต้องนอนข้างร่างบาง หรือนอนอยู่ใต้ร่างบาง...แต่ไม่ใช่นอนใต้ร่างในแบบที่เขานึกชอบ ..แต่เพราะคาเมะนอนอยู่บนตียงบนแล้วเขานอนอยู่เตียงล่างต่างหาก ...ร่างสูงเองต้องพยายามเก็บไม้เก็บมือและส่วนอื่นๆไว้กับตัว พยายามจะไม่ยื่นมือนั้นไปหาร่างอันแสนยั่วยวนที่เขานึกอยากคว้ามาชิดใกล้
จินสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด สั่งตัวเองให้สงบลง ทำไมเขาต้องตระหนกตกใจไปด้วย มันเหมือนไม่ใช่ตัวเขาเลยสักนิด ความคิดที่ว่าคาเมะไม่สนใจเขาเลยทำให้นึกกลัวจนไม่อยากจะยอมรับมัน
“งะ งั้นก็..ไม่เป็นไร...นายไม่ต้องทำก็ได้นี่...เราไว้ทำ...คืนอื่นก็ได้” จินเปล่งคำพูดออกมา ตามด้วยการเบี่ยงตัวออกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในขณะที่คาเมะยังนั่งจุมปุ๊กอยู่บนตัก
“ไม่นะ ชั้นหมายถึงว่า...นายกำลังเจ็บอยู่” ร่างบางรีบตอบ มือเรียวเอื้อมไปคว้าชายแขนเสื้อของอีกฝ่ายไม่ให้ห่างออกไป”ถึงแขนนายจะดูไม่เป็นไรแล้วก็เถอะ”
จินเปิดยิ้มให้กับคำตอบนั้น “นายพูดเรื่องอะไร ชั้นสบายดีนะ”
“ไม่เลย นายไม่สบายเลยสักนิด นายปิดพวกเราไม่ได้หรอก” คาเมะแย้ง “หลังนายยังเจ็บ ขานายก็ปวดได้ง่ายถ้าเดินมากไป”
“นายนี่หยั่งรู้จริง” จินพึมพำ แค่นี้น่ะเหรอ...หรือจะเป็นแค่ข้ออ้างที่ยกขึ้นมาเพื่อให้เขาอยู่ห่าง เขาต้องขอลองทดสอบดูหน่อย “งั้นถ้านายนวดให้ชั้นล่ะ”
“ให้นวดหลังหรือนวดขาล่ะ” ร่างบางถาม จินเองก็เคลื่อนตัวเข้าใกล้
“ทั้งตัวเลย...” ร่างสูงตอบ แล้วจัดการโน้มตัวร่างบางลงไปนอนใต้ร่าง คาเมะยินยอมให้อีกฝ่ายจูบ แต่ร่างเล็กที่อยู่ใต้เขานั้นยังออกอาการตึงเครียดเช่นเดิม เหมือนว่าคนตัวเล็กมีเหตุบางอย่างที่ต่อต้านการได้อยู่ใกล้เขา แต่ในครั้งนี้คาเมะก็ไม่ได้ปฏิเสธเขาเช่นกัน คาเมะกำลังฝืนตัวเองอยู่จริงๆ
ร่างสูงใช้สองแขนยันตัวขึ้น แต่ก็ยังคร่อมตัวอยู่เหนือร่างบางด้วยระยะห่างพอควร คาเมะมองจินด้วยแววตาสับสนงุนงง อาจนึกสงสัยว่าทำไมจินถึงได้หยุด
“บอกให้ชั้นหยุดสิ” จินพูดขึ้น เห็นได้ว่าน้ำเสียงที่ดูจริงจังของเขาทำให้คาเมะแทบผงะ
“อะไรนะ”
“ถ้านายไม่อยากให้ชั้นทำ ก็บอกให้ชั้นหยุด” ร่างสูงทวนคำ คาเมะลังเลใจอยู่เพียงครู่ ก่อนจะปล่อยให้คำว่า หยุด หลุดรอดออกมาจากปากบาง
คนตัวเล็กมองเพื่อนร่วมห้องผละตัวห่างอย่างเต็มตัวด้วยความฉงนในใจ ร่างบางยันตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความสับสน ขณะเดียวกันเขาก็พยายามทำไม่ใส่ใจกับท่าทีเจ็บปวดเล็กน้อยที่ส่งตรงมาให้
“เห็นมั้ย ว่าง่ายจะตายไป” จินบอก
มันไม่เคยเป็นแบบนี้นี่ ...ร่างบางนิ่งนึกแต่ก็ตัดสินใจว่าจะไม่พูดออกไป “ชั้นบอกแล้วไง ว่าชะ ชั้นห่วงนาย ก็เลยพูดบอกให้นายหยุด ...สำหรับนายแล้วมันอาจจะเร็วไป”
“ถ้างั้นคำขอที่บอกให้นายแสดงโชว์ให้ชั้นดูก็ยังใช้ได้อยู่นะ” จินพึมพำ
ร่างบางแก้มแดงปลั่งขึ้นทันตา “มะ ไม่เอาอ่ะ”
“ชั้นอยากเห็นนายทำมันจริงๆนะ” จินพูดต่อ “ นายรู้เปล่าว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เด็กของเล่นจะทำให้เจ้านายดู”
คาเมะไม่ตอบ..
“แต่คืนนี้เราจะลองเล่นบทอื่นดูก็ได้” จินพูดแนะ ร่างบางเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย
“บทบาทอะไร” คนตัวเล็กฝืนใจถามออกไป ถึงแม้จริงๆแล้วเขาไม่นึกอยากได้คำตอบในคำถามนั้นก็ตาม
“เราก็เป็นแค่คาเมะและจิน แฮกเกอร์แล้วก็โจรไงล่ะ” จินตอบ “ไม่ต้องมีเด็กของเล่น หรือเจ้านาย”
“อืม ...” คาเมะตอบออก ...แล้วมันจะเป็นแบบไหนล่ะ
“คืนนี้...” จินพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง โน้มตัวจูบเรียวปากบางอีกครั้ง “มาสานต่อเรื่องที่พวกเราทำค้างกันไว้ในวันที่นายเข้ามาหาชั้นที่ห้องนี้เพื่อมีเซ็กส์กัน แล้วยังตอนที่นายมาหาชั้นอีกในตอนเที่ยงเพื่อขออนุญาตกลับมาอยู่ที่ห้องนี้ไงล่ะ”
ดวงหน้าเรียวบางแดงระเรื่อ จินนึกพนันได้เลยว่าแก้มแดงๆนั่นไม่ใช่แค่ผลพวงจากการที่ระยะห่างระหว่างร่างของพวกเขาเริ่มเลือนหายไปเสียจนทำให้คาเมะเริ่มรู้สึกร้อนเร่ามากขึ้นเป็นแน่ “นะ นั่น...ชั้นก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ทำแบบนั้น”
คนตัวเล็กเบี่ยงศีรษะเล็กไปด้านข้าง พยายามอย่างยิ่งที่จะเก็บกดความทรงจำที่จินยกขึ้นมา แต่อีกฝ่ายก็ดูจะไม่ยอมให้เรื่องมันจบไปแบบนั้นแน่
“งั้นก็ให้สิ่งนั้นมันดลใจนายคืนนี้ด้วยสิ” จินเอ่ย แววตาที่แฝงไปด้วยความตกใจของอีกฝ่ายก็จ้องกลับมาที่ร่างสูง
จินค่อยๆช้อนคางมนขึ้น เพื่อจะให้ดวงหน้าที่เขาชอบจ้องมองในทุกครั้งที่มีโอกาสได้หันกลับมา ร่างสูงปิดระยะห่างระหว่างเรียวปากของพวกเขาเสีย คาเมะก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด
จินคิดย้อนไปถึงเมื่อครั้งแรกที่เขาฝืนให้คาเมะต้องเป็นของเขา จำได้ว่าร่างกายของอีกฝ่ายสนองตอบเช่นไร ตอนนั้นร่างกายเล็กเกร็งเครียด ขัดขืน แต่เมื่อผ่านไปคืนแล้วคืนเล่า ความเกร็งเครียดที่เคยมีก็ค่อยๆเลือนหายไป คาเมะคนที่ยังใหม่กับเรื่องพวกนี้เริ่มที่จะคุ้นเคยกับร่างกายของเขา แล้วสนองตอบในแบบที่ควรจะเป็น
แต่จินไม่เคยอยากให้คาเมะต้องกลับไปเป็นเด็กของเล่นอีกแล้ว
ช่วงที่ต้องติดอยู่ในคุกเขามีเด็กของเล่นมากมายหลายคน เริ่มแรกเขาก็สะดวกใจที่จะเฝ้าบอกตัวเองว่าคาเมะเองก็เป็นหนึ่งในนั้น จากนั้นเขาก็พบว่าคาเมะเป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถเขา นึกอยากเอาชนะให้ได้ แต่เมื่อหลายเดือนผ่านไป คำว่า เด็กของเล่น และ ท้าทายความสามารถ ก็ไม่อาจบรรยายเทียบได้กับร่างที่นอนอยู่ใต้ร่างเขาทุกค่ำคืน จินไม่อาจจะหลอกตัวเองให้เชื่อได้อีกต่อไปว่าคาเมะเป็นได้แค่นั้นจริงๆ
บางทีถ้าพวกรุ่นพี่ไม่เข้ามาขู่ทำร้ายคาเมะ จินก็อาจจะยังคงโลดแล่นในบทบาทของเด็กของเล่นและเจ้านายต่อไป ..ถึงแม้ต่างฝ่ายจะรู้ว่าระหว่างพวกเขาทั้งสองนั้นมีบางสิ่งที่เริ่มก่อตัวมากขึ้นกว่านั้น แต่ในตอนนี้ เขาไม่อาจทำแบบนั้นได้อีกต่อไป เขาไม่อยากให้คาเมะคิดว่าตัวเองเป็นแค่เด็กของเล่น ..ถึงร่างบางจะรู้อยู่แก่ใจดีว่าตำแหน่งนั้นให้คำนิยามร่างบางไม่ได้เลยสัดนิก เขาอยากให้คาเมะรู้ว่าคาเมะนั้นไม่ใช่สิ่งของ แต่เป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับเขามาก ...
ครั้งนี้เมื่อจินเริ่มจู่โจมเรียวคอระหง คนตัวเล็กในอ้อมแขนก็แข็งตัวขึ้นเพราะเหตุผลที่ต่างไป ร่างบางโน้มศีรษะไปด้านหลังเพื่อเปิดทางให้จินได้ก้าวล้ำมากขึ้น
“จิน...” คาเมะร้องคราง จินก็เปิดยิ้ม เตรียมพร้อมที่จะพลิกร่างเล็กให้นอนแผ่ลงไปกับเตียง เมื่อรู้สึกได้ว่าร่างกายเล็กในอ้อมแขนเริ่มจะเกร็งตัวขึ้นมาอีกครั้ง เรียวมือบางยกขึ้นมาวางบนอกกว้างทำทีบอกให้หยุด
“ดะ เดี๋ยว หยุดก่อน นายยังเจ็บอยู่นะ” คาเมะรีบบอกก่อนที่จินจะสานต่อสิ่งที่ทำให้เสร็จสิ้นไป น้ำเสียงนั้นดูจะไม่โน้มน้าวมากนัก เพราะอีกฝ่ายต้องพยายามสูดลมหายใจให้กลับเข้าไปในภาวะปกติ
“อืม...แต่การออกกำลังเล็กๆน้อยๆ ไม่น่าจะทำให้เจ็บมากหรอก” จินเอ่ยพลางสานต่อสิ่งที่กำลังทำอยู่ จนเมื่อรับรู้ได้ว่าคาเมะค่อยๆผลักร่างเขาออกไป
“สำหรับนายแล้วไม่มีคำว่าออกกำลังกายเล็กๆน้อยๆ หรอก” ร่างบางออกความคิดเห็น แต่ดูจะไม่ได้ผลเหมือนที่หวังไว้ จินเริ่มเข้าจู่โจมอกบางเป็นลำดับต่อไป คาเมะพยายามข่มเสียงครางที่ก่อตัวขึ้นจากสัมผัสนั้น แต่อีกด้านหนึ่งคนตัวเล็กก็กระตือรือร้นอยากดูว่าคำสํญญาที่จินให้ไว้ก่อนหน้านี้จะเป็นจริงหรือไม่
เมื่อไม่ได้อาการสนองตอบแม้เพียงเล็กน้อยจากคาเมะ จินก็เริ่มถอนหายใจ ผละเรียวปากอวบอิ่มออกจากผิวเนียนนุ่มที่น่าลิ้มลอง ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยแววตาน่าสงสาร “นายยอมให้ชั้นทำถึงขนาดนี้แล้วนะ งั้นนายว่าจากนี้เราจะทำอะไรกันดีล่ะ”
ร่างบางเบี่ยงสายตาให้ห่างจากดวงตาที่ออดอ้อน นึกเกลียดที่จินสามารถเปลี่ยนแปลงคนได้ด้วยเพียงสายตาคู่นั้น
“ชั้น ชั้นไม่รู้ ชั้นยังไม่ได้คิด...ชั้นแค่...” ร่างบางแก้มระเรื่อขึ้นมาอีก แล้วส่งสายตาตำหนิไปยังอีกฝ่าย “อะไรที่ไม่ทำให้นายเจ็บได้” คาเมะพูดเสริม ร่างสูงทันได้เห็นแววตาเรียวเล็กที่เหลือบมองไปยังผ้าพันแผลที่พันบนอกกว้างแว่บหนึ่ง ก่อนจะรีบมองกลับขึ้นไปสบตาคม
“ถ้ายังงั้น ...” จินพึมพำประทับจูบตรงมุมปากของร่างบางอย่างนุ่มนวล “นายอยู่บนแล้วกัน”
คาเมะแทบจะอ้าปากค้างอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเปล่งเสียงค่อยว่า “อะ อะไรนะ” บวกผสมกับรอยแดงระเรื่อตรงแก้มบางที่ดูน่ารักน่าเอ็นดู
“ชั้นไม่ได้หมายความว่ายังงั้น แต่ เอ๋ ..หรือเราจะลองกันวันหลังดี” จินพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงแล้วจึงโน้มตัวกลับไปพิงผนังห้อง “จำตอนวันเกิดนายได้ไหม” ร่างสูงพูดเย้า สีแดงบนดวงหน้าเล็กก็แดงแจ๋ดขึ้นทันที
จินหัวเราะหึๆ
“แต่ครั้งนี้อย่าเตลิดไปเหมือนวันนั้นล่ะ นายพูดเองไม่ใช่เหรอว่าชั้นเจ็บ แล้วช่วงเกือบสองปีที่อยู่ด้วยกันมา ฉันบอกได้เลยน้าว่าสำหรับนายแล้ว ไม่มีคำว่า ‘ออกกำลังเล็กๆน้อยๆแน่’...” จินพูดจบ คาเมะก็แทบอยากจะเอาหน้าไปซุกไว้ที่อื่น ร่างสูงเองก็นึกภูมิใจกับคำพูดอักนหลักแหลมของตัวเองอยู่นิดๆ การที่คบหาสมาคมกับเรียวก็เริ่มจะได้อะไรติดตัวมาบ้าง อย่างน้อยไอ้คำพูดอันชาญฉลาดนั้นก็ดูจะให้ผลกับคาเมะด้วยสิ....
“ตะ ต้องทำด้วยเหรอ” คาเมะพึมพำอะไรบางอย่างคล้ายจะบอกปัด แต่ก็พูดออกมาได้ไม่เต็มปากนัก ร่างบางเอนศีรษะเล็กแนบลงกับไหล่กว้าง เขาไม่ชอบอยู่บน เพราะชอบที่จะให้จินเป็นฝ่ายนำเกมมากกว่า แต่แล้วจู่ๆมือหนาก็เลื่อนขึ้นไปสางผมอันนุ่มสลวยของคนตัวเล็ก
“ไม่ต้อง” เสียงตอบที่ได้ยินทำให้คาเมะนึกเกรง คนตัวเล็กค่อยๆผงกศีรษะขึ้นเพื่อลอบมองสบตาเพื่อนร่วมห้องอีกครั้ง “นายไม่ต้องทำอะไรที่นายไม่อยากทำหรอกนะ”
คาเมะไม่สามารถจะตอบสิ่งใดเพื่อทำความเข้าใจกับข้อความนั้นได้ “อะ อะไรนะ ...ชั้นคิดว่า...เราจะยัง....เป็น...”
จินหัวเราะลงลูกคออีกครั้ง พลางใช้เรียวนิ้วไล้ต่ำลงไปยังคางมน คนตัวเล็กคงไม่รู้ตัวเลยสิว่าตอนนี้ดูน่ารักน่าชังมากขนาดไหน “ไม่ว่านายจะเป็นอะไรสำหรับชั้น..จะเป็นเพื่อนร่วมห้อง หรือจะเป็นเด็กของเล่นหรือไม่ ..จากนี้ไปถ้าเรื่องบนเตียงแล้วล่ะก็ ถ้านายไม่อยากทำ นายก็ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น ชั้นจะไม่บังคับนาย ถ้านายบอกว่าไม่ ชั้นก็จะหยุด”
จินยังคงพูดแบบนี้อีกหรือ ร่างบางไม่แน่ใจว่าเขาควรจะตอบว่าอย่างไรดี ถ้าเด็กของเล่น..ไม่ใช่ของเล่นอีกต่อไป...ความสัมพันธ์นี้มันเป็นแบบไหนกันแน่
...จินคงจะเอาหัวไปกระแทกพื้นมากเกินไปเมื่อตอนที่ตกลงมาในครั้งนั้น คงต้องใช้เวลามากกว่าสองอาทิตย์สินะกว่าบาดแผลจะหายขาด
“ไม่ใช่..ชั้น..” ร่างบางเริ่ม พยายามหาคำพูดที่เหมาะสมเพื่อมาอธิบายตัวเอง “ชั้นไม่ได้หมายความว่าชั้นไม่อยากจะ”
เพื่อเป็นการพิสูจน์คำพูดของตัวเอง ร่างบางใช้มือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของร่างสูง ก่อนที่จะค่อยๆเลื่อนเสื้อตัวบางออกจากอกกกว้าง เผยให้เห็นผิวเนื้อที่ยังคงมีผ้าพันแผลคลุมอยู่
จินยิ้ม เขาชอบทุกครั้งที่เห็นคนตัวเล็กแก้มแดงระเรื่อได้แบบนี้ ร่างบางสังเกตเห็นผ้าพันแผลที่อกของจินเริ่มหลุดออกจึงค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบตรงปลายผ้า แล้วพันทับรอบอกแกร่งอีกครั้ง
“แผลเป็น....หายเร็วเหมือนกันนะ” คาเมะพึมพำเมื่อมองไปยังรอยแผลที่อยู่บนร่างของจิน รอยแผลที่ปกติจะถูกซ่อนไว้ใต้ผ้าพันแผล
“อืม ใช่ ตุ๊ตี้กับนากาย่าทำได้ดีมากเลยล่ะ เห็นพวกเขาบอกว่าพยายามเย็บแผลอย่างดีที่สุด ทำแบบนั้นแล้วรอยแผลเป็นจะได้หายไวขึ้น” จินตอบ รู้สึกชอบเมื่อยามที่เรียวนิ้วบางค่อยๆลูบไล้นวดคลึงอยู่บนผ้าพันแผล
เมื่อจินพูดจบ ร่างบางก็โน้มตัวเพื่อประทับจูบบางเบาลงบนผ้าพันรอบอก เหมือนเป็นการเป่าแผลให้หายเจ็บไวๆ
“ชั้นยังไม่ได้บอกขอบคุณเลยใช่มั้ย” คาเมะหยุดถาม “ขอบคุณที่ช่วยชีวิตชั้น”
คำพูดนั้นทำให้จินต้องเผยยิ้มอบอุ่นยิ่งขึ้น ร่างสูงเหลือบตามองคนตัวเล็กก่อนจะพูดว่า “ไม่เป็นไร”
ร่างบางไม่มองสบตาอีกฝ่าย แต่กลับฝังรอยจูบประทับลงบรอยแผลนั้นอีกครั้ง แล้วยืดตัวลุกนั่งตัวตรง ร่างบางทำให้จินต้องแปลกใจ เมื่อจู่ๆก็ประกบเรียวปากบางลงไปบนเรียวปากอวบอิ่มของจินอย่างนุ่นนวล จูบจุมพิตใบแบบฉบับของคาเมะ แขนบางของคนตัวเล็กวางพักลงบนช่วงคอหนาแนบแน่น แต่ไม่ได้ออกแรงกอดรัดเสียแน่นมาก จินได้แต่เดาว่าคงเพราะอีกฝ่ายกลัวจะทำให้เขาต้องเจ็บนั่นเอง
“นี่ ถ้าชั้นไม่ต้องใช้ผ้าพวกนี้แล้วนะ ..ชั้นจะเอามามันมาผูกนายดีมั้ย” จินพูดระหว่างจูบ คาเมะเองก็ผละริมฝีปากออกห่าง
“นายนี่บางทีก็ชอบเล่นโจ๊กพิสดงพิสดารมากเลยรู้ไหม” ร่างบางบ่น
“ยอมรับเถอะน้า นายก็เคยคิดเหมือนกันแหล่ะ” จินพูดด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม คาเมะก็ได้แต่ส่ายศีรษะ
“ไม่ใช่อย่างแน่นอน” คนตัวเล็กตอบพลางช่วยปลดเสื้ออีกตัวที่ผูกอยู่รอบเอวหนา ถึงแม้จินจะต้องนอนพักอยู่บนเตียงบ้างเป็นบางเวลา แต่เสื้อที่มักจะผูกรอบเอวก็ยังคงผูกไว้แบบนั้นทุกวัน
“ไม่ใช่โจ๊กสักหน่อย” จินบ่นงึมงำ คาเมะใช้มือเลื่อนปลดกระดุมบนกางเกงตัวยาว ร่างสูงกัดฟันแน่นเพื่อข่มเสียงครางเอาไว้ เขานึกชอบยามเมื่อมือเล็กบางคู่นั้นลูบไล้คลึงอยู่บนความเป็นชายที่เริ่มก่อตัวแข็งขืนอยู่ภายในกางเกง จากนั้นคนตัวเล็กจึงปลดผ้าชิ้นนั้นเพื่อให้พ้นจากร่างกายกำยำของอีกฝ่าย
ร่างบางหยุดนิ่ง เขาควรจะสัมผัสส่วนนั้นของจินไหม ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาหลับนอนด้วยกันมันมีบางอย่างแตกต่างไปบ้างเล็กน้อย ตอนนั้นเขาทำตัวกล้า ไม่กลัวเกรง เพราะเวลานั้นเขาไม่มีสิ่งใดจะต้องเสียอีกแล้ว
แต่จินบอกว่าจินชอบนี่น่า
คาเมะวางมือบนอกกว้างอย่างกลัวๆกล้าๆ ปล่อยให้มือบางของตนได้คลึงเคล้าบนผ้าพันแผล และผิวเนื้อช่วงอก ก่อนที่จะหยุดมือตรงช่วงหว่างขาของร่างสูง
จินคราง มือหนาช้อนคางมนของคนตัวเล็กขึ้นรับจูบอันหนักหน่วง คาเมะพยายามไล่ตามจังหวะจูบอันหนักหน่วงของจินให้ทัน ขณะเดียวกับที่ต้องใช้สมาธิกับมือที่ลูบอยู่บนส่วนที่แข็งขืน เขานึกชอบยามที่เสียงครางของจินสั่นพริ้วต้านเรียวปากของเขา ร่างบางเลื่อนนิ้วเรียวลงไปตามช่วงเอวที่ยังคงมีกางเกงชั้นในขวางกั้นอยู่
จินรีบร้อนช่วยอีกฝ่ายเลื่อนปราการชิ้นสุดท้ายให้หลุดจากร่าง ช่วงนาทีนั้นเองที่ร่างสูงใช้มือคว้าหมับไปยังช่วงสะโพกผายเพื่อดึงร่างเล็กให้เข้ามาใกล้ อาการนั้นทำให้คาเมะต้องใช้มือโอบไปยังไหล่กว้างเป็นการช่วยพยุงตัว แก้มบางเริ่มแดงระเรื่อเมื่ออยู่ในท่วงท่าที่เขาอ้าขาแผ่อยู่บนตักกว้าง แม้จะยังคงสวมใส่เสื้อผ้าอยู่ครบส่วน.....แต่ส่วนที่กำลังตื่นตัวเต็มที่ของจินนั้นเปล่าเปลือยอยู่ใต้สะโพกของเขา
แต่คาเมะไม่ต้องนึกห่วงเรื่องนั้นนานนัก เพราะเพียงไม่นานมือข้างที่รู้แน่ๆว่าไม่ใช่มือของเขากำลังเคลื่อนตัวจากสะโพกผายไปยังใต้กระโปรง รั้งชุดชั้นในที่ร่างบางใส่อยู่ มือหนาเหนี่ยวรั้งขอบกางเกงตัวเล็กให้ไปนอนอยู่บนพื้นด้วยทีท่าเย้าแหย่
ตอนนี้เองที่คาเมะเริ่มรู้ตัวว่าทั้งตัวนั้นเหลือเพียงชุดตัวบางเท่านั้น เขาเข้าใจในทันทีว่าจินต้องการอะไร อีกฝ่ายมักจะชอบเล่นรักในรูปแบบใหม่ๆอยู่เสมอ บางทีจินอาจจะอยากให้เขาสวมใส่ชุดนางพยาบาลตลอดในช่วงที่มีอะไรกัน แบบนี้แล้วเขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิงเลยก็ว่าได้
ถึงอย่างนั้น...คาเมะก็อดคิดไม่ได้ว่า..จินจะคิดว่าเขาเหมือนผู้หญิงไหม สายตาของร่างบางเหลือบมองต่ำไปที่อกของตน กระดุมเสื้อที่อยู่บนสุดโดนปลดเผยให้เห็นผิวนุ่มเนียนอยู่รำไร คาเมะรนรานใช้มือกลัดกระดุมเข้าที่เดิม
เขาไม่มีหน้าอกหน้าใจ ...แต่อย่างน้อยการที่ใส่เสื้อเอาไว้ก็พอเหลือที่ให้จินตนาการได้บ้าง ดีกว่าที่จะเผยให้เห็นอกบางๆนี้จนหมดสิ้น เมื่อมือเล็กเลื่อนไปเพื่อจะกลัดกระดุมเม็ดสุดท้าย มือหนาของจินก็วางประกบในทันใด
“นายทำอะไรน่ะ” จินหัวเราะหึๆ “ อย่าบอกนะว่านายเปลี่ยนใจเรื่องที่จะนอนกับชั้นน่ะ ชั้นสัญญาว่าจะค่อยเป็นค่อยไป”
“มะ ไม่ใช่นะ ชั้นก็แค่...” คาเมะเปิดปากจะพูด แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะอธิบายเรื่องนี้ได้อย่างไร รับรู้อีกที่ก็ต่อเมื่อมือหนานำพามือบางกลับไปยังเม็ดกระดุมที่ร่างบางกลัดคืนเอาไว้ เพื่อที่จะปลดกระดุมนั้นออกอีกครั้ง จากนั้นจึงค่อยเลื่อนต่ำลงไป จนร่างสูงสามารถปลดชุดทั้งชุดออกไปให้พ้นจากร่างของคาเมะ
“ชั้นคิดว่า...นายอยากให้ชั้นใส่ไว้ซะอีก” ร่างบางตอบไม่ได้มองกลับมาที่จิน แต่กลับมองไปยังชุดที่กองอยู่ที่พื้นแทน
“ชั้นชอบชุดเพราะมันสนุกก็ตอนที่ได้ถอดออกนี่แหล่ะ แต่ตอนนี้ก็ไม่ต้องใช้มันแล้ว ชั้นว่าชั้นบอกนายไปแล้วไม่ใช่หรือว่าชั้นอยากได้นาย..ที่เป็นคาเมะ....บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าคืนนี้เราจะเป็นจินและคาเมะ” จินตอบ อีกฝ่ายก็ต้องนึกแปลกใจเมื่อได้ช้อนตาขึ้นมองแล้วเห็นแววตาอันรื่นรมณ์ของจินมองกลับมา
“แต่ถ้านายอยากเล่นเป็นนางพยาบาลบ้างสักคืน แล้วอยากใส่มันไว้ตลอดเลยฉันก็ยินดีนะ...ถ้านายอยากใส่ตลอดฉันก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดนะ” ร่างสูงพูดต่อ คนตัวเล็กก็ยิ่งงงเพราะไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายอยากจะบอกอะไรเขากันแน่ “โอเค...ก็ชั้นไม่รู้นี่ว่าจะพยายามห้ามใจไม่ปลดมันออกจากตัวนายได้เปล่า” สุดท้ายจินก็สารภาพออกมา ก่อนจะรั้งคนตัวเล็กมาแนบร่าง “ชั้นชอบความรู้สึกแบบนี้มากกว่านี่”
รอยยิ้มนิดๆค่อยๆแผ่ขยายทั่วริมฝีปากบางจากที่กำลังนั่งเนื้อตัวเปลือยเปล่าอยู่บนร่างกำยำ คนตัวเล็กโน้มศีรษะลงตรงซอกคอของจิน เขาก็ชอบความรู้สึกแบบนี้มากๆด้วย ในใจนึกอยากจะดึงผ้าพันแผลนี้ออกเพื่อจะได้สัมผัสอกแกร่งเปลือยเปล่าแนบกับผิวเนื้อของเขา เนื้อแนบเนื้อ....
เรียวนิ้วลูบไล้ลงไปตามแนวกระดูกไขสันหลังอันเปลือยเปล่าของคนตัวเล็ก ทำให้คนที่นั่งอยู่บนตักแทบอยากจะเปล่งเสียงครางแห่งความสุขออกมา เพียงแค่สัมผัสเดียวก็ทำให้ร่างเล็กสั่นระริกไหวได้อย่างน่าสุขใจ นิ้วเรียวเริ่มไล้จากลำคอระหงอีกครั้ง ทำทีหยอกเย้าอยู่นิดๆเหมือนไม่รีบร้อนที่จะไล้ต่ำลงไปยังตำแหน่งเดิมอีกเป็นครั้งที่สอง ต่อเมื่อได้ไล้ระเรื่อยลงมาตามแนวหลังลงไปยังตำแหน่งที่ต่ำสุด คาเมะก็คิดว่านิ้วนั้นคงจะหยุด ไม่ยอมไปต่อเหมือนที่เคยทำมา แต่ก็ต้องนึกแปลกใจเมื่อนิ้วเรียวของจินไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น แล้วเมื่อเรียวนิ้วยาวของจินหายลับเข้าภายใต้ร่มผ้า ร่างบางก็เปล่งเสียงร้องครางหวานหูออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
คาเมะใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะกลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง ร่างบางเกี่ยวรั้งร่างกำยำของอีกฝ่ายเพื่อช่วยในการทรงตัว
“ทำตัวตามสบาย ชั้นจะช่วยนายเองนะ” จินพึมพำบอกอยู่ข้างใบหู ก่อนจะสอดนิ้วเข้าไปภายในร่างบาง สัมผัสผนังเนื้อยืดหยุ่นภายใน คนตัวเล็กเองก็แทบจะนั่งไม่ติดที่
“อย่าบิดไปมาสิ” ร่างบางได้ยินจินพูดพลางหัวเราะคิกคักอยู่ข้างใบหู คาเมะจึงได้แต่ฝังหน้ากับไหล่กว้าง จินไม่เคยสัมผัสเขาแบบนี้มาก่อน มันน่าแปลกที่แม้เมื่อจินลองท่าทีใหม่ๆกับเขา ร่างบางก็ยังคงสนองตอบจินได้อย่างน่าอายเหมือนเช่นเคย ทำไมเขายังคงเขินอายแล้วทำท่าเหมือนมันเป็นครั้งแรกที่มีอะไรกันยังงั้นล่ะ
“ทำแบบนี้แล้วนายจะได้ไม่เจ็บตอนที่มีอะไรกัน” เพื่อนร่วมห้องพูดเสริม ก่อนจะถอนนิ้วออกไป แล้วใส่กลับเข้ามาอีกเป็นสองนิ้ว ร่างบางเหนี่ยวแขนยึดตัวจินไว้อย่างหนาแน่นเมื่อนิ้วทั้งสองเริ่มขยับหมุนวนอยู่ภายในช่องทางคับแคบ ก่อนที่อีกฝ่ายจะสอดนิ้ววนเข้าไปให้ลึกที่สุดเท่าที่จะลึกได้
“จะ จิน” ร่างบางก็ชักไม่แน่ใจว่าตัวเขานั้นอยากให้จินหยุดหรือทำต่อกันแน่
continue here ยังไม่จบคะ อ่านต่อตรงนี้คะ