Fiction : "If no us tomorrow..."
Pairing : MinJae
ผมเดินวนไปวนมาในห้องน้ำอยู่นาน
พื้นที่ไม่มากนักทำให้ผมรู้สึกว่าไม่มีอิสระและคิดอะไรไม่ออก
แต่ครั้นจะออกไป... ผมก็..ทั้งเกร็ง ทั้งตื่นเต้น
นี่ผมบ้าไปแล้วใช่ไหม??
อีกอย่าง... สีหน้าของพี่แจจุงดูไม่ดีเอาเสียเลย
ตอนที่ผมเดินออกจากห้องน้ำ
ผมสังเกตเห็น...อาการเลื่อนลอย
เมื่อก่อนพี่แจจุงไม่เคยเป็นแบบนี้
คงเพราะ...ผู้หญิงคนนั้น
ผมเป็นห่วงพี่เหลือเกิน
จำได้ว่าห่วงจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เมื่อรู้เรื่องจากปากพี่ยุนโฮ
ถึงมันจะผ่านมานานแล้วก็เถอะ... ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฏาคมปีที่แล้ว
พี่แจจุงใช้เวลาสองเดือนในการตัดใจ พอย่างเดือนที่สามก็ไปเรียนต่อเมืองนอก
วันนี้ที่พี่กลับมา... วันนี้ที่ผมเฝ้ารอ
พี่ยังไม่ดีขึ้นเลย...อย่างนั้นซินะ
"ชางมินนนนน เปลี่ยนเสื้อถึงไหนแล้ว"
เจ้าของบ้านท้วงถามเมื่อเห็นว่าผมหายไปนาน
ผมกุลีกุจอพรวดพราดออกมา ชนเข้าจังกับคนที่ยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ
ผมโอบเอวพี่แจจุงเอาไว้ เพราะกลัวว่าเขาจะหงายหลังตึงลงไป
แต่เพราะอารามตกใจ พี่แจจุงจึงคว้าเสื้อของผมเอาไว้แน่น
แน่นอนว่ามันไม่ได้ช่วยให้เราสองคนทรงตัวได้ดีขึ้นเลย
ผลที่เกิดตามมาคือภาพของผู้ชายสองคนที่พากันล้มลงไปกองกับพื้นกระเบื้อง
กลิ่นหอมแบบผู้ชาย กลิ่นตัวของพี่แจจุง
กระตุกให้ผมแทบคลั่ง
ใต้ร่างผม คือ...คนที่งดงามที่สุดที่ผมเคยเจอะเจอมา
แต่เขาไม่ใช่คนที่ผมจะยืดอกพูดได้ว่า ผมรักเขา
ผมสะบัดหน้าหนีก่อนจะยกตัวขึ้นนั่งห่างๆ
ขณะที่พี่แจจุงยันตัวลุกขึ้นยืน
เขาขำออกมาอย่างสบายอารมณ์...
ทั้งที่ผมกลั้นใจแทบบ้า
ผมเกลียดอะไรแบบนี้ที่สุดเลย
ความเป็นไปไม่ได้ที่ผมยังดันทุรังในโลกของผม
สุดท้าย...มันก็เจ็บเท่านั้นไม่ใช่หรือ
"เจ็บไหม?" พี่แจจุงรี่เข้ามาดูอาการ สองมือยกแขนยกขาผมเป็นการใหญ่
สำรวจบนตัวผมอยู่พักหนึ่ง แล้วก็เงยหน้าขึ้นมาจ้องผม
เหมือนที่เคย...ผมเลี่ยงสายตาอบอุ่นนั่นด้วยการมองเสไปข้างๆ
มืออุ่นๆ แตะลงบนหน้าผากผม
บริเวณนั้นร้อนวูบขึ้นมาทันที
ผมเม้มปากแน่น แล้วค่อยๆ ชำเลืองมองคนตรงหน้า
"หัวกระแทกแน่เลย บวมซะขนาดนี้"
ผมตะปบมือลงบนจุดเดียวกันกับที่พี่แจจุงเพิ่งละมือออก
หน้าผากผมนูนปูดออกมา ตอนนั้นแหละที่ผมเพิ่งรู้สึกตัวว่าเจ็บ
สงสัยผมคงโดนร่ายเวทย์เข้าให้ ถึงได้ตกอยู่ในภวังค์ใหลหลงจนลืมทุกความรู้สึก
"เอ้ยยย เป็นอะไรไปน่ะเรา?"
ผมกระพริบตาถี่ๆ เห็นหน้าของคนอีกคนมัวลงไป
ขนตางอนยาวของผมกลับชุ่มด้วยน้ำใส
ผมสงสัยว่าผมเช็ดหัวไม่แห้งหรืออย่างไร ถึงมีน้ำไหลมาเกาะที่ขนตาได้
"เจ็บหรอ หรือเป็นอะไรมากกว่านี้ ร้องไห้ทำไม???"
ผมยกมือขึ้นป้ายที่ขอบตาทันใดที่จบประโยคนั้น
ผมร้องไห้จริงๆ ด้วย...
"เปล่าๆๆ ผมไม่รู้เหมือนกัน" ผมกล่าวเสียงตะกุกตะกักเมื่อเห็นสีหน้าไม่สบายใจของพี่ชาย
พี่แจจุงขมวดคิ้วบาง ก่อนจะเอ่ยขอโทษ
ขอโทษผมทำไม... ผมต่างหากที่วิ่งชนพี่...
ผมผิดเอง...
ผิดทั้งหมด ผิดตั้งแต่แรก
ผิดที่ห้ามตัวเองไม่ได้ ผิดที่ผมเผลอใจไปรักพี่
ผมร้องไห้...
เพราะยิ่งใกล้
ก็เหมือนต้องวิ่งให้ห่างพี่ออกไปทุกทีๆ
***************************************************************************
"หิวหรือยัง? ใกล้จะเสร็จแล้ว" ผมตะโกนถามแข่งกับเสียงทีวีในห้องรับแขก
น้องชายตัวสูงของผมหันขวับมาที่ผม ก่อนจะยิ้มแป้นแล้วตอบว่ายังไงก็รอได้
ผมสบายใจขึ้นเมื่อเจ้าเด็กคนนั้นเลิกร้องไห้
และโล่งใจมากขึ้นที่เห็นรอยยิ้มกว้างอีกหนเมื่อผมบอกว่าจะทำกับข้าวให้กินทีบ้านแทน...ชดเชยที่จะพาไปเลี้ยงวันนี้
แต่ยังก็อดแปลกใจไม่ได้ แววตาของชางมินที่ผมเห็นทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีบางอย่างที่ต่างไป
ชางมินวันนี้...ไม่เหมือนชางมินที่ผมรู้จัก
ทั้งที่เราไม่เจอกันแค่สามเดือนเท่านั้นเอง
เวลาที่พ้นผ่าน... ผมรู้ว่าอะไรๆ ก็ย่อมเปลี่ยนไป
แต่ผมก็อยากขอแค่บางสิ่งยังคงเหมือนเดิม
ผม..คนที่ไม่เคยรู้จักคำว่าครอบครัว
พยายามทำตัวเองให้อบอุ่น เพื่อปกปิดความอ้างว้างในใจ
พยายามมอบความจริงใจให้คนสำคัญ
เพื่อหวังแค่ว่าวันที่ผมต้องอยู่เพียงลำพังจะไม่มีอีกแล้ว
แต่มันก็เท่านั้น...
พยายามไปก็แค่นั้น......
ผมไม่อยากเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว
ต่อให้ผมโตแค่ไหน เด็ดเดี่ยวเพียงใด
ผมก็มีสิ่งที่ผมกลัวเหมือนกัน...
ผมคงเห็นแก่ตัวมากเลยซินะ
TBC...
.
.
.
.