:::::Good Birthday::::: (Middle part)

Dec 08, 2008 00:50

สวัสดีค่ะ ยังจำฟิคเรื่อง Good Birthdayกันได้อยู่ไหมคะเนี่ย คนเขียนเอาไปใส่ไหดองฝังดินดองเอาไว้เกือบห้าเดือน วันนี้ฤกษ์ดี คนเขียนประชดชีวิตทุบไหดองตัวเองเล่น รับพาร์ทกลางไปก่อนเลยค่ะ แล้วคราวหน้าจะส่งพาร์ทจบมาต่อนะคะ

เรื่องสั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้น NC-17 โปรดใช้วิจารญาณในการอ่าน หากท่านรับไม่ได้กรุณาอย่าคลิกต่อค่ะ

เหมือนเดิมค่ะ ก่อนอ่านฟิคเรื่องนี้กรุณาบิวท์อารมณ์ด้วยเพลง 16s หรือไม่ก็ดูรูปกิฟท์นี้แล้วจิ้นตามไปพลางๆ นะคะ


http://i236.photobucket.com/albums/ff55/reeya_areeya/anigif.gif

(SF):::::Good Birthday::::: (Middle part)

Paring (Jin x Kame)

Author:::::Reeya:::::

“จิน ถึงหรือยัง เมื่อไหร่ฉันเปิดผ้าผูกตานี่ออกได้” คาเมะซึ่งถูกปิดตาโดยมีคนรักโอบประคองให้เดินไปข้างหน้าเอ่ยถามขึ้น เมื่อได้ยินเสียงจินเหมือนกำลังไขกุญแจอะไรสักอย่าง คงจะเป็นกุญแจห้องพักของพวกเขาในคอนโดนี่เอง

“รออีกนิดนะคาเมะ นั่งรอจินอยู่ตรงนี้แป๊บ ห้ามขี้โกงแอบเปิดผ้าก่อนจินกลับมานะ” คนตัวสูงกระซิบข้างหูร่างบางในอ้อมกอด ก่อนจะแอบสูดกลิ่นหอมกรุ่นจากคนตัวเล็ก และอดไม่ได้ที่หอมแก้มเบาๆ หนึ่งที จนผิวแก้มขาวใสในคราแรกกลายเป็นสีชมพูระเรื่อ จึงยอมพาคาเมะไปนั่งปุลงบนโซฟาตัวหรู ก่อนที่จินจะวิ่งหายไปอย่างรวดเร็ว

คาเมะนั่งรออย่างใจจดใจจ่อไม่รู้ว่าคนรักของเขาวางแผนทำอะไรเอาไว้สำหรับคืนนี้ หลายครั้งแล้วที่ จินชอบวางแผนทำอะไรให้เขาประหลาดใจเล่นอยู่เสมอ ดูอย่างเมื่อวันเกิดเขาที่ผ่านมาสิ จินก็วางแผนเซอร์ไพรส์เขาด้วยการแกล้งทำเป็นคนร้ายมาฉุดเขากลางสวนสาธารณะ ตอนนั้นทำเขาเกือบจะหัวใจวายตาย

คนรักของเขาเนี่ย เจ้าเล่ห์เป็นที่หนึ่ง ขนาดเขาแกล้งดุ แกล้งปรามเป็นการตัดไม้ข่มนามไว้ก่อนแล้วนะ จินยังออกลวดลายแพรวพราวขนาดนี้ ถ้าเขาไม่คอยปรามไว้บ้าง จินคงออกฤทธิ์ออกเดชกว่านี้หลายสิบเท่า เขารู้ดีว่าคนอย่าง อาคานิชิ จินไม่เคยเกรงกลัวหรือยอมลงให้ใคร แต่หลายครั้งที่จินยอมอ่อนข้อให้กับเขาในหลายๆ เรื่อง เป็นเพราะว่าจินรักเขา

เพราะรู้ว่าจินรักเขาสุดหัวใจ และเขาเองก็รักจินไม่น้อยไปกว่ากัน ทำให้เขายอมให้อภัยกับความเจ้าเล่ห์เล็กๆ น้อยของจิน ขอย้ำไว้เลยว่าที่เขาที่ยอมให้อภัยจินไม่ใช่ว่าเพราะเขาโง่จนเสียรู้ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของอีกฝ่าย แต่เป็นเพราะรักมาก จึงยอมให้อภัยหรือแกล้งทำเป็นรู้ไม่เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของคนรัก

เสียงกุกกักที่ดังแว่วมาจากส่วนที่กั้นไว้เป็นห้องครัว ทำให้คนตัวเล็กคาดเดาได้ว่า จินคงกำลังวุ่นกับการจัดเตรียมลำเลียงอาหารออกมาจากครัว คงจะจัดอาหารสุดหรู สำหรับดินเนอร์ใต้แสงเทียนกับเขาสินะ

คาเมะแอบยิ้มออกมาเมื่อเริ่มเดาได้ว่าคนรักของตัวเองกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ คนตัวเล็กแอบขำกับตัวเองไม่ได้ว่า ทั้งๆ ที่เป็นวันเกิดของจินแท้ๆ แต่เจ้าของวันเกิดกลับต้องมาเป็นฝ่ายเตรียมสถานที่และอาหารสำหรับฉลองวันเกิดของตัวเอง แทนที่เขาซึ่งเป็นคนรักจะเป็นฝ่ายเตรียมจัดงานฉลองวันเกิดให้จิน

เหตุผลที่คาเมะไม่ได้เตรียมจัดงานฉลองวันเกิดให้จินด้วยตัวเอง เป็นเพราะเขารู้ดีอยู่แล้ว ว่าคนช่างวางแผนอย่างจิน ไม่พลาดที่จะเตรียมงานฉลองวันเกิดตัวเองไว้อยู่แล้ว ขืนเขาคิดวางแผนเตรียมงานไว้อีกคน งานได้ชนกันแล้วเกิดเป็นเรื่องราวทะเลาะกันให้เสียอารมณ์เปล่าๆ ในเมื่อจินชอบจัดเตรียมวางแผนเป็นพ่องานเช่นนี้ คนรักอย่างเขาเลยขอมอบหน้าที่ให้อีกฝ่ายไปเลยแล้วกัน ส่วนตัวเขานั้นขอเอาเวลาไปหาของขวัญชิ้นพิเศษมาเซอร์ไพรส์จินเสียยังดีกว่า

ว่าแต่ของขวัญวันเกิดที่เขาเตรียมไว้เซอร์ไพรส์จินเนี่ย คืนนี้เขาจะมีโอกาสมอบให้จินหรือเปล่านะ ไม่รู้เหมือนกันว่าจินจะหอบถุงกระดาษที่เขาหิ้วมาจากบ้านออกมาจากรถหรือเปล่า ในนั้นมันคือของขวัญที่ตัวเขาอุตส่าห์สั่งให้ยูยะน้องชายของเขาไปหามาให้ จนเป็นต้นเหตุให้เขาต้องกลับไปนอนค้างที่บ้านเพื่อไปรับเจ้าสิ่งนี้มาเพื่อจินโดยเฉพาะ แต่สงสัยคงจะโดนลืมทิ้งไว้ในรถเสียแล้ว

ช่างเถอะ! ถ้าจินลืมไว้ในรถก็แล้วไป ยังไงตัวเขาก็มีของขวัญจะมอบให้จินอยู่ดี ถึงมันจะไม่ฟูลคอร์สเต็มอ็อพชั่นเต็มที่เหมือนอย่างที่เขาตั้งใจไว้แต่แรกก็ตาม เขาชินอยู่แล้วล่ะกับการที่ต้องทำอะไรผิดแผนกับที่วางเอาไว้แต่แรก เพราะเป็นเรื่องปกติแล้วที่เขาถูกจินตัดหน้าทำเซอร์ไพรส์แบบไม่ทันตั้งตัวเสียก่อน

ดังนั้นเมื่อแผนเอ ไม่ได้ผล คนตัวเล็กจึงต้องใช้แผนบี แผนสำรองเอามาใช้แทน

ขณะที่คาเมะกำลังปล่อยความคิดถึงของขวัญวันเกิดที่เตรียมไว้ เบาะโซฟาที่เขานั่งอยู่ก็ยุบยวบลงพร้อมกับร่างเล็กของเขาถูกโอบกอด ตามมาด้วยลมหายใจอุ่นที่รินรดและริมฝีปากร้อนที่วนเวียนอยู่ข้างแก้มใส ก่อนจะไปหยุดอยู่ข้างๆ ใบหูเป่าลมร้อนออกมาเบาๆ

“เสร็จแล้วครับคาเมะ รอจินนานไหม” เจ้าของวันเกิดเอ่ยถามคนรักที่นั่งรออย่างสงบ น้ำเสียงของจินเต็มไปด้วยความสุข ที่ได้จัดเตรียมงานฉลองให้กับพวกเขาสองคน

จินยิ้มด้วยความอิ่มเอมใจ เมื่อก้มมองดูใบหน้าหวานที่เอนซบอยู่กับแผ่นอกของเขา วันเกิดของเขาปีนี้ เขาไม่ต้องการอะไรมากมายเลย จินไม่ต้องการให้ทุกคนมาจัดงานปาร์ตี้ฉลองให้กับเขา ถึงแม้คาเมะจะหลงลืมจดจำวันเกิดเขาไม่ได้ และไม่ได้เตรียมของขวัญวันเกิดให้เขาเลย แต่สำหรับจินยังคงคิดว่าวันเกิดปีนี้ เป็นวันเกิดที่ยอดเยี่ยมวิเศษที่สุดของเขา เพียงแค่มีคาเมะมาข้างกายวันไหนๆ ก็กลายเป็นวันที่พิเศษของเขาไปแล้ว

จินจะไม่น้อยใจเลยสักนิด หากปีหน้า หรือทุกๆปีต่อไปในอนาคต คนรักของเขาจะยังจำวันเกิดของเขาไม่ได้ เพราะถึงคาเมะจะไม่ได้จดจำเรื่องเล็กๆ น้อยพวกนี้ เขาจะขอทำหน้าที่เป็นฝ่ายจดจำและคอยจัดเตรียมปาร์ตี้งานวันเกิดให้ทั้งงานวันเกิดของคาเมะและของตัวเขาเอง ไปอย่างนี้ทุกปี

มือเรียวค่อยๆ แกะผ้าผูกตาของคนรักออก พร้อมกับกระซิบข้างหูคาเมะเบาๆ

“ลืมตาได้แล้วที่รัก”

คนตัวเล็กค่อยๆ ลืมตามาอย่างช้าๆ สิ่งแรกที่คาเมะรู้สึกได้คือความมืดสลัวผิดปกติเพราะในห้องไม่ได้เปิดไฟ มีเพียงแสงสว่างเล็กน้อย จากเชิงเทียนสีเงินบนโต๊ะเล็กตรงหน้าเขา

ภาพที่เห็นตรงหน้า ไม่ต่างจากที่คาเมะคาดเดาเอาไว้ในใจมากนัก แสงสลัวจากเชิงเทียนทำให้เขามองเห็นดอกกุหลาบขาวช่อใหญ่ที่ประดับประดาอยู่บนโต๊ะ อีกมุมหนึ่งมีขนมเค้กขนาดสองปอนด์ และสปาเก็ตตี้สองจานที่จัดวางไว้อย่างสวยงามส่งกลิ่นหอมชวนให้น้ำลายสออยู่ตรงหน้า

คาเมะอมยิ้มกับสิ่งที่จินซุ่มเตรียมเอาไว้เนื่องในโอกาสพิเศษ เพียงเท่านี้เขาก็รู้แล้วว่าจินตั้งใจแค่ไหนกับการฉลองครั้งนี้ หากเขาไม่ยอมกลับมาฉลองร่วมกับจิน คนตัวโตที่ลงทุนเตรียมงานคงรู้สึกน้อยใจ ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันเกิดของอีกฝ่าย แต่เจ้าของวันเกิดกลับต้องมาเตรียมงานฉลองวันเกิดให้ตัวเอง จะมีใครบ้างหนอที่ต้องทำเช่นนี้ในวันเกิด นอกจากอคานิชิ จิน

ถึงจะเป็นเช่นนั้น จินก็ไม่เคยปริปากบ่น หรือแสดงความน้อยใจ ที่ถูกเขาแกล้งทำเป็นลืมจำวันเกิดคนรักไม่ได้ จินยังคงยิ้มออกมาได้แถมยังจัดเตรียมงานฉลองด้วยตัวเองอีก

คาเมะยื่นมือไปหยิบไฟแช็คที่วางซ่อนอยู่บนโต๊ะ มาจุดเทียนที่วางเรียงรายอยู่บนขนมเค้กอย่างรู้หน้าที่ คนตัวเล็กรู้ดีว่าจินเตรียมของไว้ครบทุกอย่างแต่กลับไม่ยอมจุดเทียนบนขนมเค้ก เพราะอีกฝ่ายจงใจรอให้เขาเป็นคนจุดเทียนแล้วส่งขนมเค้กให้เจ้าของวันเกิดอธิษฐานขอพร

เมื่อจุดเทียนเรียบร้อยคาเมะค่อยๆ ยกขนมเค้กขึ้นมาพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้คนรัก มือบางๆ ยื่นก้อนขนมเค้กไปตรงหน้าคนรักพร้อมกับคำอวยพร

“สุขสันต์วันเกิดนะจิน ขอโทษด้วยที่ฉันไม่ได้เตรียมอะไรไว้ให้จินเลย” พูดจบคนตัวเล็กก็แกล้งตีหน้าเศร้าเพื่อให้สมกับบทบาทคนจำวันเกิดแฟนตัวเองไม่ได้

แต่สาบานได้เลยนะ ให้ฟ้าดินเป็นพยาน เขาไม่ได้ลืมวันเกิดของจินเสียหน่อย แค่แกล้งทำเป็นลืมเพื่อแก้เผ็ดคนรักที่กล้ามาแกล้งให้เขาใจหายใจคว่ำแทบตายในวันเกิดของเขาที่ผ่านมาเมื่อประมาณสี่เดือนก่อนต่างหาก

“ไม่ต้องขอโทษหรอกคาเมะ แค่คืนนี้คาเมะมาฉลองวันเกิดกับจิน จินก็พอใจแล้วล่ะ” เจ้าของวันเกิดรีบปลอบเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าของคนรัก มือหนาค่อยไล้ข้างแก้มนวลเนียนก่อนจะพยายามเข้าไปสูดดมความหอมของแก้มขาวอมชมพูอีกรอบ แต่ก็มีเสียงกระแอมขัดจังหวะจากเจ้าของแก้มเสียก่อน

“จิน...” ส่งเสียงดุออกมาก่อนที่คาเมะจะนึกได้ว่าวันนี้วันเกิดของคนรัก ยกโทษให้สักวันแล้วกัน คนอะไรก็ไม่หื่นไม่มีเว้น เผลอแป๊บเดียวก็เข้ามาจู่โจมแบบไม่ทันให้ตั้งตัวเลย ดูสิเป็นวันเกิดของตัวเองแท้ๆ ยังไม่ลดละดีกรีความหื่นลงสักนิด เมื่อคิดได้ดังนี้ ร่างบางก็ได้แต่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของคนรัก

ไอ้เซอร์ไพรส์ที่เขาอุบเอาไว้เป็นของขวัญวันเกิดจินนี่มันน่าจะงดดีไหมเนี่ย เขากลัวเหลือเกิน ถ้าทำตามแผนเดิมไปแล้ว จินจะได้ใจเพิ่มดีกรีความหื่นมากกว่าเดิมกำลังสอง ทุกวันนี้เขาก็ช้ำไปหมดทั้งตัวแล้ว ถ้าหากคนรักของเขาเพิ่มดีกรีความหื่นมากไปกว่านี้ล่ะก็ ไอ้รอยแดงๆ ทั่วตัวเขามันคงกลายเป็นรอยถาวรที่ไม่มีวันจางอย่างแน่นอน

ใครว่าเกิดเป็นคนรักของอาคานิชิ จินนะสบาย ไม่มีเรื่องทุกข์ร้อน ไม่ได้มาเป็นตัวเขา คงไม่รู้กันหรอกนะว่า ถ้าไม่ใช่เต่าพันธุ์ฮึดอย่างคาเมนาชิ คาซึยะล่ะก็ รับมือต่อกรกับจินไม่ไหวหรอก

คนตัวเล็กรีบปรับสีหน้าก่อนจะรีบยื่นเค้กเข้าไปใกล้ๆ ใบหน้าที่แสนหล่อเหลาของคนรักอีกครั้ง พร้อมกับเสียงออดอ้อนหวานหูที่ไม่ได้ฟังกันบ่อยนัก

“รีบขอพรแล้วเป่าเค้กกันเถอะจิน ดูสิเทียนเริ่มละลายแล้วนะ” คาเมะบอกเสียงใส ก่อนจะเริ่มร้องเพลงแฮปปี้เบริด์เดย์ให้คนรัก

“Happy Birthday To You…

Happy Birthday To You…

Happy Birthday… Happy Birthday…

Happy Birthday…To…You….”

ทันทีที่เสียงเพลงแฮปปี้เบริด์เดย์จากคนรักจบลง จินอธิษฐานขอพรแล้วเป่าเทียนบนเค้กอย่างรวดเร็วท่ามกลางรอยยิ้มของคาเมะที่มองกิริยาน่าเอ็นดูราวกับเด็กๆ ของจินอย่างไม่ให้คลาดสายตา

เจ้าของวันเกิดที่ก้มลงเป่าเทียน ค่อยๆ ช้อนสายตาขึ้นมาจากก้อนขนมเค้ก เพื่อสบตาเรียวสวยของร่างเล็กตรงหน้า เพื่อบอกความรู้สึกทั้งหมดในหัวใจผ่านทางสายตา

คาเมะจะรู้ไหมว่า พรวันเกิดที่จินอยากได้มากที่สุดและขอไปเมื่อครู่นี้ก็คือ ‘ขอให้คาเมะอยู่เคียงข้างกับเขาตลอดไป’ หวังว่าพรที่เขาขอไปนั้นคงจะสัมฤทธิ์ผล

สายตาของเจ้าของวันเกิดที่มองมา ทำให้คนตัวเล็กต้องเสหลบด้วยความเขินอาย เพราะสายตาที่จิน มองมานั้นสื่อความนัยทุกอย่างออกมาหมดสิ้น ดวงตาคมกริบคู่นั้นฉายแววที่บ่งบอกถึงความรัก ความชื่นชม ความต้องการเป็นเจ้าของ และต้องการปกป้องดูแลออกมาในคราวเดียวกัน

คาเมะรับรู้และแปลความนัยจากนัยน์ตาคู่นั้นออก จึงตกเป็นฝ่ายเขินอายแทนคนที่ขยันส่งสัญญาณมาให้

เมื่อเกิดความเขินอาย วิญญาณคาซึซิล่าเลยเข้าสิงคนตัวเล็ก ทำให้เจ้าตัวเกิดอาการองค์ลง รีบส่งถาดเค้กยัดใส่มือเจ้าของวันเกิดพร้อมกับส่งเสียงดุเป็นการตัดไม้ข่มนาม

“อย่ามัวชักช้าสิจิน รีบตัดเค้กเร็ว ฉันหิวแล้ว”

เมื่อได้รับคำสั่งจากคนรัก แทนที่คนตัวโตจะโกรธ แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น จินยิ้มรับอย่างเริงร่า ก่อนจะรีบตัดเค้กใส่จานเล็ก แล้วหันมาใช้ช้อนตักเค้กที่แต่งหน้าด้วยลูกเชอร์รี่พร้อมวิปครีมสีขาวนุ่มป้อนเข้าปากคนตัวเล็กทันที แต่คาเมะก็ไม่ยอมอ้าปากรับจนคนป้อนต้องประท้วงออกมา

“หิวไม่ใช่เหรอครับคาเมะ ทำไมไม่อ้าปากล่ะครับ หรือว่าเปลี่ยนใจไม่หิวแล้ว” ถึงจะประท้วงออกมาแต่คนประท้วงยังอารมณ์ดีสีหน้าระรื่น จนได้รับรางวัลเป็นค้อนวงใหญ่จากคนรักตัวเล็ก

คาเมะนึกหมั่นไส้รอยยิ้มละท่าทางระริกระรี้ของคนรักเหลือเกิน ดูสิเขาแค่ใช้ให้ตัดเค้ก แต่ดูพ่อคุณกลับแถมบริการเสริมพิเศษป้อนเค้กถึงปาก ไอ้บริการเสริมพวกนี้เขาก็ชอบอยู่หรอกนะ แต่ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะ ว่าหลังจากที่จินมีบริการเสริมพิเศษ เขาก็ต้องมีรางวัลตอบแทนจินกลับเป็นสองเท่าเช่นกัน

นี่เขายังเข็ดหนก่อนที่จินทำกับข้าวให้เขากินไม่หาย เขาต้องตอบแทนจินจนไข้ขึ้นไปทำงานไม่ได้ตั้งสองวัน ทำเอาเพื่อนๆ ร่วมวงที่รู้ความลับ แอบเอามาแขวะ ยกมาแซวเย้าแหย่เล่นเป็นประจำ

เขายังไม่อยากไข้ขึ้น ต้องนอนพักอยู่บนเตียงแบบครั้งนั้นอีกหรอกนะ

สายตาค้อนขวับจากดวงตาเรียวเล็ก เรียกรอยยิ้มให้กับคนให้บริการ ร่างสูงยังคงเริงร่าและเย้าแหย่คนรักต่อ

“ถ้าคาเมะไม่อยากกินจากช้อน จินจะหาวิธีป้อนแบบใหม่ที่น่าจะถูกใจคาเมะมากกว่าวิธีนะ”

อ๊าก! ดูคนรักของเขาสิเดี๋ยวนี้มีขู่ ไอ้วิธีป้อนแบบใหม่ของจิน มองดูจากลูกตาของอีกฝ่ายที่วิบวับเป็นประกายแบบนี้ มันไม่น่าจะเป็นการจับหน้าเขากดลงบนจานขนมเค้กแล้วบังคับให้กินหรอก มันคงเป็นการป้อนแบบส่งต่อปากต่อปากมากกว่า

ร่างเล็กนั่งคิดบวกลบถึงผลได้ผลเสียแล้วประมวลผลออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยอมอ้าปากเล็กๆ รับขนมเค้กที่อีกฝ่ายรอป้อนอย่างรวดเร็ว โดยไม่ลืมส่งสายตาดุๆ ปรามไม่ให้คนรักทำอะไรที่แผลงๆ มากไปกว่านี้

จินอมยิ้มกับท่าทีกระเง้ากระงอดของคนรัก มือหนาที่ป้อนเชอร์รี่และวิปครีมของโปรดของคาเมะจงใจป้อนให้วิปครีมเลอะติดอยู่ที่มุมปากของคนตัวเล็ก คราบครีมสีขาวที่มุมปากทำให้คาเมะน่าเอ็นดูราวกับเด็กๆ ที่ตระกละกลามเมื่อได้ลิ้มรสชาติหอมหวานของเค้ก

สายตาของจินที่จ้องมองมาที่ริมฝีปากบาง ทำให้เจ้าตัวรู้ตัวว่ามีวิปครีมติดอยู่ที่มุมปาก สัญชาติญาณทำให้ร่างบางรีบตวัดลิ้นเล็กๆ ออกมาเลียวิปครีมออกจากริมฝีปากบางแดงระเรื่อของตน

จินมองภาพที่แสนจะยั่วยวนโดยไม่เจตนาของคนรักอย่างหลงใหล สายตาของจินที่มองไปยังคาเมะบ่งบอกถึงต้องการและหลงใหลคนตัวเล็กโดยไม่คิดจะปิดบัง ขนาดอิริยาบถยามเผลอตัวที่เจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจ ยังปลุกเลือดในกายของเขาให้ร้อนรุ่มถึงเพียงนี้ หากคาเมะจงใจยั่วยวนมีหวังเขาได้ตายคาอกคนตัวเล็กเป็นแน่แท้

สายตาร้อนแรงของคนรักที่จ้องมาทำให้ร่างบางหยุดชะงัก ใบหน้านวลเนียนแดงก่ำไปด้วยเลือดฝาดเมื่อรู้ถึงความกระหายหิวของอีกฝ่าย

“คาเมะ...” ชายหนุ่มหลุดครางชื่อคนรักออกมาก่อนจะก้มลงมาใช้ลิ้นของตัวเองตวัดเลียไปที่ริมฝีปากบางซ้ำทับรอยที่คนตัวเล็กเพิ่งเลียไปเมื่อครู่ ส่งผลให้ร่างบางร้องครางประท้วงและนั่นการเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของคาเมะ เพราะกลับกลายเป็นการเปิดช่องว่างให้ลิ้นของจินรุกล้ำเข้าไปสำรวจในโพรงปากอย่างถนัดถนี่

จินเบียดบดริมฝีปากอวบอิ่มของตนลงกับริมฝีปากบางอย่างบ้าคลั่ง ยิ่งได้ลิ้มรสชาติความหอมหวานเขากลับต้องการมันมากขึ้น สำหรับเขาแล้วถึงจะได้ครอบครองความหอมหวานจากริมฝีปากบางนี้สักกี่ครั้ง มันก็ไม่เคยเพียงพอสำหรับเขา ยิ่งสัมผัสมากครั้งเขาก็ยิ่งหลงใหลคนตัวเล็กมากขึ้นทุกที

ทั้งสองคนแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม จานขนมเค้กในมือถูกวางทิ้งไว้บนโต๊ะตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ในเวลานี้ไม่มีอะไรสำคัญสำหรับจิน นอกจากร่างบางที่แสนเย้ายวนในอ้อมแขนของเขา

“อ๊า...” คาเมะหอบกระเส่าก่อนจะพยายามผลักไสร่างหนาของคนรักออกก่อนที่อารมณ์ของคนทั้งคู่จะเตลิดจนกู่ไม่กลับ นี่ยังเพิ่งหัวค่ำอยู่เอง ราตรีนี้ยังอีกยาวนาน และที่สำคัญเขายังไม่ทันให้ของขวัญวันเกิดจินเลย

“จิน...พอแค่นี้ก่อน...เรายังไม่ได้กินข้าวกันเลยนะ ฉันบอกแล้วไงว่าฉันหิว” ร่างบางเอ่ยห้ามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง พูดจบก็ก้มหน้างุดก่อนจะสะบัดหน้าที่แดงก่ำหนีไปอีกทาง

ท่าทางเขินอายของคนรักทำให้ชายหนุ่มยิ้มออกมา พร้อมกับยอมทำตามคำสั่งของคนตัวเล็ก ร่างหนาค่อยๆ คลายริมฝีปากและอ้อมแขนออก ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองก็ไม่อยากผละจากความหอมหวานของร่างบางเลยแม้แต่น้อย

“สัญญานะว่าทานข้าวเสร็จแล้ว จินจะได้ทานของหวานชิ้นนี้” จินใช้นิ้วจิ้มไปที่อกของคนรักเป็นการเจาะจงว่าของหวานชิ้นไหนที่เขาอยากลิ้มลอง

“ฮืม...” ร่างบางตอบรับพร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำกว่าเดิม ใบหน้าหวานที่ก้มต่ำอยู่แล้วแทบจะก้มลงชิดอกของตัวเอง

จินยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจกับความว่าง่ายของคนรัก ร่างสูงรีบดึงร่างคาเมะขึ้นมานั่งซ้อนอยู่บนตักพร้อมกับกอดเอวบางเอาไว้

“หยุดเดี๋ยวนี้จะจิน ไหนว่าจะกินข้าวกันก่อนไง ไม่กินข้าวก็อดของหวาน” คนตัวเล็กรีบต่อรองออกมาทันที ก่อนที่มือไม้ของคนรักจะยุ่มย่ามไปทั่วร่างเขามากกว่านี้

“ก็ขอกินข้าวเคล้าของหวานไม่ได้เหรอ น่านะ วันนี้วันเกิดจิน ตามใจจินหน่อยเถอะ” เจ้าของวันเกิดพยายามส่งสายตาออดอ้อนพร้อมกับซบหน้าลงกับบ่าบาง

น้ำเสียงออดอ้อนของจินทำให้คนตัวเล็กใจอ่อนจนได้ คาเมะจึงยอมนั่งนิ่งซ้อนอยู่บนตักให้อีกฝ่ายอิงซบแบ่งปันไออุ่นระหว่างร่างกายให้กันและกัน เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าคนรักไม่ขัดขืนหรือประท้วงออกมาแล้ว มือหนาที่โอบเอวบางไว้ในตอนแรกจึงยอมคลายออก แล้วเอื้อมไปหยิบจาน ก่อนจะใช้มืออีกข้างที่ว่างใช้ส้อมพันเส้นสปาเก็ตตี้ส่งเข้าปากของร่างบาง

คาเมะอ้าปากรับอาหารที่อีกฝ่ายป้อนแต่โดยดี พร้อมกับสบสายตาคมกริบที่มองมาด้วยความเสน่หา ร่างบางเอื้อมมาหยิบสปาเก็ตตี้อีกจานมาป้อนให้จินเป็นการตอบแทนบ้าง ชายหนุ่มยิ้มรับกิริยาที่น่ารักของคนรักก่อนจะอ้าปากรับอาหารที่คาเมะบรรจงป้อนกลับ

ทั้งคู่สลับกันป้อนอาหารอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนสปาเก็ตตี้ทั้งสองจานหมดอย่างไม่รู้ตัว

“ได้เวลาทานของหวานแล้วสินะ” เจ้าของวันเกิดรีบทวงสัญญาจากคนตัวเล็ก พร้อมกับก้มหน้าลงมาซุกไซร้ซอกคอขาวเนียนของคนรัก

“ฮืม...ใจเย็นๆสิจิน ขนมเค้กยังเหลืออีกตั้งเยอะ จะรีบไปไหนกัน ยังไงฉันก็ไม่หนีไปไหนหรอก” คาเมะพยายามข่มความอายพูดประโยคนี้ออกมา ก่อนจะผลักอกคนรักให้ออกห่างอย่างเบาๆ แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจด้วยลีลายั่วยวนที่เจ้าตัวไม่ได้ใช้บ่อยนัก

ถึงจะเป็นเรื่องน่าอับอายเพียงใด แต่ถ้าเป็นความสุขของคนที่เรารัก คาเมะก็พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อจินเสมอ

จินมองตามคนรักตาปรอย เหมือนตกอยู่ในมนต์เสน่ห์ของร่างบางตรงหน้า คาเมะเชิดหน้าขึ้นสูงด้วยพอใจกับปฏิกิริยาตอบสนองของอีกฝ่าย คนตัวเล็กส่งยิ้มยั่วเย้าก่อนจะก้มลงมากระซิบที่ข้างหูจิน

“จินนายเอาถุงที่ฉันเอามาจากบ้านเก็บไว้ที่ไหนกัน?”

ร่างสูงสะบัดศีรษะไล่อาการเคลิบเคลิ้ม ก่อนจะชี้มือไปที่ถุงกระดาษที่กองอยู่หน้าประตู พอเข้าห้องมาปุ๊บเขาก็วางมันทิ้งไว้ตรงนั้นจนลืมเสียสนิท

เมื่อเห็นของที่ตัวเองต้องการ คนตัวเล็กก็ให้รางวัลชายหนุ่มด้วยการหอมแก้มหนึ่งฟอด ก่อนจะกระซิบเบาๆ อีกครั้ง “ขอเวลาฉันเตรียมตัวสักสิบนาทีนะ ระว่างนี้จินก็นั่งทานเค้กไปพลางๆ แล้วกัน” พูดจบร่างบางก็หันมาขยิบตาก่อนจะเดินยักย้ายส่ายสะโพกไปหยิบถุงกระดาษใบโต แล้วเดินหายลับเข้าไปในห้องนอนของคนทั้งคู่

ประมาณสิบนาทีต่อมาเสียงเพลงก็บรรเลงออกมาจากเครื่องเสียงชั้นดีในห้องนอน พร้อมๆ กับร่างบางในชุดยูกาตะสีขาวลายดอกไม้สีม่วงเข้ม ค่อยๆ เยื้องย่างออกมาจากประตูห้องนอนท่ามกลางแสงเทียนอันมืดสลัว

สายตาของจินจับจ้องไปที่ร่างบางที่ออกมาแสดงโชว์ชุดพิเศษสำหรับเขาคนเดียวด้วยความพอใจ ชายหนุ่มวางจานเค้กในมือลง พร้อมกับใช้สมาธิทั้งหมดจดจำการเยื้องย่างทุกอย่างของคนรัก

”Arigatou” my special word for you
“ขอบคุณ” คำพูดคำพิเศษของผมสำหรับคุณ

Mottosobani iretanara mottowarai aetanoni
ถ้าเข้าไปอยู่ใกล้ได้มากกว่านี้ ทั้งที่อยากทำให้ยิ้มได้มากกว่านี้

Surechigaino kokorago setsunaku toikakeru
ถามคำถามที่ทำให้หัวใจที่สวนทางกันนั้นปวดร้าว

Namidade kasure takoe unakukikitore nakute
เสียงที่แหบพร่าเพราะน้ำตา จับข้อความไม่ได้

Jyuurokubyouno message nandomo kikikaeshita
ข้อความ 16 วินาที ฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่า

Yuudachiga asufarutotataite
สายฝนตอนบ่ายที่ตกกระทบพื้นถนน

Kakikesareta kotoba
ดังกลบข้อความไป

Anohini modorerunara mouichidodake
ถ้าหากย้อนหลับไปวันนั้นได้ แค่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น

Imawa mada tomadoukerego
ตอนนี้ยังงุนงงอยู่

Kimigainai kanoneyani
กับห้องที่ไม่มีเธออยู่

Dakedo sukoshi tsuyogarasete
แต่ก็เสแสร้งนิดเหน่อยว่าเข้มแข็ง

Kesenai itaminanteneisa
ไม่มีหรอกนะความเจ็บปวดที่ไม่ลบเลือน

Kiminiima tsutaetainosa
ที่อยากบอกเธอในตอนนี้

“Arigatou” my special word for you
“ขอบคุณ” คำพูดคำพิเศษของผมสำหรับคุณ

Dakaramou furikaerazuni
ดังนั้นจะไม่ย้อนกลับไปอีกแล้ว

Aroiteiku for tomorrow
ก้าวเดินต่อไปในวันพรุ่งนี้

ตลอดช่วงเวลาที่ร่างบางเต้นประกอบเพลงด้วยลีลายั่วยวนรอบกายเขา เหมือนอย่างที่คาเมะเคยแสดงอยู่บนเวที แต่ครั้งนี้มันกลับพิเศษกว่าที่ร่างบางจงใจเข้ามาเต้นวนเวียนรอบโซฟาที่เขานั่งอยู่พร้อมกับใช้มือลูบไล้ไปทั่วแผงอกของเขา ก่อนจะก้มลงมาใช้มือบางปัดสาบเสื้อยูกาตะที่สวมอยู่ของตัวเองออกไปด้านหนึ่ง แล้วเอียงด้านนั้นเข้าหาจิน อวดความขาวเนียนของไหล่บางให้เจ้าของวันเกิดมองอย่างเต็มตา และเมื่อเขาจะเอื้อมมือมารั้งเอวร่างบางเอาไว้ คนตัวเล็กกลับปัดออก แล้วเดินถอยไปนั่งบนโซฟาตรงกันข้าม ด้วยท่านั่งไขว่ห้างเตะขาสลับไปมาตามจังหวะเพลงด้วยลีลาเย้ายวนที่ทำให้ จินลุ่มหลงจนไม่อาจละสายตาจากภาพตรงหน้าได้

ท่าทางและลีลาของคาเมะปลุกเลือดหนุ่มในกายของเขาให้พลุ่งพล่าน โดยเฉพาะจังหวะที่เจ้าตัวนั่งไขว้ห้างตวัดสลับขาไปมา ช่วงจังหวะที่สลับขานั้นชายของชุดยูกาตะที่ร่างบางสวมใส่นั้นร่นแหวกขึ้นสูงจนปกปิดต้นขาขาวเนียนได้เพียงน้อยนิด ส่งผลให้จินต้องกลืนน้ำลายลงคอดังเฮือก ก่อนที่ความอดทนอดกลั้นทั้งหลายของจินก็หมดลง ชายหนุ่มรีบผุดลุกจากโซฟาตรงดิ่งไปคว้าร่างบางไว้ในอ้อมกอดทันที

“จิ๊น...หยุดนะ” ร่างบางร้องโวยวายออกมา เพราะทันทีที่จบเพลงร่างบอบบางของเขาก็ถูกคนรักกอดเอาไว้แน่น พร้อมกดร่างบางให้จมหายไปกับโซฟาตัวหนา

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

แอบปาดเหงื่อค่ะ ไหนี้เรียบร้อยไปแล้ว รอไหต่อไปแล้วกันนะคะ สำหรับไหนี้ขอขอบคุณน้องนุกและน้องแพทที่ช่วยส่งคำแปลเพลง 16S มาให้ด้วยนะคะ ได้คำแปลแล้วยิ่งเพิ่มอรรถรสในการแต่งให้ลื่นไหลกว่าเดิมเลย

พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ
Previous post Next post
Up