รีวิว การเดินทางไปดู X Japan World Tour in Hong Kong
หลังจากที่รู้ว่า concert X japan ในประเทศไทย เลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด ด้วยความที่ อยากดูมากๆ เลยตัดสินใจ ไปดูที่ฮ่องกงไว้ก่อนละกัน พยายามหว่านล้อมชวนเพื่อนหลายคน จนมีคนตกลงไปกับเรา น้อง Ren นั่นเอง จริงๆไปฮ่องกงนี่ดูเหมือนง่ายนะ ใกล้ๆแค่นี้เอง แต่ก็กังวลกันเป็นอันมากว่า แล้วเราจะได้ตั๋ว concert กันมั๊ย จะได้ตรงไหนอีก เครียดกันมากๆ
โชคดีที่ฮ่องกง มีเวปภาษาอังกฤษ แต่คนมากมายพยายามซื้อตั๋วพร้อมๆกัน sever ก็ล่มซิครับพี่น้อง แถมเราเอง วันที่จองตั๋วก็มีอันต้องเข้าไปนอนเล่นในห้องผ่าตัดซะงั้น เลยฝากความหวังทุกอย่างไว้กับ Ren แต่เพียงผู้เดียว Ren ผู้แสนดีมีเมตตา นั่งเครียดอยู่หน้าคอม ตั้งแต่ 9 โมงเช้า พยายามจะซื้อตั๋วให้ได้ แต่ว่า พอกำลังจะจ่ายเงิน server ก็ล่มอีก เป็นซ้ำซากอยู่อย่างนี้ Ren text มาหา แต่ตอนนั้นสลบอยู่ในห้องผ่าตัด ก็หมอจะให้ยาสลบ บอกว่าให้คิดถึงแต่สิ่งดีๆ เลยคิดถึง Yoshiki เข้าไว้ หลับไปไม่รู้เรื่องเลย ฝ่าย Ren ก็พยายามแล้ว พยายามอีก จน Ren ท้อ แต่ด้วยความที่สงสารเราผู้นอนแอ้งแม้งอยู่ในโรงพยาบาล เลยพยายามต่อไป จนได้บัตรบน stadium มาจนได้ เมื่อ บ่ายสามโมง ตอนนั้นเราฟื้นแล้ว ดูโทรศัพท์ เลย text ไปถาม ให้สิทธิ์ Ren เลือกเลย ตามใจคนจอง จนในที่สุด ได้คุยกันว่าได้บัตรแล้ว ดีใจมากๆ น้ำตาจะไหล ไม่รู้ว่าขอบคุณ Ren ไปกี่ร้อยครั้ง Ren บอก ที่นั่งไม่ค่อยดี แต่ ณ ตอนนั้นแม้จะจองที่ได้หลังสุด ก็ดีใจมากมายแล้วละ และแล้วตั๋ววันนี้ก็ Sold Out
หลังจากนั้นก็มาวางแผนการเดินทางกัน Ren ผู้แสนดีก็รับไปจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมให้ โดยตั้งใจจะไปก่อน concert 1 วัน คือ 16 ม.ค. แล้วตัวเองก็มีภารกิจ ต้องพยายามทำให้ความเข้มข้นเลือดมากพอที่จะเดินทางได้ เพราะเสียเลือดจนเป็นโรคโลหิตจาง
ต่อมา X Japan ประกาศมี concert เพิ่มอีกวัน ก็ปรึกษากันใหญ่อีกรอบ เราก็ว่าไหนๆไปแล้วก็ต้องดูทั้งสองรอบซิ พลางคิดเดากันว่า น่าจะเป็นวันที่ 18 ม.ค. มั้ง ยังไงเราก็ไปก่อนอยู่แล้ว ที่ไหนได้ หนอย มาเปิด concert วันที่ 16 ซึ่งเป็นวันเดินทางพอดี เอาไงดีวุ้ย จะทันมั๊ยนี่เรา ต้องวิ่งกันสุดๆแน่เลย เพราะเราจะไปถึงฮ่องกง ประมาณ 17.10 แล้ว concert มัน 20.00 จะทันมั๊ยนี่ เครื่องจะดีเลย์มั๊ย จะเอากระเป๋าเดินทางไว้ไหน โห มันยุ่งวุ่นวายไปหมด จนน้อง Boxboo pm มาหาว่าสงสัยเราไป ไฟลท์เดียวกันแน่เลย เลยได้คำแนะนำจากน้องเยอะเลย ว่าฝากกระเป๋าไว้สนามบิน แล้วนั่ง MRT ไป Asia World Expo จะดีสุด เลยฝาก Ren (อีกแล้ว) ให้ช่วยติดต่อกับโรงแรมไว้ ว่าเราจะไปโรงแรมกันเองหลัง concert ส่วนเราก็ confirm ตั๋ว เรีบยร้อย สบายใจไปเปลาะนึง
ทีนี้ คืนก่อนที่จะเริ่มจองตั๋วของวันที่ 16 ทั้งสองคนก็พากันกลุ้มใจ กลัวไม่ได้ตั๋ว เลยสวดมนต์ ขอให้ ฮิเดะช่วย นอนไม่หลับเลย สวดมนต์ทั้งคืน บอกเดี๋ยวใส่บาตรไปให้ เช้าวันนั้น รีบไปใส่บาตรแต่เช้า พอซัก 9 โมงกว่าๆ Ren โทรมา เสียงดีใจว่า ได้ตั๋วแล้ว ที่ดีมากๆ block B 3 แถวหน้าสุด ใกล้ catwalk ด้วย กรี๊ดกันแทบตาย ขอบคุณ ฮิเดะ ขอบคุณ Ren มากๆ
วันที่ 16 วันเดินทาง ด้วยความที่บ้านไกลสุวรรณภูมิมากๆ กลัวรถติด เลยไปถึงตั้งแต่ 07.30 ทำให้ Ren ซึ่งบ้านใกล้สุวรรณภูมิ ตกใจว่าจะมาทำไมแต่เช้า เลยบอกตามสบาย ให้เจอกันราวๆ 10.30 ระหว่างนี้ เลยไปนั่งกิน R Burger ซะเลย ชอบมากุโร่ เบอร์เกอร์ของร้านนี้มาก เต้าหู้ นักเก็ตก็อร่อย
เดินเล่นจนเมื่อย ไปนอนพักที่เก้าอี้สนามบินไปหนึ่งงีบ แล้วก็ขึ้นไปที่ชั้น check in ดีกว่า เห็นผู้หญิงสองคน ใส่เสื้อ X Japan จะตะโกนเรียก ก็ไกลเกิน เรียกไม่ทัน มารู้ทีหลังคือ คุณต้อยติ่ง กะน้องบู้นั่นเอง รอไปรอมาสักพัก Ren ก็มาถึง เลยชวนไป check in ให้เรียบร้อย ระหว่างรอ ก็ไปนั่งทาน ice cream กันเป็นอาหารกลางวัน แล้วก็มาเจอ คุณต้อยติ่ง กับน้องบู้ และไปเจอน้องอุ้ม ที่ gate ระหว่างรอเครื่อง เราเลยมาเซนต์แบนเนอร์กัน มีเจ้าหน้าที่เดินเข้ามาดู นึกว่าเราจะพ่นสเปรย์ พอเห็นว่าไม่ใช่ ก็เลยเดินจากไป
เครื่องบินของเรา
ขึ้นไปบนเครื่องลุ้นกันว่า จะไปทันมั๊ย ในที่สุดพอถึง กัปตันประกาศว่า เรามาถึงก่อนเวลา 10 นาที พวกเราดีใจกันใหญ่
ภาพช่วง landing จาก mornitor
ตม.ฮ่องกง ทำให้เราต้องลุ้นเพราะ Ren ชื่อไม่ตรงกับ Boarding pass ต้องอธิบายกันยกใหญ่ และพวกเราก็ส่งสายตาไปช่วยกันกดดัน 55 ในที่สุดก็ผ่านมาได้ รีบบึ่งไปเอากระเป๋าไปฝาก แล้วไปซื้อบัตร octopus เพื่อเดินทางไป Asia World Expo กันซะที
จากสนามบิน เดินทางแค่ 5 นาที ก็ถึง Asia World Expo เย้
พอเดินทางมาถึง Asia World Expo MRT นี่ เชื่อมต่อกับชั้นสอง ของ Asia World Expo เลย สะดวกมากๆ แค่เดินตามทางเชื่อมมาเรื่อยๆ ก็มาโผล่ที่ชั้นสอง ใกล้ๆ box office ที่เราต้องไปรับบัตรเลย Ren รีบไปรับบัตร มาแจกจ่ายกันทั่ว รู้สึกว่าหลายชีวิตมากๆ ที่ฝากไว้กับ Ren 55
แล้วเราก็เดินลงไปซื้อของที่ระลึก คนยังไม่ค่อยมากนัก เลยรีบไปต่อแถว เค้าจะให้ใบสั่งของมาให้เรา อยากซื้ออะไร ก็ติ๊กในช่อง แล้วก็ คำนวณราคา รวม total เสร็จ ก็นำไปให้ counter คิดเงิน ของน้อยกว่าที่คิด ไม่มี Jacket แง๊ มีเสื้อยืด 5 แบบ มี card holder sticker ถุงผ้า และ Yoshiki jewelry 2 ชิ้น แต่ที่นี่เค้ารับแต่เงินสด แลกตังค์ไปไม่พอซื้อ ราคาก็แค่ชิ้นละ 1600 HKD ชิ้นนึงก็ประมาณ ค่าเครื่องบินที่บินมาเอง คิดหนัก เพราะถ้าซื้อแค่ชิ้นเดียว ก็จะไม่มีค่ารถ ค่าอาหารอะไรเหลืออีกเลย เลยต้องตัดใจจากมา ด้วยความอาลัยอาวรณ์สุดๆ พวกของนี่เห็น Ren บ่นๆก็แพงกว่าที่ โตเกียวโดมเยอะเลย เลยไม่มีของมาฝากน้อ ดูแต่รูปไปละกัน
พอซื้อเสร็จ เป้ที่นำไปล่ะ จะไปไว้ไหน ถามเจ้าหน้าที่ บอกให้เอาเข้าไปได้ด้วย แถมไม่ตรวจอะไรเลยแม้แต่น้อย แปลกใจมากๆ ก็ DSLR ตัวเบ่อเริ่มอยู่ในเป้ด้วยนะ แต่ดันไม่กล้ายกมาใช้ กลัวเค้ายึด เสียดายจริงๆ
ไปถ่ายรูปกับแบนเนอร์กัน มีคนมารุมถ่ายรูปเยอะแยะ
เข้าไปข้างในกันดีกว่า ดูแล้วเล็กกว่า impact ของเราอีก แถมมีชั้น stadium แค่เตี้ยๆ ไม่สูงลิ่วจนกลัวตกมาคอหักอย่างบ้านเรา แถมวันนี้ ได้ดูใกล้มากๆ blog B 3 แถวหน้าสุด ติด catwalk อ๊ากกกก ใกล้จนตกใจ อะไรจะใกล้ขนาดนี้ รู้สึกตื่นเต้นจนตัวสั่น เฮ้ย นี่เรากำลังจะได้ดู X Japan วงที่ชอบมานานมากๆ แต่ไม่เคยได้ดู Live สดๆแบบนี้เลย คุณ ต้อยติ่ง กับ น้องบู้ ฝากให้ช่วยถือ แบนเนอร์ เพราะดูแล้ว ตรงนี้เหมาะมากๆ วันนี้ ไปกัน 4 คน พอดี ช่วยกันถือได้
สองทุ่มแล้ว concert ยังไม่เริ่ม แต่ตกใจมากที่เริ่มเลทไปแค่ ครึ่งชั่วโมงเอง เย้ย เป็นไปได้หรือนี่ เห็น Yoshiki แว๊บๆ หลังม่านโปร่ง แค่นั้นก็กรี๊ดกันหูแตกแล้ว ยิ่งพอเพลง Last song ขึ้นมา เห็น Yoshiki เล่น piano และ Toshi ยืนร้องเพลงอยู่ข้างๆ น้ำตาไหลกันเป็นแถว
วันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปconcert เลย เพราะอยากดูด้วยตาตัวเองแบบเต็มๆ จะได้ไม่ต้องมัวกังวลถ่ายรูป เสียดายเหมือนกัน
ไม่แน่ใจว่าเพลงไหน Toshi มายืนจ้อง แบนเนอร์ที่พวกเราถือ แถมชู 2 นิ้วให้ แล้วยิ้มให้ แค่นี้ก็ กรี๊ดกันสนั่นเลย Toshi เห็นแล้ว แถมมายืนจ้องตั้งสองรอบ แอบหวังว่า Toshi คงไม่เห็นเป็น Finland นะ เพราะ font นี้ สวยมากๆ มันอ่านค่อนข้างยาก เห็นน้องบู้มาเล่าให้ฟังว่า แบนเนอร์ ขึ้นจอบ่อยมากๆ ประชาสัมพันธ์ประเทศไทย แต่หน้าเราที่โผล่ไปด้วยนี่ซิ กร๊ากก ไม่อยากจะนึกเลย ไม่รู้บ้าไปขนาดไหน
ต่อด้วย "Rusty Nail","Weekend" กระโดดกันสุดๆตั้งแต่แรกเลย แถมทุกคนก็มีอุปกรณ์พวกแท่งไฟ สวยงามมากๆ
solo ของ PATA เท่ห์มากมาย ชุดก็เท่ห์ ตามมาด้วยเพลง Drain เพลงโปรดของเราอีกเพลง แต่ Yo ไม่ได้อยู่บนเวทีด้วย แง่ว
Longing Toshi PATA Heath เล่นเป็น Acoustic เพราะมากๆ พอจบ เจ้าหน้าที่ เคลียร์เวที และแล้ว Yoshiki ก็เดินขึ้นมาพร้อง ดอกกุหลาบสีแดง สองกำใหญ่ๆ กรี๊ด ท่านั่งสุดเท่ห์ตรงมอร์นิเตอร์ อะไรจะใกล้ขนาดนี้
แล้วก็วิ่งออกมาโยนกุหลาบให้แฟนๆ แน่นอน มันข้ามหัวเราไปอีกเช่นเคย แง๊
แล้วคุณ Yo ก็วิ่งไปที่ piano เล่น solo กรี๊ดกันจนจำไม่ได้แน่นอนว่าเป็น Moonlight Sonata รึเปล่า แบบ สติคนดูแทบจะหลุดไปแล้ว ต่อด้วย With Out You โอ้ พอเพลงนี้ขึ้นมา แค่ โน๊ตตัวแรกๆ วันแบบ โอ้ ไม่ ทุกๆตัวโน๊ต มันทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจ ร้องไห้กันสุดๆเลย สำหรับคนอื่นๆ เค้าอาจจะร้องไห้ เพราะคิดถึง ฮิเดะ แต่สำหรับเรา ร้องไห้เพราะเราย้อนกลับไปคิดถึง Yo ความรู้สึกของ Yo ในตอนนั้น ความรู้สึกโศกเศร้าทุกข์ทรมานที่สูญเสียเพื่อนรักไป ความพยายามที่จะอยู่ต่อไป โอ๊ย ช่างเป็นบทกวีที่ทั้งเศร้าและงดงามอะไรเช่นนี้ แถมบนจอก็มีวิดีโอ สมัยที่ครบ 5 คน กระโดดขี่หลังกัน แกล้งกัน ยิ่งร้องไห้กันไม่หยุดเลย น้องบู้มาเล่าให้ฟังทีหลังว่า การ์ดยื่นทิชชู่มาให้ซับน้ำตาด้วย ใจดีจังเลย หลังจากแฟนๆร้องไห้กันจนตาบวม คุณYo ก็มาเล่นเพลง Art Of Life กรี๊ด เพลงโปรดอีกหนึ่งเพลง คราวนี้ก็มีลุ้น เพราะกลัว คุณ Yo จะเป็นลมไปซะก่อน ดีที่เล่นแค่ครึ่งเพลง จะได้เล่นเพลงอื่นบ้าง ไม่งั้นก็จะกินเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมงเชียว
"Kurenai" ทุกคนมี ปอม ปอม สีแดง เพราะชาวฮ่องกงใจดีแจกมาให้ ทั้งกระโดด ทั้งร้องตามกันเสียงดังเชียว น่าปลื้มใจแทน X จริงๆ
แล้ววง ก็กลับไปหลังเวที พวกเราก็เล่นเวฟมั่ง ลูกโป่งมั่ง สนุกสนานดี
และแล้ว X ก็กลับออกมาอีกครั้งกับเพลง Endless Rain Toshi มีตะโกนไกด์ประโยคต่อไปให้ด้วย แรกๆก็โอเค แต่บ่อยๆเข้า เอ๊ ชักจะเสียอรรถรสของเพลงนะนี่ แอบเคืองนิดๆ ชั้นร้องได้เฟ้ย ไม่ต้องไกด์ขนาดนั้นก็ได้ มีแฟน Toshi แถวนี้มั๊ยนี่ เดี๋ยวโดนเหยียบ 55 จริงๆทำเป็น คาราโอเกะที่ฉากข้างหลังก็ได้นะ 55 แล้วก็ปล่อยให้แฟนๆ ร้องซ้ำไปซ้ำมา จนรู้สึกเมื่อยปาก ชอบช่วงที่ทุกคนหยุดเล่นดนตรี แล้วหันมามองผู้ชม ดูจากสายตาที่มองแฟนๆอย่างอ่อนโยน เอ่อ ขอบอกว่าตอนนั้นดูสายตา Yo คนเดียว เดาๆว่าคงรู้สึกทึ่งอยู่ในใจรึเปล่าว่า โห ไม่ใช่คนญี่ปุ่นก็ร้องได้นะนี่
"I.V." ดีใจมากๆ ที่ X มีเพลงภาษาอังกฤษล้วนเพิ่มมาอีกเพลง ชอบเนื้อหาเพลงนี้จัง เพิ่งเห็น Sugizo ในเพลงนี้ ได้ข่าวว่าป่วยอย่างหนัก ก่อนเล่น concert แต่ก็ดูเล่นกันเต็มที่ทุกๆคน
"Drum solo" Toshi ตะโกน on drum Yoshiki คุณ Yo ก็กระหน่ำกลองซะชุดใหญ่จนจบ แล้ว Toshi ก็ตะโกนอีก on drum Yoshiki คุณ Yo ก็รัวไปอีกชุดนึง Toshi ยังไม่ยอมจบ ยัง on drum Yoshiki ต่อไป หลายๆรอบเข้า ตอนแรกๆ คุณ Yo ก็ยังไหว หลังๆชักจะแย่ แอบบ่นว่า Are you going to kill me? Toshi ตอบว่า I'm going to kill you คุณ Yo มีบ้าจี้ เล่น I'll kill you หน่อยนึง แล้ววิ่งไป piano พูดเสียงเซะซี่เบาๆว่า on vocal Toshi โอ๋ น่าสงสารจัง เจอไปหลายชุด
ต่อด้วย X นักดนตรีทุกคนใส่ชุดประจำชาติจีน Yo ใส่เสื้อขาว ชอบชุดนี้มากๆเลย ผู้ชมทุกคนกระโดดกันอย่างเมามัน X jump นี่ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง สนุกสนานมากๆ ยิ่งช่วงที่ทุกคนกระโดดตัวลอยจากพื้น ทำมือไขว้กันเป็นสัญลักษณ์ X บางคนก็ใช้แท่งไฟ มันเป็นภาพที่งดงาม เกินคำบรรยาย ดูอลังการงานสร้างสุดๆ จบเพลงนี้ คุณ Yo ก็พังกลองเล็กๆน้อยๆ ก่อนจะกลับเข้าไปหลังเวที
ออกมาอีกครั้งด้วยเพลง Tears ตอนนี้ คุณ Yo มีมูลนิธิ ต่อต้านการฆ่าตัวตายด้วย ใช้ชื่อว่าYoshiki foundation ได้ข่าวว่าบริจาคเงินจาก concert ครั้งนี้ให้องค์กรการกุศลที่ฮ่องกงด้วย กรี๊ด นี่เราได้ร่วมทำบุญกับ Yoshiki และ X japan เชียวนะ ปลื้มมากๆเลย
เพลงนี้ก็งดงามสุดๆ น้ำตาซึมกับคำพูดของ Yo ที่ว่า
Now I'm older than you
I've never thought beyond that time
I've never imagined the pictures of that life
For now I will try to live for you and for me
I will try to live with love, with dreams,
and forever with tears..
ประโยคสุดท้าย Yo เสียงเครือมากๆ ฮือ เศร้าๆ
แล้ว X ก็ร่ำลาแฟนๆ พาตุ๊กตาฮิเดะออกมาด้วย ประทับใจสุดๆ
set list of 16 ม.ค.
01.The Last Song
02.Rusty Nail
03.WEEK END
04.PATA Guitar solo
05.DRAIN
06.Longing - Acoustic Version -
07.Piano solo
08.Without You
09.ART OF LIFE - 1st movement -
10.Kurenai
ENCORE.1
01.ENDLESS RAIN
02.I.V.
03.Drum solo
04.X - Drum Break
ENCORE.2
01.Tears
CURTAIN CALL
SE.Say Anything
SE.Longing
SE.Unfinished
สนุกสนาน โศกเศร้าเคล้าน้ำตา มีทุกอารมณ์เลยวุ้ย สรุปคือ ประทับใจมากๆ ลืมเล่าไปนิดนึง ก่อน concert จะเริ่ม ก็มีเสียงฮือฮาขึ้นทางด้านขวาของ stadium หันไป โห นั่นฮิเดะ เหมือนมากๆ ท่าเดินเข้ามานี่มันดาราชัดๆ คนลุกฮือไปถ่ายรูปกันใหญ่
ขากลับขึ้นรถไฟ ก็เจอ ฮิเดะคนนี้ด้วย แต่เค้าคงเหนื่อย ไม่อยากคุยกับใครแล้ว ก้มหน้าก้มตาตลอด เราไปลงที่สนามบิน ก่อนไปรับกระเป๋า ทุกคนวิ่งถลาไป ร้านที่คุ้นเคย 7/11 หาน้ำ หาขนมกินกันใหญ่ หิวโซเลย แล้วก็ไปรับกระเป๋า คุยเม้าท์กันไป รอคุณ X freak มารับบัตรวันต่อไปกับคุณ ต้อยติ่ง โห จะได้เจอจริงๆแล้ว แอบตื่นเต้น เคยอ่านแต่ blog ไม่เคยเจอจริงๆ นั่งรอจนเจอ คุยได้แป๊ปนึง ก็ต้องแยกย้ายหาทางกลับโรงแรม ก็มันจะตีหนึ่งแล้ว ตัดสินใจกลับ MRT ปรากฏว่า ไปได้เกือบครึ่งทาง เจ้าหน้าที่ทำมือโบกๆ แบบ หมดเวลาแล้ว หยุดให้บริการ ยืนเหวอกัน 2 คน จนไปถามชายใจดีคนนึง เค้าเลยบอก ให้ออกไปต่อ taxi เถอะ ก็ลากกระเป๋า ปุเลงๆ กันออกมา อากาศก็เย็นพอสมควร เดินเด๋อๆด๋าๆไปซักพัก เจอคุณลุง taxi ใจดี ช่วยยกกระเป๋าใส่ท้ายรถด้วย ระหว่างทางเปิดวิทยุ แนะ มีเพลง Yesterday ของ Paul McCartney ซะด้วย 2 คนก็เลยร้องเพลงกันไป คุณลุง taxi ก็พาขับวกวน ถนนแคบๆเล็กๆ วนไปวนมา จนถึงโรงแรมก็เกือบๆจะตีสองแล้ว รีบไป check in ห้องน่าอยู่สุดๆ ที่นอนน่านอนจัง แต่กระนั้น ยังไม่เสร็จภาระกิจ Renมาช่วยย้อมผมกันอีก กว่าจะเสร็จก็เกือบตีสาม โห ผมทองอร่ามจนเป็นสีส้ม จำตัวเองเกือบไม่ได้ 55 Renผู้น่าสงสารหลับไปแล้ว แต่เราซิ ดันไม่หลับซะงั้น ตื่นเต้นมั้ง ก็มาเขียนบันทึก ก๊อกๆ แก๊กๆ เปิดทีวีดู กว่าจะหลับ ก็เช้าอีกแล้ว
ห้องดูดี น่านอนมากๆ