Resistance (Translated)

Aug 11, 2015 20:47


Original Author: tysunkete https://www.fanfiction.net/u/822962/tysunkete

Translator: Keechan/Mondblomma

Fandom: Daiya no A (Ace of Diamond)

Pairing: Furuya Satoru x Miyuki Kazuya

Sequel to Starlight

*Warning* Major Spoiler

ทันทีที่ฟุรุยะเดินเข้ามาเขาในห้องอาหารหลังกินข้าวเย็นเสร็จ คุราโมจิก็พูดขึ้นทันที "มิยูกิอยู่กับโค้ช น่าจะอีกพักใหญ่กว่าจะกลับมา"

ฝ่ายปีหนึ่งกระพริบตาช้าๆ ด้วยความแปลกใจ "ผมไม่ได้มาตามหารุ่นพี่มิยูกิครับ"

"อ้อ..." คุราโมจิกระพริบตากลับ งุนงงพอๆ กัน "โอเค งั้นมีอะไรเหรอ"


ฟุรุยะมาหาเขาไม่ค่อยบ่อย จะว่าไป นี่เป็นครั้งแรกมั้ง คุราโมจิเคยตบหลังอีกฝ่ายหรือหยอกล้อเล่นบ้างช่วงการแข่ง แต่พิชเชอร์ตัวสูงคนนี้ก็ไม่เคยมาพูดคุยสัพเพเหระอะไรกับเขา ฟุรุยะเป็นคนเงียบๆ แล้วเขาก็โอเคที่เป็นอย่างนั้น มีซาวามุระคนเดียวในทีมก็มากเกินพอ ดังนั้นไอ้การที่ฟุรุยะมาหาเขาได้นี่เรียกว่าเป็นกรณี... พิเศษ... ที่ทำให้เขานึกสงสัย เพราะฟุรุยะจะเดินเข้าหาแต่มิยูกิ อย่างน้อยเขาก็รู้น่า มิยูกิเล่นออกตัวเหมือนกับว่าฟุรุยะเป็นพิชเชอร์คนโปรดสำหรับแคชเชอร์แบบนั้นน่ะ

ฟุรุยะลังเลเล็กน้อย ราวกับไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง ปฏิกิริยานั้นแปลกใหม่สำหรับคุราโมจิ แล้วอีกฝ่ายก็เอ่ยปาก "...รุ่นพี่มิยูกิชอบอะไรเหรอครับ"

คุราโมจิเดาถึงเรื่องที่ฟุรุยะจะถามเขาตั้งมากมายเป็นกองภูเขา นึกว่าจะเป็นอะไรเกี่ยวกับเบสบอล แต่ไอ้คำถามนี้ทำเอาอึ้งกิมกี่ "หือ?"

ฟุรุยะแค่มองตรงมาเงียบๆ แล้วคุราโมจิก็จ้องกลับจนคิ้วย่น "มิยูกิ... ชอบอะไรน่ะเรอะ?" เขาย้อนคำ ฟุรุยะพยักหน้า "เอ่อ..." คิ้วยิ่งขมวดมุ่นกว่าเดิม "ทำไมนายมาถามฉันล่ะ?"

ก็จริงอยูว่ามิยูกิเป็น... เพื่อน--บางทีล่ะนะ เวลาที่ไอ้บ้านั่นไม่ทำตัวงี่เง่า-- แต่เขาไม่เคยคิดว่าสนิทด้วยขนาดนั้น

"รุ่นพี่มิยูกิอยู่กับรุ่นพี่บ่อยนี่ครับ" ฟุรุยะอธิบายง่ายๆ

นั่นเพราะว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันต่างหาก แล้วมันเลี่ยงได้ที่ไหนล่ะ คุราโมจิถอนหายใจแล้วยกมือขึ้นเท้าคางบนโต๊ะ "โอเค" เขาพ่นลมหายใจปลงๆ ไม่อยากจะลงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องเพื่อนซี้อะไรอย่างนั้น "แต่... นายหมายความว่าไงที่บอกว่ามิยูกิ 'ชอบ' อะไรน่ะ จะหาของขวัญให้รึอะไร นี่ยังไม่ถึงวันเกิดหมอนั่นซะหน่อยนา"

ฟุรุยะลุกลี้ลุกลนนิดหน่อย แล้วส่ายหน้า "ไม่ใช่ของขวัญครับ" เจ้าตัวก้มหน้าลงนิดหน่อยแล้วหยิบอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋า

กระดาษแผ่นนึงที่ถูกพับไว้ เจ้าของคลี่ออกแล้วจ้องตัวอักษรบนนั้นแล้วจึงเคลื่อนสายตากลับมาที่คุราโมจิ

"หนังครับ"

คุราโมจิเลิกคิ้ว "หนัง?"  ตามมาด้วยหัวเราะพรืด "ห้ะ นี่นายจะชวนมิยูกิไปเดทเรอะ?"

อีกฝ่ายไม่ได้หัวเราะกับคำล้อเลียนของเขา-- คุราโมจิขัดใจเล็กๆ แต่ก็นะ นี่มันฟุรุยะนี่นา เขาไม่คาดหวังอะไรมากมายหรอก แต่ว่าเมื่อกี้ฟุรุยะดันพยักหน้าทีนึงตอนที่เขาหัวเราะร่วนอยู่เมื่อกี้ทำเอาเกือบสำลักน้ำลาย

"เดี๋ยว--ม... เมื่อกี้ฉันล้อเล่นนะ" คุราโมจิไอแค่ก เอนตัวมาข้างหน้า จ้องหน้าคู่สนทนาที่ดูไม่หวั่นไหวซักนิด "นาย เอาจริงดิ" เขาสรุปได้แม้ว่าฟุรุยะจะแค่มองเขาเฉยๆ คุราโมจิได้แต่จ้อง อ้าปากค้างอยู่หลายวินาที "บ้าอะไรกันน่ะพวกนาย เอาจริงดิ?" เขาขึ้นเสียงดังจนคนอื่นๆ ที่ยังเหลืออยู่ในห้องเริ่มหันมามอง

ฟุรุยะกุมมือแน่น

"รุ่นพี่--" เขาเริ่มพูด ทันใดคุราโมจิก็ลุกพรวดแล้วคว้าแขนอีกฝ่าย ลากรุ่นน้องออกมาจากโรงอาหารเพื่อหลบสายตาคนอื่น

"ฟุรุยะ" คุราโมจิเปิดบทสนทนาพอมาอยู่ในมุมที่คิดว่าไม่มีใครแล้ว "มิยูกิทำอะไรนาย?"

รุ่นน้องกระพริบตาปริบอย่างไม่เข้าใจ คุราโมจิถอนใจ ยกมือเกาหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด

"ช่างมันแล้วกัน แต่ขอถามตรงๆ นะ นาย... ชอบ... มิยูกิ?"

พยักหน้า

"แล้วนายอยากชวนหมอนั่นไป... เดท?" พูดเองก็ขนลุกเอง

พยักหน้าอีกรอบ

คุราโมจิแน่ใจว่าตัวเองกำลังอยู่ในโลกคู่ขนานแหงๆ ทำไมล่ะ ให้ตายเถอะ สายตาเขาแหลมคมขนาดนี้ ไอ้สีแดงเรื่อๆ ที่เห็นบนแก้มฟุรุยะตอนนี้นี่มันไม่ใช่เพราะร้อนแน่ๆ นี่เขาควรจะรู้เรื่องนี้มาก่อนหน้านี้รึเปล่า? ที่จริงก็ควรนะ-- ดูจากที่ฟุรุยะเอาแต่ร้องหามิยูกิน่ะ แต่เขานึกว่าฟุรุยะหลงรักการขว้างลูกนี่หว่า ไม่นึกว่าจะเป็นแคชเชอร์ เขาไม่คาดคิดด้วยซ้ำว่าอย่างฟุรุยะจะชอบคนตัวเป็นๆ ได้ ฟังดูใจร้ายน่าดู แต่ฟุรุยะก็สนใจแต่บอลนี่หว่า... บอลที่มิยูกิรับให้

เชี่ยเอ๊ย

ให้ตายเถอะ คุราโมจิลอบกลืนน้ำลาย ภาพจากตอนซ้อมช่วงบ่ายฝุดขึ้นมาในหัว มิยูกิลูบหัวฟุรุยะพร้อมรอยยิ้มยียวนแล้วพูดชม ไอ้หน้าแดงๆ ที่เห็นตอนนั้นไม่ใช่เพราะเหนื่อยจากการฝึกนี่หว่า ไอ้เชี่ยมิยูกิ คุราโมจิครวญ

ฟุรุยะก้มหน้ามองเท้าก่อนจะเคลื่อนสายตามองคุราโมจิอีกหน "ตกลงว่ารุ่นพี่จะช่วยผมได้มั้ยครับ"

จะให้ตอบว่ายังไงล่ะโว้ย?

ทำบ้าอะไรของนายวะ มิยูกิ

--------------------------------

"แกทำบ้าอะไรวะ มิยูกิ" คือประโยคแรกที่คุราโมจิพูดขึ้นเมื่อมิยูกิเปิดประตูให้หลังเขาเคาะประตูรัวๆ แทบพัง

มิยูกิหาวแรงๆ จนไหล่ยก ยังไม่ได้ใส่แว่น "จะเอาอะไร ฉันจะนอนแล้ว"

"บอกแล้วไงว่าไม่ให้ทำอย่างนั้น!" คุราโมจิตะคอกใส่ ยกนิ้วชี้หน้าด่า

"พูดเรื่องอะไรของนายเนี่ย" มิยูกิตอบแบบไม่มีอารมณ์จะเสวนาด้วย เจ้าตัวหันหลังเดินเข้าหาเตียง ไม่สนใจจะปิดประตู

คุราโมจิสบถอย่างอารมณ์เสียแล้วเดินเข้ามาในห้อง ไม่ลืมที่จะปิดประตู มันพิลึกน่าดูที่รูมเมทของมิยูกิไม่เคยอยู่ในห้องด้วยเลย สงสัยจะไม่มีตัวตนจริงๆ ล่ะมั้ง แต่เรื่องนั้นค่อยว่ากันทีหลัง นี่เขาเพิ่งใช้เวลาไปครึ่งชั่วโมงช่วยฟุรุยะ... คิดไอเดียดีๆ... แบบกระอักกระอ่วนน่าดู ที่ยอมทำแบบนั้นก็เพราะเขาเป็นรุ่นพี่ตัวอย่างที่พึ่งพาได้น่ะสิ ไม่เหมือนอีกคนที่เอาแต่นอนกลิ้งสบายใจเฉิบอยู่เนี่ย คุราโมจิหน้าบูดแล้วเตะมิยูกิเข้าให้

"เหลือเกินเลย ไอ้บ้านี่" คุราโมจิต่อว่าแบบเอาจริง นั่งลงที่ปลายเตียง "โอย ให้ตายเถอะ เชื่อไม่ลงจริงๆ ว่ะ" เขางึมงำ นั่งชันเข่าเซ็งๆ

"ตกลงว่านายพูดเรื่องอะไรล่ะเนี่ย" มิยูกิถามต่อด้วยเสียงเซ็งๆ

"ฉันพูดถึงนายกับการฝึกไอ้ลูกหมาของนายให้เชื่องไงล่ะเว้ย" คุราโมจิว่า หันหน้ามามองมิยูกิแบบจริงจังสุดชีวิต "มิยูกิ นายเลิกทำแบบนั้นกับหมอนั่นได้แล้ว"

เว้นช่วงไปนานกว่ามิยูกิจะขยับตัวจนได้ยินเสียงผ้าปูที่นอนเสียดสี มิยูกิลงมานั่งข้างๆ ที่พื้นแล้วหาวอีกรอบ แต่ประโยคที่พูดต่อมาฟังดูตื่นกว่าเดิมนิดหน่อย

"ก็แค่เรื่องสนุกนิดหน่อยเอง คุราโมจิ" เจ้าตัวตอบแล้วควานหาแว่นตาบนพื้น คุราโมจิยื่นให้ตัดรำคาญ "ไม่มีอะไรเสียหายซักหน่อย"

"ผิดว่ะ" คุราโมจิย้อน "เสียหายสิวะ หนักด้วย"

"ตรงไหน? ฟุรุยะเชื่อฟังดี แล้วก็ขว้างได้ดีไม่ใช่เหรอ ทีมเล่นได้ดีขึ้น เขาเรียกว่าวิน-วิน" มิยูกิตอบ ถึงจะไม่ได้แฝงน้ำเสียงเยาะเย้ย แต่คุราโมจิก็อยากจะต่อยหน้าคนพูดซักหมัด

คุราโมจิไม่รู้จะอธิบายให้เข้าใจยังไง เลยตัดสินใจบอกไปโต้งๆ "ฟุรุยะชอบนาย"

"...อ่าฮะ" มิยูกิสบตาคนพูด "ฉันก็ชอบฉันเหมือนกัน--"

"ไอ้กวนตีน แกก็รู้ว่าฉันหมายความว่าไง" เขาถอง ศอกท้องอีกฝ่ายเข้าให้ "รู้มั้ยว่าครึ่งชั่วโมงที่แล้วฉันไปทำอะไรมา? ฉันนั่งคิดแผนเดทให้ฟุรุยะ หมอนั่น--" เขาย้ำคำต่อมา "อยากพานายไปเดท ไปเดทนะเว้ย เดทนะไอ้เชี่ย" คุราโมจิเสียงดังเกรี้ยวกราดขึ้นเรื่อยๆ "นี่มันเลยเถิดไปไกลแล้ว นายต้องเลิกทำอะไรบ้าๆ กับหมอนั่นเดี๋ยวนี้"

มิยูกิไม่สบตา เจ้าตัวยกมือลูบหลังคอ "หืม... ฟุรุยะสนใจเรื่องอื่นนอกจากขว้างลูกด้วยเหรอ ก็ดีนะ" ตอบแบบสบายๆ ทำเอาคุราโมจิชะงักอึ้ง

"...น... นายจะยอมไปเดทกะหมอนั่นเรอะ! กวนตีนกันเรอะ มิยูกิ!"

คนตอบยักไหล่ "ไม่เห็นเสียหายนี่ ก็ไปกินข้าวฟรีไง"

"เสียหายสิวะ" คุราโมจิค้านโกรธๆ "เหยียบย่ำความจริงใจของหมอนั่นไงที่เสียหาย ฟุรุยะจริงจังเรื่องนายนะ เว้ย ให้ตาย เชี่ยนี่"

"ฟุรุยะไม่ได้บอบบางขนาดนั้นหรอกน่า" มิยูกิตอบทันที ก่อนชะงักเมื่อโดนฝ่ายตรงข้ามกระโจนใส่

"น... นาย--" ความโมโหฉาบชัดบนใบหน้าคุราโมจิขณะเขากระชากคอเสื้อของมิยูกิ "นายรู้"

"ก็--"

"ตั้งแต่เมื่อไหร่?"

"คุราโมจิ--"

"ไอ้ชั่วมิยูกิ เมื่อไหร่?" เขาสั่ง

มิยูกิครางเบาๆ แล้วจับต้นคอตัวเอง ผลักคุราโมจิออก "ประมาณสี่เดือนก่อน"

"สี่--" เสียงสั่นเทิ้มที่เปล่งออกมาจากลำคอขาดช่วง "ไปล่อลวงเด็กมันทำไมห้ะ?" เขาแทบจะทุบอกอีกฝ่ายด้วยความเดือดดาล "หรือว่า..." ทันเท่าความคิด คุราโมจิเบิกตาโต แล้วค่อยๆ ปล่อยมือจากเสื้อของมิยูกิ "เฮ้ย กัปตัน เอาจริงรึเปล่าวะ"

"เรื่อง... มันซับซ้อนน่ะ" มิยูกิตอบ ไม่มีทางที่คุราโมจิจะพอใจกับคำตอบแค่นั้น

"ใครจะไปนึกไปฝันว่านายจะชอบฟุรุยะ"

คนฟังขมวดคิ้ว "ฉันไม่ได้ชอบฟุรุยะ"

"งั้นนายจะเรียกไอ้ที่นายกำลังทำอยู่ว่าอะไร หา?"

"ก็อย่างที่ฉันบอก" มิยูกิเบ้หน้าแล้วกอดอก "เรื่องมันซับซ้อน"

คุราโมจิทำเสียงไม่พอใจ ครางเหมือนคนปวดหัวแล้วถอยไปนั่งขัดสมาธิ บางทีเขาก็ไม่เข้าใจมิยูกิเอาซะเลย นี่อาจจะเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้เขาไม่รู้สึกว่าสนิทกับหมอนี่ เวลาที่เขาไม่เข้าใจเรื่องบ้าบออะไรก็ตามที่มิยูกิทำ ไม่ได้หมายถึงมิยูกิที่ทุกคนเห็นหน้าอยู่ทุกวัน แต่เป็นไอ้บ้ามิยูกิคนนี้ที่เป็นไอ้โง่งี่เง่าไร้สมองที่เลือกทำในสิ่งที่แย่ที่สุดในชีวิตที่จะเลือกได้

"ฉันว่านายเป็นคนทำให้มันซับซ้อนเองมากกว่า" คุราโมจิแย้งแล้วเม้มริมฝีปาก "ฉัน" เขาเริ่มออกความเห็น แล้วหยุดคิดแว่บหนึ่ง "ที่จริงแล้ว ฉันไม่อยากรู้หรอกนะว่านายทำอะไรกับฟุรุยะ แต่ถ้าหมอนั่นขว้างลูกไม่ได้เรื่องเพราะนายแล้วพวกเราไม่ได้ไประดับประเทศล่ะก็..." เขาขู่เบาๆ บีบกำปั้นโชว์ให้เห็น

"โธ่เอ๊ย หมอนั่นขว้างลูกได้ดีเพราะฉันต่างหาก นายก็รู้" มิยูกิอวด ฉีกยิ้มแฉ่ง

"ไอ้สารเลวเอ๊ย"

------------------------------

ที่ว่าฟุรุยะอยากชวนไปเดทนั่นเป็นข่าวใหม่เลยทีเดียว ตั้งแต่วันที่ฟุรุยะกุมมืออยู่ในห้องตอนนั้นก็ผ่านไปสองเดือนแล้ว และก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในระหว่างสองเดือนนั้น เหตุผลหลักก็เป็นเพราะตอนนั้นเป็นช่วงที่วุ่นวายสุดๆ ทั้งแมทช์ที่พ่ายแพ้อินาชิโระ เปลี่ยนสมาชิกในทีมใหม่ มิยูกิกลายเป็นกัปตันทีม (เอาเข้าจริง ก็ยังไม่น่าเชื่ออยู่ดี) เลยไม่ได้มีเวลาไปทำอะไร... อย่างอื่น ฟุรุยะยังมาขอให้ช่วยฝึกขว้างลูกอยู่เป็นปกติ แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ทำกันมาอยู่แล้วตั้งแต่ต้น กลายเป็นกิจวัตรประจำวัน แล้วมิยูกิก็ยังคอยชมเรื่องฟอร์มการขว้างกับการคอนโทรลบอลอยู่เนืองๆ

สถานะที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ดีสำหรับเขา มิยูกิชอบที่ตัวเองได้เป็นจุดสนใจของฟุรุยะ แล้วอีกฝ่ายก็สนองให้ การทำอะไรด้วยกันก็เลยเป็นที่พอใจกันทั้งสองฝ่าย ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น

ไปเดทเนี่ยนะ? กล้าหาญชาญชัยน่าดูนี่นา

มิยูกิไม่ค่อยมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องเดทอะไรพรรค์นี้เท่าไหร่ เขาออกไปเที่ยวกับเพื่อนร่วมชั้นก็นานๆ ที เขาเคยถูกสารภาพรักด้วย ของมันตายอยู่แล้ว แต่เขาสนใจเรื่องเบสบอลมากกว่าจะมีเวลาให้กับความสัมพันธ์ในแง่นั้น ซึ่งเขารู้ว่าตัวเองแบ่งเวลาให้กับเด็กผู้หญิงไม่ได้ตอนที่อยู่ม.ต้น ไม่มีทางที่จะมีเวลาให้เรื่องพรรค์นั้นหรอก เขาต้องนั่งดูการแข่ง นั่งวิเคราะห์เกมการเล่น แล้วฝึกรับลูกจนมืดค่ำนี่นา

แต่ไปเดทกับฟุรุยะ? น่าจะต่างกับที่ผ่านมา มิยูกิจินตนาการไม่ออกว่าฟุรุยะจะมาชวนเขาไปเดทด้วยวิธีไหน เขาหัวเราะคิกอยู่คนเดียว นึกสงสัยว่าอีกฝ่ายจะเลือกใช้คำพูดแบบไหนกันนะ หรือว่าจะเอาแผนเดทแบบไหนมาให้ดู อ๊ะ จริงสิ คุราโมจิช่วยวางแผนให้ด้วยไม่ใช่เหรอ? มิยูกิอยากรู้แต่คุราโมจิไม่ยอมปริปากพูด เขาเลยทำได้แค่รอดู

รอ สามสัปดาห์ผ่านไปที่เขารอแล้วนึกว่าฟุรุยะจะโพล่งถามขึ้นมาเมื่อไหร่ แต่สุดท้ายอีกฝ่ายก็แค่ขอให้รับลูกให้ มิยูกิรู้สึกเกลียดตัวเองจริงๆ จังๆ ตอนท้ายสัปดาห์ที่สาม ก็ให้ตายเถอะ เขาคาดหวังว่าอีกฝ่ายจะชวนไปเดท แล้วดันกระวนกระวายกับเรื่องนั้นเข้าจริงๆ แถมเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะตอบรับความรู้สึกของฟุรุยะยังไง

เขาเดินจากห้องอาบน้ำกลับไปที่ห้องขณะคิดเรื่อยเปื่อย แล้วก็เห็นฟุรุยะยืนรออยู่หน้าประตู อีกฝ่ายถืออะไรบางอย่างอยู่ในมือแต่เขามองไม่เห็นว่าคืออะไร แถมใส่ชุดนอนมาแล้วด้วย

มิยูกิเบิกตานิดหน่อย "ฟุรุยะ มีอะไรรึเปล่า?"

ฟุรุยะมองกลับด้วยแววตาเคร่งเครียด มิยูกิคิดทันทีว่า มาแล้วสินะ ทว่าฝ่ายนั้นก็แบมือให้เห็นขวดน้ำยาทาเล็บ ความผิดหวังทิ่มแทงแว่บหนึ่ง แต่มิยูกิก็แสร้งเมิน เขาไม่ได้หงุดหงิดซะหน่อย เขาก็แค่... เออ ช่างเหอะ

"ที่บอกว่าให้หาคนช่วยทาให้นี่ไม่ได้หมายถึงฉันนะเว้ย" มิยูกิบ่น แต่ก็เปิดประตูให้ฟุรุยะเข้าไปข้างใน

ฟุรุยะเข้าไปนั่งบนพื้น จุดเดิมกับคราวที่แล้ว มิยูกิโยนผ้าเช็ดตัวพาดเก้าอี้แล้วลงมานั่งข้างๆ เขายื่นมือกุมมือของพิชเชอร์แล้วสำรวจใกล้ๆ เล็บของฟุรุยล้างน้ำยาออกไปและถูกตัดมาอย่างเรียบร้อย ไม่มีรอยฉีกแม้แต่นิดเดียว

"ดีมาก ทำให้ได้อย่างนี้นะ" พูดแล้วพยักหน้าชม

ไม่จำเป็นต้องเงยหน้ามองก็รู้ว่าฟุรุยะเปล่งออร่าสว่างไสว เขาแค่นยิ้มโดยอัตโนมัติ

"เอามือวางไว้แล้วอย่าขยับล่ะ" มิยูกิสั่ง วางมือของรุ่นน้องลงบนตักแล้วเปิดขวดน้ำยาทาเล็บ

กลิ่นฉุนๆ กระทบจมูกทันทีที่เขาทาน้ำยาบนนิ้วแรก มิยูกิทาต่อให้อย่างรวดเร็วจนมือข้างแรกทาเสร็จหมด เขาจึงทำท่าขอมืออีกข้าง การทาเล็บไม่ใช่เรื่องยากอะไรถ้าทำจนชิน และมิยูกิก็เก่งพอที่จะทำให้เสร็จไวๆ ได้ ฟุรุยะนั่งอยู่เงียบๆ ตลอดไม่ผิดจากที่คาดไว้เท่าไหร่ เขาจึงสะดุ้งน้อยๆ จนทาเล็บให้พลาดเมื่ออีกฝ่ายเปิดปากพูด

"วันอาทิตย์นี้รุ่นพี่ว่างรึเปล่าครับ"

มิยูกิเอื้อมไปหยิบกระดาษมาเช็ดยาทาเล็บออกลวกๆ เอาเถอะ มันก็เป็นยาทาเล็บแบบใส เดี๋ยวล้างก็ออก

"นายจะเอาฉันไปทำอะไรวันอาทิตย์?" เขาถามเรียบๆ ทาเล็บนิ้วก้อยให้

ฟุรุยะไม่ได้ตอบทันที มิยูกิเงยหน้ามอง หยิบฝาขวดมาปิด แล้วเห็นสีชมพูเรื่อๆ ที่ผุดขึ้นมาบนหน้าอีกฝ่าย สำหรับฟุรุยะแล้วพอเขาทำแบบนี้ด้วยก็มักจะเป็นอย่างนี้ แต่การเห็นฝ่ายนั้นขบริมฝีปากเบาๆ แล้วกลอกตาหลบมันสนุกน้อยเสียเมื่อไหร่ล่ะ

"ไป... ดูหนัง แล้วก็กินเค้ก" ฟุรุยะตอบ ลังเลนิดๆ

ดูหนังน่ะโอเค แต่ "เค้ก?"

"หวานดีน่ะครับ" รุ่นน้องตอบ "รุ่นพี่มิยูกิไม่ชอบของหวานเหรอครับ"

มิยูกิไม่ได้เกลียดของหวาน แต่ไม่ได้กินเค้กบ่อยมากนัก นี่คือความพยายามของคุราโมจิในการคิดแผนเดทเรอะเนี่ย? "ฉันยังไงก็ได้" เขาว่า "แล้วนายหมายถึงหนังแบบไหนล่ะ"

"อะไรก็ได้ที่รุ่นพี่อยากดูครับ"

"อืม..." มิยูกิครางเบาๆ "ตอนนี้ฉันไม่ได้อยากดูอะไร วันอาทิตย์อยากนอนเฉยๆ มากกว่า วันเสาร์ก็มีซ้อมแข่งด้วยนี่นา"

คิดว่าเขาจะใจอ่อนยอมให้ง่ายๆ งั้นเหรอ อย่าหวัง-

ฟุรุยะหยุดพูด กลืนน้ำลายลงคอ เปลี่ยนไปนั่งคุกเข่า แล้วจู่ๆ ก็กุมมือเขาแน่น มิยูกิเกือบอ้าปากด่าว่าน้ำยาทาเล็บยังไม่แห้ง แต่พอสบเห็นแววตาแบบเดิมที่เคยจ้องเขาแล้วก็--

"วันอาทิตย์นี้ไปเดทกับผมนะครับ รุ่นพี่มิยูกิ"

พอได้ยินประโยคนั้นออกจากปากฟุรุยะเข้าจริงๆ ทำเอามิยูกิตัวแข็งเป็นหิว ริมฝีปากชาดิกขณะเขาพยายามจะขยับปากตอบ นี่มันเดจาวูชัดๆ เขาพยายามบอกปัดความรู้สึกของฟุรุยะไม่ให้คืบหน้าไปมากกว่านี้ ส่วนอีกฝ่ายก็ผลักเขาไปข้างหน้าแบบไม่ทันตั้งตัว

มิยูกิหลบตา ความเงียบผ่านไปชั่วครู่ ฟุรุยะมองเขาออกอีกแล้ว เขากำลังจะตอบว่า 'ไม่' โดยที่ได้ยินคำเตือนของคุราโมจิก้องอยู่ในหัว 'นี่มันเลยเถิดไปไกลแล้ว นายต้องเลิกทำอะไรบ้าๆ กับหมอนั่นเดี๋ยวนี้' มิยูกิรู้ว่าเขาควรทำอย่างนั้น แต่พอฟุรุยะเคลื่อนใบหน้าเข้ามาชิด แววตาที่จ้องมองตรงมานั่นทำให้เขา โธ่เว้ย...

"ถ้า..." เขาเริ่มพูด ปั้นยิ้มแกนๆ "ถ้านายขว้างลูกได้โดยไม่ทำให้เสียแต้มได้เลยตอนแข่งซ้อมวันเสาร์นี้ ฉันจะลองคิดดู" เขาว่า ทำเหมือนใจกว้างเต็มที่

เขาหยิบขวดยาทาเล็บแล้วยื่นคืนให้ฟุรุยะ "ทำให้ประทับใจหน่อยน้า พ่อสัตว์ประหลาด"

-----------------------

ช่วงต้นเกมฟุรุยะมักจะขว้างได้ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว แต่มิยูกิก็ถึงกับตะลึงที่ฟุรุยะเสียคะแนนไปหนึ่งแต้มหลังเริ่มเกมได้แค่ 10 นาที เอาเถอะ อดไปเดทแล้วล่ะ มิยูกิคิด โยนบอลไปมาในมือก่อนจะโยนกลับไปให้ฟุรุยะ

"ไม่เป็นไร!" เขาว่าแล้วนั่งลงอีกรอบ

ทีมปัจจุบันยังมีจุดอ่อนอยู่มากเพราะรุ่นพี่ปีสามไม่อยู่แล้ว มิยูกิไม่ได้คาดหวังมาก เขาเชื่อว่าทีมนี้แกร่งพอจะชนะได้ถ้าทำอย่างที่ซ้อมกันเสมอ แต่ก่อนอื่น เอซของทีมต้องมั่นคงเสียก่อน ไม่ใช่เสียแต้มตั้งแต่ 10 นาทีแรกแบบนี้

ใจเย็นๆ ฟุรุยะ มิยูกิจ้องที่พิชเชอร์ ขยับถุงมือให้ตรงตำแหน่ง ขว้างลูกต่ำเข้าไว้

ฟุรุยะสูดลมหายใจลึก เหวี่ยงแขนแล้วขว้างลูก มิยูกิเบิกตาเมื่อรู้ว่าลูกบอลไม่ได้มาตรงจุดที่เขานำไว้ให้ ก่อนจะยกถุงมือขึ้นรับแต่ลูกบอลก็กระดอนไปชนรั้วด้านหลัง

"บอล!"

มิยูกิขมวดคิ้วแล้วโยนลูกคืน ขยับถุงมือกลับไปยังตำแหน่งที่ต้องการ จ้องตาฟุรุยะแน่วแน่ ตรงนี้ ฝ่ายพิชเชอร์สูดลมหายใจอีกหน เหยียดแขนขวาไปด้านหลังก่อนจะขว้างลูกออกมา คราวนี้ลูกบอลมาตรงตำแหน่ง แต่ช้ากว่าเดิมไปมาก ยังกับแค่ขว้างลูกเล่น มือตีจึงตีโดนลูกเข้าจังๆ

มิยูกิขบฟันแน่นที่เห็นฟุรุยะเอาแต่ยืนนิ่งๆ มองบอลลอยไปบนฟ้า "ฟุรุยะ! ป้องกันเบส!" เขาตะโกนบอก

มือตีวิ่งผ่านเบสแรกไปแล้ว คุราโมจิรับบอลที่กระดอนพื้นมาได้แล้วขว้างกลับมายังเบสสอง ฮารุอิจิยกถุงมือพร้อมรับจังหวะเดียวกับที่ผู้เล่นวิ่งชาร์จเข้ามา ทุกคนกลั้นลมหายใจในวินาทีนั้น

"เซฟ!"

ทีมเซย์โดครางอย่างเสียดายจากรอบสนาม มิยูกิเหลือบมองที่โค้ชที่จ้องตรงมายังฟุรุยะที่ยืนนิ่งราวกับหัวสมองว่างเปล่า

"ขอเวลานอก" มิยูกิบอกกรรมการ ถอดหมวกออกแล้วพุ่งไปที่เนิน "ฟุรุยะ นายทำอะไรของนาย?" เขาบอกเสียงเบา หากแม้แต่ตัวเองก็รู้ว่ากำลังกระวนกระวายไม่น้อย

ฟุรุยะมักเปิดเกมได้ไม่ค่อยดี แต่นี่มันเกินไปแล้ว

ฝ่ายรุ่นน้องก้มหน้ามองพื้น "ผม... ผมคิดว่า... ผม.."

มิยูกิหรี่ตามองพิชเชอร์ขณะที่คำพูดตะกุกตะกักไร้ความหมายเปล่งจากปากอีกฝ่าย ฟุรุยะเงยหน้าสบตากับมิยูกิหลังเงียบไปสองสามวินาที ทันใดนั้นมิยูกิรับรู้ถึงความสิ้นหวังในแววตาแห้งแล้งคู่นั้น

"ผมแค่อยาก... ให้รุ่นพี่มิยูกิ..."

มิยูกิมองรอบๆ ก่อนจะถอนใจช้าๆ เมินความรู้สึกขมๆ ในปากแล้วตบหัวฟุรุยะเบาๆ

"นายเล่นเพราะว่าฉัน หรือเพราะอยากอยู่บนเนิน?" เขาถาม มองเจ้าตัวโกรธๆ "ถ้านายไม่สนใจการแข่ง ฉันจะบอกให้โค้ชเปลี่ยนซาวามุระหรือคาวาคามิเข้ามาแทน"

ฟุรุยะตื่นตัวขึ้นมาทันทีเพราะคำพูดนั้น บรรยากาศรอบตัวตึงเครียดฉับพลัน "ผมจะอยู่บนเนินครับ"

มิยูกิส่งสายตาให้แล้วพยักหน้า เขาหันมาพูดอีกรอบก่อนจะเดินกลับไปที่โฮม "ฉันไม่ได้ขอให้นายทำอะไรต่างไปจากเดิม นายขว้างลูกได้ดีที่สุดด้วยลูกที่เต็มพลังของนาย ไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่ขว้างลูกมา ที่เหลือให้ฉันจัดการเอง"

ฟุุรุยะมองตอบโดยไม่ได้ยิ้ม แต่มิยูกิรู้ดี

เขาเอนตัวเข้ามาใกล้แล้วกระซิบบอก "ทำให้ฉันประทับใจด้วยลูกของนาย ฟุรุยะ แล้วฉันจะมีรางวัลให้"

มิยูกิเดินกลับมาที่โฮม ออร่าร้อนๆ ลุกไหม้โชติช่วงอยู่บนเนิน ก็ดีที่คุราโมจิอยู่ไกล เขาไม่อยากได้ยินว่าตัวเองเป็นบ้าอะไรถึงได้คอยทำแบบนี้กับฟุรุยะ แต่เขาก็หยุดไม่ได้ มือตีคนต่อไปก้าวมาอยู่ในตำแหน่ง มิยูกิกางแขนแล้วฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์

ขว้างลูกที่ยอดเยี่ยมที่สุดมาสิ ฟุรุยะ

ทำให้ฉันประทับใจหน่อย

ฟุรุยะขยับหมวก สูดลมหายใจช้าๆ แล้วเหวี่ยงแขน

-----------------------------

หลังจบอินนิ่งที่เจ็ดฟุรุยะก็ถูกเปลี่ยนตัว เจ้าตัวหายใจแรง ดูท่าแขนจะล้าเต็มที มาเอโซโนะเข้ามาตบหลังแรงกว่าปกติ คุราโมจิก็เข้ามากอดคอ ยิ้มกว้างใส่

"ฟุรุยะ! ขว้างได้ดี!"

"ไนซ์บอล!"

"ฟุรุยะ เจ้าสัตว์ประหลาดนี่!" คุราโมจิหัวเราะ ขยี้ผมของอีกฝ่ายหยอก

ฟุรุยะปลื้มเต็มที่กับคำชมจนปล่อยออร่าอุ่นๆ ออกมา เขาไม่เสียคะแนนอีกเลยในหกอินนิ่งถัดมา ส่วนใหญ่ก็เป็นสไตรค์แบบหมดหมดจด ลูกแรงเร็วและต่ำ เสียงลูกบอลกระทบเข้าที่มิทท์ของมิยูกิดังก้องกังวานน่าฟัง ครั้งแล้วครั้งเล่า

ซาวามุระยิ้มกว้างให้แล้วยื่นถุงมือมาข้างหน้า "บอล ฟุรุยะ"

ฟุรุยะไม่ยอมปล่อยบอล มันน่าโมโห เขารู้ แต่เขาก็ไม่ชอบยกบอลให้คนอื่น เลยหมุนไหล่โชว์เล่นๆ "ฉันยังขว้างได้อยู่"

"ยืนจะไม่ไหวอยู่แล้วนะ" ฮารุอิจิแซว เอาถุงมือบังปากไม่ให้เห็นรอยยิ้ม

ฟุรุยะเชื่อว่ามิยูกิเข้าข้างเขา เจ้าตัวยืนอยู่ข้างคุราโมจิ กลอกตาให้แล้วยิ้มนิดๆ "กำลังกายนายไม่ดีเองนี่นา ทุ่มเต็มแรงอย่างนั้นตลอดมันก็เป็นอย่างนี้น่ะสิ"

คนฟังเข้าโหมดหดหู่แล้วยอมยกบอลให้พิชเชอร์อีกคน เลิกตื่นเต้นกับการได้อยู่บนเนินที่โดนไล่ลงมา มิยูกิดึงไปนั่งเก้าอี้ใกล้ๆ แล้วก็มีคนเอาผ้าเย็นมาโปะบนไหล่ให้ ไม่นานความสนใจของทุกคนก็กลับไปที่สนามแข่งอีก ฮารุอิจิก้าวออกไปเป็นมือตีไม้แรก ตีลูกได้หมดจดและเซฟ ฟุรุยะเงยหน้าเมื่อมิยูกิตบไหล่เบาๆ แล้วเตรียมพร้อมที่จะออกไปตี

"ทำได้ดีแล้ว" มิยูกิชม เอียงคอแล้วยิ้มให้ก่อนจะเดินออกไปเตรียมตีลูก

ฟุรุยะมองตามแผ่นหลังนั้นเงียบๆ แก้มร้อนขึ้นมานิดๆ กุมมือบนตักแน่น

daiyanoa

Previous post Next post
Up